๑๗ ปี ที่ “วนกลับ” ที่เดิม #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

“ประชาธิปไตย”………
ประเภท “พวกมาก-ลากไป” กรีกสมัย ๒ พันกว่าปีที่แล้ว เรียกพวกนี้ ว่า
พวก “ประชาธิปไตย demagogy”
คนไทย “ทาสคิด” พวกหนึ่ง ไปเรียนนอก แทนที่จะเรียนคิด เพื่อนำมาปรับปรุงใช้ ดันไป “เรียนลอก” ของเขามาใช้ทั้งดุ้นซะนี่

คนกิน “กะปิ-น้ำปลา”….
จะ “ให้คิด-ให้ทำ” เหมือนคน “กินเนย-กินชีส” ได้อย่างไร ยุโรปต้นตำรับประชาธิปไตยเอง ยังมีพวก demagogue
แสดงว่า เอาเข้าจริง ประชาธิปไตย ไม่เคยมีอยู่จริง มันเป็นแค่ “จินตนาการ” ของนักคิด

เมื่อนำมาใช้จริง แม้กับในยุโรปเองก็เถอะ การปกครองมันก็หนีไม่พ้นประชาธิปไตย “พวกมาก-ลากไป”!

พอ “คณะราษฎร” ลอกเขามาใช้ปกครองประเทศ หลัง “ยึดอำนาจ” การปกครองประเทศจาก “พระมหากษัตริย์” สำเร็จ

ไอ้ที่ว่า “ของประชาชน-โดยประชาชน-เพื่อประชาชน” ก็เข้าอีหรอบเดียวกัน
เป็นประชาธิปไตย “ของคณะบุคคล-โดยคณะบุคคล -เพื่อคณะบุคคล” ที่เรียก “คณะราษฎร”

เรื่อง “ภาษาศาสตร์” คนไทยกลืนภาษาชาติอื่นเป็นไทยได้เก่ง ฝรั่งเรียก “ประชาธิปไตยเดมาก๊อก”

โฮ้ย…ก๊อกๆ แก๊กๆ เรียกยาก ชาวบ้านบัญญัติศัพท์ให้ใหม่เป็นไทย ไฉไลไปเลยว่า
“ประชาธิปไตย หมาหมู่”!

ฟังปุ๊บ เห็นภาพ-เข้าใจปั๊บ ว่าหมายถึงอะไร-แบบไหน อย่างเมื่อวาน…
เห็นพวกที่ยกตัวเองเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย”

ออกมาใช้ “เสรีภาพ-ภราดรภาพ-เสมอภาค” กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่ง ซึ่งท่านไปสัมมนาวิชาการที่สุราษฎร์ธานี หลายวันก่อน

มีผู้ร่วมฟังการสัมนา ถามท่านเรื่องยุบพรรค คำถามเต็มๆและคำตอบเต็มๆจากตุลาการท่านนั้น มีอย่างไรบ้าง ผมไม่ได้อยู่ในที่สัมมนา จึงไม่ทราบละเอียด

ก็เพิ่งได้ฟังจากข่าวโทรทัศน์ที่หลายช่องนำบางตอนที่ตุลาการท่านนั้นตอบมาเป็นข่าวเท่านั้น
แล้ว “ประชาธิปไตยหมาหมู่” ก็เกิดขึ้น จากเรื่องนี้

ได้ดู-ได้ฟัง ก็อดยิ้มที่มุมปากแบบ “ชีพ ชูชัย” พระเอกหนังเรื่อง “เล็บครุฑ” เมื่อ ๕๐-๖๐ ปี ก่อนไม่ได้

พวกที่อ้างเป็นประชาธิปไตยทั้งดุ้น ดิ้นกันเหมือนถูกน้ำหน่อไม้ดองราดหลัง

ก็เห็นโหยหวน-ร้องหาพื้นที่ประชาธิปไตยจากคนอื่นมาตลอด เป็นคนต้องเท่ากัน ต้องมีสิทธิเสรีภาพแสดงความคิดเห็น เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องรับฟังคำวิพากษ์-วิจารณ์จากผู้อื่นได้เสมอ

แล้วนี่อะไรกัน?
ตุลาการท่านนั้น ตอบคำถามอยู่ในวงสัมนาวิชาการ ว่าด้วยเรื่อง “ศาลรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐”

เมื่อมีคำถามเรื่องยุบพรรค ท่านก็ตอบและยกข้อเท็จจริงตามปรากฎต่อสาธารณะพูดประกอบ

“ความจริง” ฟังแล้วมันเจ็บแสบ ไม่เคลิบเคลิ้มเหมือนคำชวนล้มล้าง “ขุดราก-ถอนโคน” สถาบัน ชวนเผาไปเลย..พี่น้อง อย่างนั้นใช่มั้ย?

ก็ไหนว่าประชาธิปไตย ตรวจสอบได้-วิพากษ์-วิจารณ์ได้ไงล่ะ?

