ผักกาดหอม
ดุเดือดครับ….
อดีตรัฐมนตรีคลัง “สมหมาย ภาษี” โพสต์ความเห็นผ่านโซเชียล หัวข้อ “ไทยคงต้องตายกันยกแผง” ถ้าไม่หยุดอ่าน จะทนไหวหรือครับ
“…วันนี้ (๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๗) ทั่วโลกต่างก็แปลกใจกันมากกับการผงาดขึ้นของหุ้นยกแผงที่ญี่ปุ่น หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นนำโดยนายกรัฐมนตรีใหม่ ชื่อ ชิเงรุ อิชิบะ ของพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party) ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ของญี่ปุ่นได้ประกาศยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๗
ขณะที่นายกฯ ชิเงรุ อิชิบะ ดำรงตำแหน่งได้เพียงเดือนเดียว เห็นท่าไม่ดีก็ประกาศเลือกตั้งทั่วไปให้ประชาชนตัดสินกันใหม่
ท่านทั้งหลายดูกันให้ชัดๆ หน่อยว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของไทยที่ลากยาวกว่าปีตั้งแต่นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน นั้น วันนี้รัฐบาลไทยได้ทำอะไรให้ประชาชนคนไทยระดับรากหญ้าลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้
นอกจากเรื่องแจกเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท จากงบประมาณสองสามแสนล้านบาท
ค่าแรงที่มีนโยบายจะปรับขึ้นกลับเงียบฉี่มากว่าปีแล้ว
ธุรกิจ SMEs ที่ว่าจะส่งเสริมให้ลุกขึ้นมาผลิตสินค้าเพื่อสู้กับประเทศอื่นเขา
เป็นไง
มีอะไรที่เป็นมาตรการดีๆ ออกมาบ้าง
ส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะจะเฉาตายทั้งนั้น
แถมบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ก็อยู่ในภาวะหลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี กันถ้วนหน้ามาร่วมปีเศษแล้ว
รัฐบาลได้แต่คาดหวังว่าการท่องเที่ยวกับการส่งออกจะช่วยการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ลองออกไปสำรวจกันดีๆ เถอะครับ ทั้งด้านโรงแรมและร้านอาหาร สถานบันเทิงทั้งหลาย มีทีท่าว่าลูกค้าจะเพิ่มได้ไม่มากเลย
อย่าหวังลมๆ แล้งๆ ว่า ๓ เดือนข้างหน้านี้การท่องเที่ยวจะมาช่วยดัน GDP ในปีนี้ให้โตถึง ๓%
ผมเองได้ยินมาเต็มหูว่าประเทศคู่แข่งของเราในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม GDP ในปีนี้ของเขาจะขยายตัวสูงกว่า ๕% ทุกประเทศ มันฟ้องฝีมือการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยเราได้อย่างดีอยู่แล้ว
ผมเองไม่อยากจะไปวิจารณ์เรื่องการเมืองหรอกครับ เพราะสิ่งที่ผมดูและสังเกตอยู่ก็เฉพาะเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ครั้งนี้ผมขออนุญาตวิจารณ์การเมืองไทยหน่อยนะครับ
กล่าวคือเรื่องที่เป็นนโยบายจะทำโน่นทำนี่เพื่อแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการยกระดับคนจนระดับล่างให้ดีขึ้น ไม่เห็นรัฐบาลนี้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนับตั้งแต่ท่านเศรษฐาขึ้นเป็นนายกฯ มาแล้ว
ถ้าไม่มีเรื่องแจกเงินแล้ว ไม่มีเรื่องใดที่จะยกมาอ้างให้เห็นได้สักอย่าง นอกจากการคุยโม้โอ้อวดของรัฐมนตรีบางท่านเท่านั้น
แล้วรัฐบาลเราสนใจทำอะไรหรือ จากข่าวที่คนไทยทั่วไปได้ยินได้ฟังกัน เรื่องลำดับสำคัญก็มีแต่เรื่องวางแผนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเขม็งเกลียวอำนาจของพรรครัฐบาลให้กระชับขึ้น
เพื่อการอภัยโทษที่พรรคการเมืองมีคดีอยู่ให้หมดไป เป็นต้น
ส่วนเรื่องโครงการก็เห็นจะมีแต่โครงการสร้าง Entertainment Complex หรือสร้างบ่อนกาสิโนในประเทศขึ้นมาประมาณ ๖ แห่ง ตามข่าวว่าจะสร้างใน กทม. บุรีรัมย์ และอีก ๓-๔ แห่งทั่วทุกภาค
ผมว่าเป็นโครงการที่นอกจากจะมอมเมาประชาชนให้ควบคู่กับโครงการออกหวยบนดินที่ออกมาแทนหวยใต้ดิน โครงการเหล่านี้โดยธรรมชาติมันเปิดช่องให้นักการเมืองบ้านใหญ่ทั้งหลายมีโอกาสทำเรื่องมิดีมิร้ายได้มากโขทีเดียว
ประเทศชาติกำลังตายยกแผงแค่นี้ยังไม่สะใจพอหรือครับ…”
จริงหรือไม่?
