เปลว สีเงิน
“สส.อดิศร เพียงเกษ” นี่…เล่นแรงนะ
เล่นกะใครไม่เล่น
ดันไปเล่นกะ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” พูดจาถากถางเยาะเย้ยเขา เช่นว่า…..
“ในระบอบประชาธิปไตย คุณมีเสียงเดียว จะไปหาวเอาดาว-เอาเดือนได้ยังไง…สภาเนี่ย มี ๑ เสียง ก็สูง ๑ เซ็น
คุณเสรีนี่ พรรคของท่านได้สูงแค่ ๑ เซ็น เป็นรองนายกฯ มันมากไปมั้ย แล้วพรรคอื่นเขาจะว่ายังไง
อย่าให้เขาบอกว่า ยิ่งอายุมาก เหมือนเด็ก มันไม่ดี มันเสียชื่อ มันจะไม่ใช่วีรบุรุษ มันจะเป็นวีรบุรุษงอแงนะ…”
เนี่ย ประมาณนี้
ผมฟังจากข่าว PPTV ช่อง ๓๖ ที่เขานำคลิปเสียงท่านอดิศรพูดออกอากาศเย็นวาน ผมจดๆ หน้าจอมาให้อ่านกัน
คุณเสรีพิศุทธ์ออกมาพูดวันนั้นแล้ว ท่านก็ไม่ออกมาพูดอะไรอีก ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะคุณทักษิณ ท่านก็ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ไม่ออกมาต่อความยาวสาวความยืด
ผมก็ว่าดีแล้ว กากีนั๊งน่า เจ๊าๆ กันไป
แต่ อดิศร สส.ปาร์ตี้ลิสต์เลื่อนอันดับ กลับเล่นบทลูกน้องเจ็บร้อนแทนนาย เอาไม้ไปแหย่เสือ แหย่แรงซะด้วย
มันก็จะเข้าตำรา “ขี้ข้าพานายซวย”!
สส.อดิศรน่ะ ไม่ซวยหรอก
ทักษิณ คือนายนั่นตะหากที่จะซวย ถ้าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เกิดตบะแตก ออกมาแฉแหลก ภาค ๒ ภาค ๓
ที่ชิปอยู่แล้ว….
ด้วยโวหารลูกน้องหาศัตรูให้นาย ก็จะพากันมหาชิปไปทั้งขบวน!
ไม่ต้องมาก ถ้าคุณเสรีพิศุทธ์ ย้อนถามว่า…
พรรคกล้าธรรม “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” เป็นหัวหน้าพรรคไม่มีสส.เลยซักคน ตัวหัวหน้าก็ไม่ได้เป็น สส.
แล้วทำไมเพื่อไทยจึงตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเษตรฯ ได้ล่ะ?”
แค่เนี้ย… คุณอดิศรจะโต้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ด้วยข้ออ้างที่มีเหตุผลอย่างไร ในเมื่อ “พรรคเสรีรวมไทย” ของท่านเสรีฯ มี สส. ๑ คน
ตามทฤษฎีประชาธิปไตยของ สส.อดิศรเอง บอกว่า ๑ เสียง สูง ๑ เซ็น แต่ “พรรคกล้าธรรม” ของรัฐมนตรีนฤมล = สูง ๐ เซ็น
แล้วทำไมล่ะ ด้วยเหตุผลกลใด เพื่อไทยถึงประเคนเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการให้พรรคที่ไม่มีสส.ได้?!
สำหรับผม ไม่ข้องในเรื่องนี้
แต่ประเด็นคุณนฤมล “รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ” ไปติดตามสถานการณ์น้ำที่ “เขื่อนเจ้าพระยา” ชัยนาท วานซืน
นี่ตะหาก มีคนเขาข้อง
อย่างน้อยก็ ๑ คน คือ “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานพรรคไทยภักดี ท่านโพสต์เฟซไว้เป็น”ประเด็นน่าคิด-น่าวิตก”
…………………………..