หรือตรวจสอบ-วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเขาได้ แต่คนอื่นจะมาตรวจสอบ-วิพากษ์วิจารณ์พวกกูไม่ได้

แม้ยกความจริงสาธารณะมาพูดประกอบเป็นตัวอย่างทางวิชาการก็ไม่ได้
เอากันอย่างนั้นเลยเรอะ?

เห็นดิ้นกันพราดๆ เป็นท่านไส้เดือนผู้ทรงเกือกคลุกขี้เถ้า ออกมารุมเห่า-รุมขย้ำ ทั้งในรั้ว-นอกรั้ว
เอากันจมเขี้ยวไปเลย!

ก็ทีเรื่องไหนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่เป็นคุณฝ่ายตน ดาหน้ากันออกมา “สาดเสีย-เทเสีย” ศาลรัฐธรรมนูญ บางถ้อยคำเข้าข่ายหมิ่นศาลด้วยซ้ำ

แต่ศาลฯ ท่านให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเต็มที่ ไม่เคยถือเป็นเรื่องราวใหญ่โต อย่างดีแค่เตือนให้ระมัด-ระวังเท่านั้น

ทีอย่างนั้น อ้างสิทธิเสรีภาพ ทำกันได้
แต่พอตุลาการ “เอาความจริงมาพูด” โดยมีสร้อยภาษาประกอบทางวิชาการบ้าง กลับบอก…เป็นการเสียดสี เยาะเย้ย!?

“เสรีภาพ” มีเฉพาะ “แดงส้ม-สามนิ้ว” เท่านั้น”
ตุลาการ “ห้ามมี-ห้ามใช้”

แม้กระทั่งจะนำข้อเท็จจริงอันประจักษ์ไปพูดประกอบการสัมมนาก็ไม่ได้อย่างนั้นใช่มั้ย?

ถ้าใช่….
ผมจะได้นำเสรีภาพที่โหยหาไปจัดเข้าหมวดหมู่ได้ถูก ว่าแบบนี้ เป็นประชาธิปไตยเดมาก๊อก และแบบนี้ เป็นประชาธิปไตยหมาหมู่!

ผมจะยกบางประโยคที่ตุลาการท่านนั้นพูดในวงสัมมนามาให้ท่านช่วยกันวินิจฉัยก็ได้ว่า “ผิดจริยธรรมร้ายแรง” ตามที่ฝ่ายประชาธิปไตยแดงส้มเขาจะเอาเป็น-เอาตายตรงไหน?

แกะเฉพาะจากเสียงตามคลิปที่สื่อเผยแพร่ มีประมาณนี้
…………………..

“……..เงิน ๒๐ ล้าน จริงๆ ต้องขอบคุณผมนะ มีการยุบพรรคเขา เห็นมั้ยครับ เขาได้เงินตั้งกี่ล้านภายใน ๒ วัน ถ้าไม่ยุบ เขาร้องไห้ฟรีเลยนะ

ก่อนหน้านั้น เงินไม่มีนะ ต้องขอบคุณผมนะ ที่ทำให้เขามีเงิน ๒๐-๓๐ ล้าน

คนเชียร์ ก็เชียร์สุดใจขาดดิ้น ไม่ฟังคนอื่น ฟังสั้นๆ พอแล้ว รู้ว่าไม่ควรยุบ แต่ยุบเพราะอะไร ไม่รู้…ไม่สนใจ

พอยุบปั๊บ ไปเปิดพรรคใหม่ได้ เอ้า…ไม่ข้องใจแล้วหรือ?

เมื่อวานร้องไห้ พรรคเราจะไปแล้ว อย่างนั้น-อย่างนี้

โอ้โห..สองวันรู้เรื่อง จากน้ำตาเป็นเสียงหัวเราะ ยักไหล่แล้วไปต่อ

เขายังมีปัญหาอยู่ พรรคคุณยังไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ แล้วคุณไปรับเงิน คุณออกในนามพรรคประชาชน ซึ่งคุณยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ ทำได้เปล่า…นี่กำลังมีปัญหาอยู่?

เขาบอก..เอ้า ผมใช้บัญชีเดิม
เขากำลังตรวจสอบ บัญชีเดิมของพรรคถิ่นกาขาวจริงหรือเปล่า หรือคุณกำลังเปิดบัญชีใหม่?
………………………..

วันนี้ “ตาดู-หูฟัง-มือเขียน” ไปพร้อมๆ กัน ๓ อย่าง จึงไม่ได้คุยอะไรเป็นโล้-เป็นพาย

ที่ว่าตาดู เพราะ “เนชั่น ทีวี ดินเนอร์ ทอล์ก” เขาเชิญนายทักษิณไปแสดงวิชั่น ก็ต้องคอยเหลือบดูจอ

ส่วนหู ก็ต้องเงี่ยฟัง ว่าผู้ “ครอบครอง” นายกฯ ไทย เขาจะพูดอะไรมั่ง ส่วนมือ ก็ต้องเขียนคุยกับท่านไปด้วยนี่แหละ

สรุป “เอาทุกทาง-เละทุกทาง” วันนี้ เลยคุยไม่รู้เรื่อง เพียงแค่สรุปเป็นความเข้าใจในภาพรวมได้ว่า