สมัยรัฐบาลลุงตู่ ด่ากันเช็ด “ผนงรจตกม.” ผู้นำโง่เราจะตายกันหมด
แต่ก็รอดมาถึงยุครัฐบาลเศรษฐา-แพทองธาร กันทั้งประเทศ
จะตายยกแผงกันหรือเปล่าไม่รู้ เท่าที่เห็นยิ่งอยู่ยิ่งแย่
ก็ลองหลับตานึกดูครับว่า ที่รัฐบาลบอกว่าจะทำนอกจากที่ “สมหมาย ภาษี” ยกมาให้เห็นนั้น มีอะไรบ้าง
ประกาศเป็นศูนย์กลางยานยนต์อีวี ก็ “ลุงตู่” หุงข้าวตั้งสำรับไว้ให้เรียบร้อยแล้ว รัฐบาลคุณหนูแค่อ่านตามโพย แต่ก็ไม่มีอะไรคืบไปกว่าที่ป้อนให้
๗ นโยบายเร่งด่วน ฟื้นเศรษฐกิจ ที่ประกาศไว้ในวันแถลงนโยบาย ถึงวันนี้เร่งไปถึงไหนแล้ว
ฟรีวีซ่าหนุนท่องเที่ยวที่บอกว่าจะสานต่อรัฐบาลที่แล้ว มีอะไรงอกเงยหรือยัง เร่งด่วนจริง ๑ เดือนต้องเห็นผลงานแล้ว เพราะนโยบายแบบนี้ไม่ได้ยากเย็นอะไร
ที่บอกว่า “โอกาส” และ “ความหวัง” นั้นเห็นรำไรหรือยัง
เท่าที่เห็นก็มีกรณีเอาเงินประชาชนมาแจกประชาชน แต่รัฐบาลได้หน้า ภาคภูมิใจราวกับเอาเงินตัวเองมาแจก
สุดท้ายมันไม่ใช่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นนโยบายสงเคราะห์ผู้ยากไร้
ล็อตแรกแจกมา ๑ เดือนเต็ม พอเห็นเค้าพายุหมุนบ้างหรือยัง
เงียบกริบ!
พัดนุ่นยังไม่ปลิว
ไอ้ที่ควรทำไม่ค่อยอยากจะทำ แต่ที่ไม่ควรทำ ขยันกันจริง
นโยบายการเมือง แข็งขันอย่างมาก จะแก้รัฐธรรมนูญกันให้ได้ ทำราวกับว่า หากแก้ไม่ได้จะพากันตายวันนี้วันพรุ่ง
นิรโทษกรรมคดี ม.๑๑๒ ทีแรกเพื่อไทยจะเอาด้วย แต่พรรคร่วมรัฐบาลขวาง ก็ต้องเลือกเอาระหว่างช่วย “ทักษิณ” กับ เสถียรภาพของรัฐบาล
สุดท้ายก็เลือกอย่างหลัง
แต่ก็ส่งหน่วยกล้าตาย อย่าง “ชูศักดิ์-จาตุรนต์” สร้างภาพรักษามวลชน ให้เห็นว่ารัฐบาลเพื่อไทย เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย ยึดหลักสิทธิมนุษยชน เคารพในสิทธิ-เสรีภาพ
แปะเอาไว้ว่าเพื่อไทยก็อยากนิรโทษกรรมคดี ม.๑๑๒ เหมือนกัน ไม่ให้พรรคส้มไปตีกินพรรคเดียว
ครับ…เมื่อดูความมุ่งมั่นแล้ว รัฐบาลมุ่งไปที่การรักษาอำนาจผ่านการเมืองมากกว่าเศรษฐกิจ ทั้งๆ ที่สถานการณ์ปัจจุบัน เศรษฐกิจคือหัวใจหลัก แก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องขี้ไก่
อีก ๑๐ ปีไม่แก้ ประเทศก็ไม่ฉิบหาย
แต่เศรษฐกิจ หากไม่ชัดเจนในแนวทางการแก้ไขวันนี้ พรุ่งนี้ได้กระอักเลือดกันเป็นแถว
ดูยอดขายรถยนต์เดือนกันยายนเป็นตัวอย่าง
แดงยกแผง!
เทียบกับกันยายนปีที่แล้ว ตกไปเกือบ ๔๐%
กำลังซื้อมันหายไปหมด
แถมยอดยึดรถปิกอัปที่ขาดส่งค่างวด พุ่งเป็นประวัติการณ์
ไหนบอกการเมืองดี มีรัฐบาลเลือกตั้ง แล้วเศรษฐกิจจะดีตาม