เปลว สีเงิน
“ประชาธิปไตย”………
ประเภท “พวกมาก-ลากไป” กรีกสมัย ๒ พันกว่าปีที่แล้ว เรียกพวกนี้ ว่า
พวก “ประชาธิปไตย demagogy”
คนไทย “ทาสคิด” พวกหนึ่ง ไปเรียนนอก แทนที่จะเรียนคิด เพื่อนำมาปรับปรุงใช้ ดันไป “เรียนลอก” ของเขามาใช้ทั้งดุ้นซะนี่
คนกิน “กะปิ-น้ำปลา”….
จะ “ให้คิด-ให้ทำ” เหมือนคน “กินเนย-กินชีส” ได้อย่างไร ยุโรปต้นตำรับประชาธิปไตยเอง ยังมีพวก demagogue
แสดงว่า เอาเข้าจริง ประชาธิปไตย ไม่เคยมีอยู่จริง มันเป็นแค่ “จินตนาการ” ของนักคิด
เมื่อนำมาใช้จริง แม้กับในยุโรปเองก็เถอะ การปกครองมันก็หนีไม่พ้นประชาธิปไตย “พวกมาก-ลากไป”!
พอ “คณะราษฎร” ลอกเขามาใช้ปกครองประเทศ หลัง “ยึดอำนาจ” การปกครองประเทศจาก “พระมหากษัตริย์” สำเร็จ
ไอ้ที่ว่า “ของประชาชน-โดยประชาชน-เพื่อประชาชน” ก็เข้าอีหรอบเดียวกัน
เป็นประชาธิปไตย “ของคณะบุคคล-โดยคณะบุคคล -เพื่อคณะบุคคล” ที่เรียก “คณะราษฎร”
เรื่อง “ภาษาศาสตร์” คนไทยกลืนภาษาชาติอื่นเป็นไทยได้เก่ง ฝรั่งเรียก “ประชาธิปไตยเดมาก๊อก”
โฮ้ย…ก๊อกๆ แก๊กๆ เรียกยาก ชาวบ้านบัญญัติศัพท์ให้ใหม่เป็นไทย ไฉไลไปเลยว่า
“ประชาธิปไตย หมาหมู่”!
ฟังปุ๊บ เห็นภาพ-เข้าใจปั๊บ ว่าหมายถึงอะไร-แบบไหน อย่างเมื่อวาน…
เห็นพวกที่ยกตัวเองเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย”
ออกมาใช้ “เสรีภาพ-ภราดรภาพ-เสมอภาค” กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่ง ซึ่งท่านไปสัมมนาวิชาการที่สุราษฎร์ธานี หลายวันก่อน
มีผู้ร่วมฟังการสัมนา ถามท่านเรื่องยุบพรรค คำถามเต็มๆและคำตอบเต็มๆจากตุลาการท่านนั้น มีอย่างไรบ้าง ผมไม่ได้อยู่ในที่สัมมนา จึงไม่ทราบละเอียด
ก็เพิ่งได้ฟังจากข่าวโทรทัศน์ที่หลายช่องนำบางตอนที่ตุลาการท่านนั้นตอบมาเป็นข่าวเท่านั้น
แล้ว “ประชาธิปไตยหมาหมู่” ก็เกิดขึ้น จากเรื่องนี้
ได้ดู-ได้ฟัง ก็อดยิ้มที่มุมปากแบบ “ชีพ ชูชัย” พระเอกหนังเรื่อง “เล็บครุฑ” เมื่อ ๕๐-๖๐ ปี ก่อนไม่ได้
พวกที่อ้างเป็นประชาธิปไตยทั้งดุ้น ดิ้นกันเหมือนถูกน้ำหน่อไม้ดองราดหลัง
ก็เห็นโหยหวน-ร้องหาพื้นที่ประชาธิปไตยจากคนอื่นมาตลอด เป็นคนต้องเท่ากัน ต้องมีสิทธิเสรีภาพแสดงความคิดเห็น เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องรับฟังคำวิพากษ์-วิจารณ์จากผู้อื่นได้เสมอ
แล้วนี่อะไรกัน?
ตุลาการท่านนั้น ตอบคำถามอยู่ในวงสัมนาวิชาการ ว่าด้วยเรื่อง “ศาลรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐”
เมื่อมีคำถามเรื่องยุบพรรค ท่านก็ตอบและยกข้อเท็จจริงตามปรากฎต่อสาธารณะพูดประกอบ
“ความจริง” ฟังแล้วมันเจ็บแสบ ไม่เคลิบเคลิ้มเหมือนคำชวนล้มล้าง “ขุดราก-ถอนโคน” สถาบัน ชวนเผาไปเลย..พี่น้อง อย่างนั้นใช่มั้ย?
ก็ไหนว่าประชาธิปไตย ตรวจสอบได้-วิพากษ์-วิจารณ์ได้ไงล่ะ?
