เข้า “ปลายฝนต้นหนาว อย่างเป็นทางการแล้ว” ศปช.เผย ภาพรวมน้ำท่วมคลี่คลาย เหลือ 5 จังหวัด ด้านการระบายน้ำ จัดการบริหารน้ำทุ่งบางระกำสำหรับเตรียมพื้นที่เกษตร ส่วนการกำจัดขยะ จ.เชียงราย เร่งจัดการขยะใหม่ที่ฝังโคลน สั่งระดมกำลังเข้าเคลียร์ต่อเนื่อง
17 ตุลาคม 2567 เวลา 12.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้ากล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานสถานการณ์อุทกภัยจากฝนที่ตกหนักในช่วง 16 ส.ค. – 17 ต.ค. 67 มีสถานการณ์ในพื้นที่ 46 จังหวัด ซึ่งวันนี้ พฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2567ได้คลี่คลายเกือบทั้งหมดแล้ว คงเหลือพื้นที่น้ำท่วมใน 5 จังหวัดบางส่วนของ ระดับตำบล หมู่บ้าน ได้แก่ ลำพูน พิษณุโลก สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร และพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ โดยหน่วยงานต่าง ๆ ยังคงติดตามให้ความช่วยเหลือ ทั้งการดำรงชีวิตประจำวันและการเร่งระบายน้ำที่คงค้างอยู่ในชุมชน
“ที่ประชุม กรรมการ ศปช.กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงาน ที่บริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยาในปีนี้ทำได้ดี โดยเฉพาะการหน่วงมวลน้ำไว้ในทุ่งบางระกำ ซึ่งกรมชลประทานได้ทำแผนและข้อตกลงในการหน่วงน้ำไว้จำนวน 400 ล้าน ลบ.ม. โดยเตรียมพื้นที่สำหรับรองรับน้ำ 265,000 ไร่ ซึ่งหลังจากฝนในพื้นที่ตอนบนลดลง ทำให้กรมชลประทานเริ่มทยอยระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำแล้ว เหลือพื้นที่รับน้ำอยู่ที่ 163,073 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 61 ของพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะระบายน้ำต่อเนื่องให้คงเหลือที่ระดับ 100 ล้าน ลบ.ม. เพื่อให้เกษตรกรได้สำรองไว้ใช้สำหรับเตรียมแปลงเพาะปลูกต่อไป”
นายจิรายุ กล่าวต่อไป ว่า ศปช.ขอขอบคุณพี่น้องเกษตรกรในลุ่มบางระกำ ทั้งชาวสุโขทัยและพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำที่สำคัญและทำให้ปีนี้ภาพรวมสามารถบริหารจัดการน้ำไม่ให้กระทบพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในลุ่มเจ้าพระยา ซึ่งกรมชลประทานได้เข้าไปดูแลพื้นที่เหล่านี้อย่างใกล้ชิด ทั้งการการส่งเสริมอาชีพให้คนในพื้นที่ยังมีรายได้ มีอาชีพในช่วงน้ำท่วม และการบริหารจัดการน้ำให้เกษตกรได้ทำกินหลังน้ำลด”
นอกจากนี้ที่ประชุม ศปช.ยังได้ติดตามเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มจากฝนที่ตกในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค.67 โดยกรมทรัพยากรธรณีได้ออกประกาศแจ้งเตือนพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ตราด (เขาสมิง บ่อไร่ เกาะช้าง) จ.จันทบุรี (ขลุง เขาคิชฌกูฎ มะขาม) จ.นครศรีธรรมราช (สิชล ลานสกา พิปูน นบพิตำ) จ.สุราษฎร์ธานี (กาญจนดิษฐ์ เคียนซา) จ.เชียงใหม่ (จอมทอง แม่แจ่ม) จ.น่าน (บ่อเกลือ) ซึ่งได้มีการออกประกาศแจ้งเตือนและทำความเข้าใจกับเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ พร้อมจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันทีเมื่อเกิดสถานการณ์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษก ศปช.ส่วนหน้า เปิดเผยว่าในช่วงสายที่ผ่านมา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า ลงพื้นที่ บ้านสามกุลา บ้านแม่ปูนหลวง บ้านหินลาดใน บ้านห้วยทรายขาว อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร และเส้นทางสัญจร ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้จากการติดตามความคืบหน้าฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าวพบว่ามีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก บ้านหลายหลังได้รับการซ่อมแซมจนแล้วเสร็จ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า ได้ลงพื้นที่ อ.แม่สาย ติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟู โรงเรียนชุมชนบ้านไม้ลุงขนมิตรภาพที่ 169 ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนระดมกำลังเข้าฟื้นฟู โดยจะมีการทำความสะอาดครั้งใหญ่ในวันที่ 21-22 ตุลาคมนี้ ก่อนจะส่งมอบพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ต่อไป
สำหรับการจัดการขยะในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้รับรายงานจาก สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเชียงรายว่า ในพื้นที่ อ.เมือง ซึ่งเดิมมีขยะตกค้างจากน้ำท่วมราว 70,000 ตัน ขณะนี้เก็บขนดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว ส่วนในพื้นที่ อ.แม่สาย ได้เก็บขนขยะตกค้างห้วงแรกจำนวน 6,000 ตัน แล้วเสร็จเช่นกัน แต่ยังมีขยะตกค้างในโคลนที่ขุดตามบ้านเรือนประชาชน ในชุมชนเหมืองแดง ชุมชนถ้ำผาจม และหมู่บ้านปิยะพร ซึ่งยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟู โดยคาดว่าทั้งหมดจะดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 21 ตุลาคม นี้