สภาไม่ยุบฝ่ายค้านแตกคอ-ผักกาดหอม

ก็ธรรมดา เพื่อไทยเป็นพรรคที่คิดว่าตัวเองได้ประโยชน์จากการยุบสภามากที่สุด เพราะคาดการณ์ว่า หากมีการเลือกตั้ง เพื่อไทยจะชนะเป็นพรรคอันดับ ๑

นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นอย่างอื่นไม่ได้ ต้องมาจากพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

เพื่อไทยมั่นใจเต็มร้อย หลังชนะการเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ ว่าตัวเองจะเป็นพรรคอันดับ ๑ แน่นอน

ไม่ใช่เพราะชนะพลังประชารัฐ

แต่เพราะชนะก้าวไกลในสนามเมืองหลวงค่อนข้างขาด

พื้นที่ต่างจังหวัดก้าวไกลจะเอาอะไรไปสู้

นั่นคือเกมที่เพื่อไทยอ่าน และหลังเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ แกนนำพรรคจึงเดินหน้าเต็มสูบ เล่นเกมบีบให้ “ลุงตู่” ยุบสภาให้ได้

ผลที่ตามมาคือ ฝ่ายค้านแตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะมีมุมมองการเมืองที่ไม่เหมือนกัน

เพจเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกล อธิบายเรื่องนี้กระจ่างมากทีเดียว

“…เวลาเพียง ๓๐ นาที จากการโหวตคว่ำรายงานขุดคลองไทย มาถึงการโหวตรายงานเสนอกฎหมายบำนาญแห่งชาติ ทำไมผลลัพธ์ถึงต่างกัน จนนำมาสู่เหตุการณ์สภาล่ม ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

ช่วง ๒ สัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนมาตลอดว่า พรรค ‘เห็นต่าง’ และจะลงมติคว่ำรายงานการศึกษาขุดคลองไทย เพราะก้าวไกลยังกังขาถึงความคุ้มค่าของโครงการเมื่อเทียบกับความเสียหายทางทรัพยากรธรรมชาติและวิถีชีวิตประชาชน รวมถึงกังขาคุณภาพของรายงาน เนื่องจากมีความพยายามวิ่งเต้นจากทุนใหญ่เยอะ

แต่เมื่อพรรคร่วมฝ่ายค้านมีข้อตกลงกันว่าจะไม่แสดงตน ส.ส.พรรคก้าวไกลก็ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น และในเวลาต่อมาที่ประธานการประชุมให้ลงมติ ส.ส.พรรคก้าวไกลจึงค่อยโหวต ‘ไม่เห็นด้วย’

สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นผู้ที่ติดตามศึกษารายงานการขุดคลองไทย กล่าวว่า เมื่อพรรคก้าวไกลสามารถโหวตคว่ำรายงานขุดคลองไทยได้สำเร็จ เพราะฝ่ายรัฐบาลงดออกเสียง จึงทำให้มีพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่พอใจ และต้องการ ‘กลับลำ’ มาโหวตคว่ำผลการศึกษาปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งเดิมพรรคก้าวไกลและทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นด้วยและต้องการให้รายงานนี้ผ่าน

ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกลเห็นหลักฐานจากใบแสดงผลการแสดงตนและลงมติในรายงานขุดคลองไทยว่า บางพรรค ‘แหก’ ข้อตกลงไม่แสดงตนในวาระขุดคลองไทย  พรรคก้าวไกลจึงตัดสินใจว่า ส.ส.พรรคก้าวไกลจะแสดงตนในวาระรายงานปัญหากัดเซาะชายฝั่ง และวาระรายงานบำนาญแห่งชาติบ้าง เพราะพรรคก้าวไกลเป็นเจ้าของเรื่องอยู่

ต้นตอของปัญหาอยู่ที่วาระขุดคลองไทย อย่าหลงประเด็นไปที่เกมสภาล่มจนกลบสาระของวาระขุดคลองไทย พรรคก้าวไกลไม่ได้ ‘แหก’ มติร่วมพรรคฝ่ายค้านก่อน และไม่ได้เสียมารยาททางการเมือง แต่จากนี้ไปก็คงคุมเสียง ‘ไม่แสดงตน’ ลำบากแล้ว