หรือตรวจสอบ-วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเขาได้ แต่คนอื่นจะมาตรวจสอบ-วิพากษ์วิจารณ์พวกกูไม่ได้
แม้ยกความจริงสาธารณะมาพูดประกอบเป็นตัวอย่างทางวิชาการก็ไม่ได้
เอากันอย่างนั้นเลยเรอะ?
เห็นดิ้นกันพราดๆ เป็นท่านไส้เดือนผู้ทรงเกือกคลุกขี้เถ้า ออกมารุมเห่า-รุมขย้ำ ทั้งในรั้ว-นอกรั้ว
เอากันจมเขี้ยวไปเลย!
ก็ทีเรื่องไหนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่เป็นคุณฝ่ายตน ดาหน้ากันออกมา “สาดเสีย-เทเสีย” ศาลรัฐธรรมนูญ บางถ้อยคำเข้าข่ายหมิ่นศาลด้วยซ้ำ
แต่ศาลฯ ท่านให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเต็มที่ ไม่เคยถือเป็นเรื่องราวใหญ่โต อย่างดีแค่เตือนให้ระมัด-ระวังเท่านั้น
ทีอย่างนั้น อ้างสิทธิเสรีภาพ ทำกันได้
แต่พอตุลาการ “เอาความจริงมาพูด” โดยมีสร้อยภาษาประกอบทางวิชาการบ้าง กลับบอก…เป็นการเสียดสี เยาะเย้ย!?
“เสรีภาพ” มีเฉพาะ “แดงส้ม-สามนิ้ว” เท่านั้น”
ตุลาการ “ห้ามมี-ห้ามใช้”
แม้กระทั่งจะนำข้อเท็จจริงอันประจักษ์ไปพูดประกอบการสัมมนาก็ไม่ได้อย่างนั้นใช่มั้ย?
ถ้าใช่….
ผมจะได้นำเสรีภาพที่โหยหาไปจัดเข้าหมวดหมู่ได้ถูก ว่าแบบนี้ เป็นประชาธิปไตยเดมาก๊อก และแบบนี้ เป็นประชาธิปไตยหมาหมู่!
ผมจะยกบางประโยคที่ตุลาการท่านนั้นพูดในวงสัมมนามาให้ท่านช่วยกันวินิจฉัยก็ได้ว่า “ผิดจริยธรรมร้ายแรง” ตามที่ฝ่ายประชาธิปไตยแดงส้มเขาจะเอาเป็น-เอาตายตรงไหน?
แกะเฉพาะจากเสียงตามคลิปที่สื่อเผยแพร่ มีประมาณนี้
…………………..
“……..เงิน ๒๐ ล้าน จริงๆ ต้องขอบคุณผมนะ มีการยุบพรรคเขา เห็นมั้ยครับ เขาได้เงินตั้งกี่ล้านภายใน ๒ วัน ถ้าไม่ยุบ เขาร้องไห้ฟรีเลยนะ
ก่อนหน้านั้น เงินไม่มีนะ ต้องขอบคุณผมนะ ที่ทำให้เขามีเงิน ๒๐-๓๐ ล้าน
คนเชียร์ ก็เชียร์สุดใจขาดดิ้น ไม่ฟังคนอื่น ฟังสั้นๆ พอแล้ว รู้ว่าไม่ควรยุบ แต่ยุบเพราะอะไร ไม่รู้…ไม่สนใจ
พอยุบปั๊บ ไปเปิดพรรคใหม่ได้ เอ้า…ไม่ข้องใจแล้วหรือ?
เมื่อวานร้องไห้ พรรคเราจะไปแล้ว อย่างนั้น-อย่างนี้
โอ้โห..สองวันรู้เรื่อง จากน้ำตาเป็นเสียงหัวเราะ ยักไหล่แล้วไปต่อ
เขายังมีปัญหาอยู่ พรรคคุณยังไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ แล้วคุณไปรับเงิน คุณออกในนามพรรคประชาชน ซึ่งคุณยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ ทำได้เปล่า…นี่กำลังมีปัญหาอยู่?
เขาบอก..เอ้า ผมใช้บัญชีเดิม
เขากำลังตรวจสอบ บัญชีเดิมของพรรคถิ่นกาขาวจริงหรือเปล่า หรือคุณกำลังเปิดบัญชีใหม่?
………………………..