-“หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง-นายกฯ รัฐบาลเพื่อไทยตัวจริง” กำลังทอล์ก ออกโทรทัศน์เนชั่น

-๑๖ สิงหา. เป็น ๑๖ ปี แห่งความหลังของ “สุรพล สมบัติเจริญ” ส่วน ๒๒ สิงหา.เป็น ๑๗ ปีแห่งความหลัง ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ครวญคร่ำถึง

-“นายกฯตัวจริง” แถลงนโยบาย “เศรษฐกิจ-การเมือง-การบริหาร-การเงิน-การคลัง-การครอบครอง” ประเทศไทย”

-“ประชานิยม” ลด-แลก-แจก-แถม กำลังกลับมา

-สัญญาน “ต้มยำกุ้ง” ภาค ๒ หลีกเลี่ยงไม่พ้นแน่

-“แก้รัฐธรรมนูญ” เป็นบัญชาของ “นายกฯ ตัวจริง”

-“ผมถูกยัดคดี” คุก ๘ ปี ที่รับสารภาพไป นั่นก็ด้วย

-ต่อจากนี้ “ไม่มีรัฐประหาร” ตัวนายกฯ ตัวจริงบอก

เท่าที่ฟังบ้าง-ไม่ฟังบ้าง ก็คร่าวๆ เป็นหัวข้อได้ประมาณนี้ ถ้าถามว่า งาน “ทักษิณทอล์ก” วิสัยทัศน์ เมื่อคืน งานใหญ่มั้ย…วิ?

ตอบได้ว่า “ใหญ่..ไม่ใหญ่ ไม่รู้….”
รู้แต่ว่า “โรเบิร์ต เอฟ.โกเดค” เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ยังต้องไปร่วมฟัง

มีอะไรเป็นสัญญาน “ทางการเมือง” หรือไม่ ก็ดูกันเอา

ฉะนั้น ไม่ต้องพูดถึงท่านผู้มีเกียรติ เรียกว่า ยกครม.กันไปเลยทีเดียว ขนาดพรรคนอกครม.อย่าง “ประชาธิปัตย์” ยังมีไป

แหวกหน้า-แหวกหลัง เพื่อไหว้ “นายกฯ ตัวจริง” กันถึงขนาดนั้น

บารมีทักษิณนี่ ยังคับแก้ว-คับขวดนะ

ดินเนอร์ทอล์กรายการนี้ โต๊ะละกี่ล้านก็ไม่ทราบ แต่เห็นพ่อค้า-นักธุรกิจ ไปแย่งกันกราบบูชาทักษิณเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่วงษ์ตระกูลกันพรึบพรับ

ถ้าถามว่า เห็นจาระไน “นายกฯ ตัวจริง” ยกสารพัดเรื่อง-สารพัดปัญหาประเทศขึ้นมาพูด แล้วปัญหาสังคมล่ะ ไม่พูดถึงบ้างหรือ?

ก็พูดนะ จั่วหัวประเดิมเรื่องด้วยซ้ำ ว่าสังคมประเทศไทยตอนนี้ ปัญหาที่ต้องแก้ คือเรื่อง…
“ลูกติดยา…แม่ติดหวย”
แล้ว “พ่อ…ติดอะไรล่ะ?”

นายกฯ ตัวจริงพูดถึงหรือเปล่าก็ไม่ทันได้ยิน แต่ผมว่าติดหวยยังดี เดือนละ ๒ งวดเท่านั้น

แต่ “ลูกติดยา” นี่ซี ไม่ใช่เดือนละ ๒ งวด มันจะชั่วโมงละ ๒ ซู๊ดนั่นน่ะซี แล้วจะแก้ยังไง?

ถ้าแก้ได้ ต้อง “ประกาศอิสรภาพ” กัน ให้เอิกเกริกเหมือนธรรมนัสประกาศอิสรภาพจากลุงป้อมวันก่อน เอาอย่างนั้นเลยนะ!

ทั้งหลาย-ทั้งปวง ๑๗ ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก
แล้วทุกอย่าง ประเทศไทย ก็ “วนกลับ” สู่ที่เดิม

ใครไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่

“๑๙ กันยา.” มีในปฏิทินทุกปี แต่อย่าง ๑๙ กันยา.๔๙ ไม่มีแล้ว

เพราะ “นายกฯ ตัวจริง” เขารับประกัน…
ต่อจากนี้ ไม่มี “ปฏิวัติ-รัฐประหาร”!?

เปลว สีเงิน
๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๗

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from plew
“สุโขทัย” กับ “ชลน่าน” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ทักษิณเปรียบชาวบ้านเป็น “คนตาบอด” ส่วนตัวเขาเป็น “เสือ” ความหมายที่เขาพูด ก็คือ เพื่อการหาเสียง อะไรที่พูดหลอกเอาคะแนนชาวบ้านได้ ก็พูดไปเถอะ เพราะ...
Read More
0 replies on “๑๗ ปี ที่ “วนกลับ” ที่เดิม #เปลวสีเงิน”