วรงค์ เดชกิจวิกรม – Warong Dechgitvigrom
#เตือนร้อยเอกธรรมนัส
ผมละเหนื่อยใจกับรัฐบาลมาดามแพ ที่ยังไม่ทันเริ่มต้นทำงาน ก็ต้องมีการร้อง
คุณอย่าไปโทษคนอื่นเลย คุณต้องโทษพวกคุณเอง ที่ไม่เคารพกฏหมายและรัฐธรรมนูญ
ไม่เพียงแต่ตำแหน่งนายกฯ ดู ร.อ.ธรรมนัส กับกระทรวงเกษตรฯ ที่ไปตรวจราชการสำนักชลประธาน จังหวัดชัยนาท
รัฐธรรมนูญมาตรา185 ห้ามส.ส.เข้าไปแทรกแซง การปฏิบัติราชการ
คุณทำแบบนี้ ยิ่งกว่าแทรกแซง
ที่สำคัญ สิ่งที่พวกคุณทำในที่สาธารณะ มีข้าราชการมาต้อนรับ นอกจากขัดรัฐธรรมนูญมาตรา185 แล้ว
คุณกำลังเป็นผู้ทำลายฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของระบอบประชาธิปไตย
มันสะท้อนว่ามีคนที่ใหญ่กว่ารัฐมนตรีในกระทรวงนี้
เพื่อให้หูตาสว่าง อ่านรัฐธรรมนูญมาตรา185 ด้วยครับ
มาตรา 185 รัฐธรรมนูญ 2560
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา
ต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภากระทำการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซง
เพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในเรื่องดังต่อไปนี้
(1) การปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่หรือราชการส่วนท้องถิ่น
(2) กระทำการในลักษณะที่ทำให้ตนมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณหรือให้ความเห็นชอบในการจัดทำโครงการใดๆของหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่เป็นการดำเนินการในกิจการของรัฐสภา
(3) การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนเงินเดือนหรือการให้พ้นจากตำแหน่งของข้าราชการ ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ และมิใช่ข้าราชการการเมือง พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
………………………………….
เนี่ย….
กรณีร้องเรียนนายกฯ อุ๊งอิ๊งเป็นสิบๆ คดี ผมดูประเด็นแล้ว ยังไม่มีคดีไหนทำให้ผมสะดุ้ง
แต่ประเด็นที่คุณหมอวรงค์ยกมานี่ ดูภาพข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ จากหน้าจอโทรทัศน์ แล้ว ผมสะดุ้ง
ด้านหลัง เป็นป้าย “สำนักงานชลประทานที่ ๑๒ ยินดีต้อนรับ….” ต่อจากนั้น ธรรมนัสนั่งบัง มองไม่เห็น
ผู้ที่นั่งเป็น “ประธานที่ประชุม” ข้าราชการชลประทาน แทนที่จะเป็นนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ”
กลับเป็น “รอ.ธรรมนัส” ซึ่งพ้นตำหน่งไปแล้ว
มีแค่สถานะ “สส.พรรคพลังประชารัฐ” เพียงชื่อ
แต่กลับ “สั่งราชการ” แทน “รัฐมนตรีนฤมล” ที่นั่งตาแป๋วอยู่ข้างๆ
ผอ.สำนักงานชลประทาน ที่ ๑๒ บรรยายสรุป แล้วธรรมนัสซักถามสถานการณ์-สั่งการ เป็นฉากเป็นช่อง
พร้อมบอกให้รัฐมนตรีทั้ง ๓ ที่นั่งเรียงเป็นพระอันดับ ให้เฝ้าติดตามเรื่องน้ำ
จากนั้น กล่าวกับบรรดาข้าราชการที่มาร่วมรับฟังการประชุม รับโอวาท และคำสั่งการ ว่า
“วันนี้น่าจะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะมานั่งหัวโต๊ะ ต่อไป ต้องให้รัฐมนตรีทั้ง ๓ คน ลุยกันเอง ผมจะแค่คอยเป็นพี่เลี้ยง”
อืมมมม…คิดในแง่ดีนะ….