วันนี้ “ตาดู-หูฟัง-มือเขียน” ไปพร้อมๆ กัน ๓ อย่าง จึงไม่ได้คุยอะไรเป็นโล้-เป็นพาย
ที่ว่าตาดู เพราะ “เนชั่น ทีวี ดินเนอร์ ทอล์ก” เขาเชิญนายทักษิณไปแสดงวิชั่น ก็ต้องคอยเหลือบดูจอ
ส่วนหู ก็ต้องเงี่ยฟัง ว่าผู้ “ครอบครอง” นายกฯ ไทย เขาจะพูดอะไรมั่ง ส่วนมือ ก็ต้องเขียนคุยกับท่านไปด้วยนี่แหละ
สรุป “เอาทุกทาง-เละทุกทาง” วันนี้ เลยคุยไม่รู้เรื่อง เพียงแค่สรุปเป็นความเข้าใจในภาพรวมได้ว่า
-“หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง-นายกฯ รัฐบาลเพื่อไทยตัวจริง” กำลังทอล์ก ออกโทรทัศน์เนชั่น
-๑๖ สิงหา. เป็น ๑๖ ปี แห่งความหลังของ “สุรพล สมบัติเจริญ” ส่วน ๒๒ สิงหา.เป็น ๑๗ ปีแห่งความหลัง ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ครวญคร่ำถึง
-“นายกฯตัวจริง” แถลงนโยบาย “เศรษฐกิจ-การเมือง-การบริหาร-การเงิน-การคลัง-การครอบครอง” ประเทศไทย”
-“ประชานิยม” ลด-แลก-แจก-แถม กำลังกลับมา
-สัญญาน “ต้มยำกุ้ง” ภาค ๒ หลีกเลี่ยงไม่พ้นแน่
-“แก้รัฐธรรมนูญ” เป็นบัญชาของ “นายกฯ ตัวจริง”
-“ผมถูกยัดคดี” คุก ๘ ปี ที่รับสารภาพไป นั่นก็ด้วย
-ต่อจากนี้ “ไม่มีรัฐประหาร” ตัวนายกฯ ตัวจริงบอก
เท่าที่ฟังบ้าง-ไม่ฟังบ้าง ก็คร่าวๆ เป็นหัวข้อได้ประมาณนี้ ถ้าถามว่า งาน “ทักษิณทอล์ก” วิสัยทัศน์ เมื่อคืน งานใหญ่มั้ย…วิ?
ตอบได้ว่า “ใหญ่..ไม่ใหญ่ ไม่รู้….”
รู้แต่ว่า “โรเบิร์ต เอฟ.โกเดค” เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ยังต้องไปร่วมฟัง
มีอะไรเป็นสัญญาน “ทางการเมือง” หรือไม่ ก็ดูกันเอา
ฉะนั้น ไม่ต้องพูดถึงท่านผู้มีเกียรติ เรียกว่า ยกครม.กันไปเลยทีเดียว ขนาดพรรคนอกครม.อย่าง “ประชาธิปัตย์” ยังมีไป
แหวกหน้า-แหวกหลัง เพื่อไหว้ “นายกฯ ตัวจริง” กันถึงขนาดนั้น
บารมีทักษิณนี่ ยังคับแก้ว-คับขวดนะ
ดินเนอร์ทอล์กรายการนี้ โต๊ะละกี่ล้านก็ไม่ทราบ แต่เห็นพ่อค้า-นักธุรกิจ ไปแย่งกันกราบบูชาทักษิณเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่วงษ์ตระกูลกันพรึบพรับ
ถ้าถามว่า เห็นจาระไน “นายกฯ ตัวจริง” ยกสารพัดเรื่อง-สารพัดปัญหาประเทศขึ้นมาพูด แล้วปัญหาสังคมล่ะ ไม่พูดถึงบ้างหรือ?
ก็พูดนะ จั่วหัวประเดิมเรื่องด้วยซ้ำ ว่าสังคมประเทศไทยตอนนี้ ปัญหาที่ต้องแก้ คือเรื่อง…
“ลูกติดยา…แม่ติดหวย”
แล้ว “พ่อ…ติดอะไรล่ะ?”
นายกฯ ตัวจริงพูดถึงหรือเปล่าก็ไม่ทันได้ยิน แต่ผมว่าติดหวยยังดี เดือนละ ๒ งวดเท่านั้น
แต่ “ลูกติดยา” นี่ซี ไม่ใช่เดือนละ ๒ งวด มันจะชั่วโมงละ ๒ ซู๊ดนั่นน่ะซี แล้วจะแก้ยังไง?
ถ้าแก้ได้ ต้อง “ประกาศอิสรภาพ” กัน ให้เอิกเกริกเหมือนธรรมนัสประกาศอิสรภาพจากลุงป้อมวันก่อน เอาอย่างนั้นเลยนะ!
ทั้งหลาย-ทั้งปวง ๑๗ ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก
แล้วทุกอย่าง ประเทศไทย ก็ “วนกลับ” สู่ที่เดิม
ใครไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่
“๑๙ กันยา.” มีในปฏิทินทุกปี แต่อย่าง ๑๙ กันยา.๔๙ ไม่มีแล้ว
เพราะ “นายกฯ ตัวจริง” เขารับประกัน…
ต่อจากนี้ ไม่มี “ปฏิวัติ-รัฐประหาร”!?
เปลว สีเงิน
๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๗