ที่คุณธรรมนัสทำตนเป็นรัฐมนตรี สั่งการข้าราชการและฝ่ายบริหารคือรัฐมนตรี น่าจะเป็น “ลูกติดพัน” มากกว่า “ตั้งใจ”
แต่ก็นั่นแหละ “ประชาชนจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายแล้วทำผิดกฎหมาย ย่อมไม่ได้รับการยกเว้น” ฉันใด
คุณธรรมนัส เป็นสส.จะอ้างว่าไม่ตั้งใจ-ไม่มีเจตนาก้าวก้าย แทรกแซง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๕ ย่อมไม่ได้รับการยกเว้น ฉันนั้น
จะอ้างยังเป็น “รัฐมนตรีรักษาการ” อยู่ ก็อ้างไม่ได้แล้ว เพราะตามกฎหมาย การปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีรักษาการนั้น
สิ้นสุดในวัน “ครม.ใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ”
นายกฯแพทองธาร นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฎิญาน เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๗
นั่นคือครม.รักษาการ “หมดวาระ” ไปแล้ว แต่บัดนั้น
ต่อมา อาทิตย์ที่ ๘ กันยายน …….
นางนฤมล รัฐมนตรีเกษตรฯ พร้อมด้วยนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.และนายอัครา พรหมเผ่า รมช. (น้องชายรอ.ธรรมนัส) ไปตรวจสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา
และ “รอ.ธรรมนัส” ซึ่งพ้นรัฐมนตรีรักษาการไปแล้ว เป็นสส.แต่กลับทำหน้าที่สั่งราชการแทน “นางนฤมล-รัฐมนตรีว่าการ” อันมีหลักฐานทั้งภาพและเสียงปรากฎ
นี่แหละ ที่ผมวิตกแทนคุณธรรมนัส ตามประเด็นรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๘๕ ที่บัญญัติว่า
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา
กระทำการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซง เพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
พันไปถึง “รัฐมนตรีนฤมล” ด้วย ในฐานะ “หัวหน้าพรรคกล้าธรรม” เพราะมาตรา ๒๘-๒๙ พรป.พรรคการเมือง ระบุ
“มาตรา ๒๘ ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำ การใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”
“มาตรา ๒๙ ห้ามมิให้ผู้ใด ซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”
รัฐมนตรีนฤมล เป็นหัวหน้าพรรคกล้าธรรม รอ.ธรรมนัส ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค หากแต่เป็นสส.พลังประชารัฐ
การยอมให้เขาควบคุม ครอบงำ ชี้นำ เช่นนี้ แม้พรรคกล้าธรรม เบื้องหลังคือพรรค “เศรษฐกิจไทย” ของธรรมนัส ที่เปลี่ยนชื่อใหม่
และ “คุณนฤมล” เพิ่งเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเมื่อ ๖ สิงหา.๖๗ นี้ก็ตาม แต่ถึงอย่างไร รอ.ธรรมนัสก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค
ดังนั้น ผมจึงเสี้ยวววว…เสียว แทน!
ทำไป-ทำมา รัฐมนตรีนฤมลกับสส.ธรรมนัสนี่แหละ มีสิทธิ์แซง”นายกฯแพทองธาร”จะมีคนร้องสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนเพื่อน
เฮ้อ….
กิ้งกือมี ๔๐๐ ขา ยังพลาด นับประสาอะไร นฤมลมี ๒ ขา ธรรมนัส ๒ ขา รวมเป็น ๔ ขา
ถ้าพลาดในครั้งนี้ ก็พูดได้คำเดียว…วัตตตี โลโก กุ๊ก..กุ๊ก!
เปลว สีเงิน
๑๐ กันยายน ๒๕๖๗