ด้าน ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน  พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากรายงานขุดคลองไทย จนทำให้มีการ ‘เล่นเกม’ ในสภาเช่นนี้ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อพี่น้องประชาชน เพราะยังเหลือร่างกฎหมายค้างพิจารณาอยู่อีกหลายฉบับ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาปากท้องและปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้อีกมาก

ปัจจุบัน ร่างกฎหมายที่ค้างพิจารณาอยู่ตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นกฎหมายที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอ เช่น พ.ร.บ. ธรรมนูญศาลทหารของพรรคประชาชาติที่ถูกเตะถ่วงให้ ครม.ไปศึกษาก่อนลงมติ มีกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอจ่อเข้าสภา ตั้งแต่ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และอีกหลายฉบับ จะทำอย่างไรกันต่อ?

พรรคเพื่อไทยจะแสดงความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ช่วยเป็นองค์ประชุมและผ่านร่างกฎหมายเหล่านี้หรือไม่?

พี่น้องประชาชนเฝ้ารอกฎหมายเหล่านี้มาหลายปีแล้ว  เราจะเตะถ่วง เอากฎหมายของพี่น้องประชาชนมาเป็นตัวประกัน รอให้ พลเอกประยุทธ์ ที่ไม่เคยสนใจว่าสภาจะล่มมาแล้วเกือบ ๒๐ รอบ มาประกาศยุบสภา อย่างนั้นหรือ?

สิ่งที่จะทำให้ประยุทธ์ยุบสภามากที่สุด คือ ออกกฎหมายที่ก้าวหน้า เป็นคุณกับประชาชน โดยเฉพาะร่างกฎหมายดีๆ หลายฉบับของพรรคฝ่ายค้านและภาคประชาชน ไม่มีช่วงไหนที่คะแนนเสียงในสภาจะมีโอกาสได้มากเท่าช่วงนี้อีกแล้ว” ณัฐชากล่าว….

ครับ…ฝ่ายค้านเขาวิจารณ์กันเองนะครับ

ก้าวไกลอยู่ในสภาพกลืนเลือด เพราะโดยเนื้อแท้แล้วทิศทางการทำงานทางการเมืองแตกต่างจากเพื่อไทยอย่างสิ้นเชิง

เพื่อไทยอาศัยชั้นเชิงทางการเมือง ประสบการณ์ทางการเมืองที่มีมากกว่าก้าวไกล เพื่อผลประโยชน์ของพรรคตัวเองเป็นการเฉพาะ

ส่วนก้าวไกล ดูอ่อนพรรษา ตามเกมไม่ทัน ภาพที่ออกมาจึงดูเหมือนถูกเพื่อไทยหลอกซ้ำซาก ตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลปีที่ผ่านมาแล้ว

ไม่มีสัจจะในหมู่โจร แต่จะมีในหมู่นักการเมืองหรือไม่ นี่อาจเป็นคำตอบ

แต่ก้าวไกลก็อย่าลืม มี ส.ส.พรรคตัวเอง ๘ คนแหกโผทำสภาล่มร่วมกับพรรคเพื่อไทยด้วย

ฉะนั้นหากถามหาความรับผิดชอบ ก็กวาดบ้านตัวเองให้เรียบร้อยก่อน

ทำไมพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าสภาล่มบ่อยๆ จะทำให้ “ลุงตู่” ตัดสินใจยุบสภา

คิดน้อยไปหรือเปล่า?

หรือทำสภาล่มเพราะมีจุดประสงค์อื่น

ฝ่ายค้านวิจารณ์กันเองก็เจ็บพอแล้ว โดยเฉพาะการตั้งคำถามเรื่องร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่าเพราะมี “ทุน”  เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

แต่ในทางการเมือง เกมนี้ดูเหมือนเพื่อไทยอ่อนหัด

ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนยุบสภาเพราะสภาล่มบ่อย

ที่ผ่านมายุบสภาเกิดขึ้นไม่กี่กรณี

ยุบสภาเพราะกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาลถูกสภาคว่ำ

ยุบสภาเพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคถอนตัว ทำให้รัฐบาลเสียงไม่พอ

เดือนมิถุนายน ๒๕๔๓ ส.ส.ความหวังใหม่ของ “พ่อใหญ่จิ๋ว” ลาออกทั้งพรรค บีบให้รัฐบาลยุบสภา

แต่นายหัวชวน อยู่ต่อถึงเดือนพฤศจิกายน จึงยุบสภา

สาเหตุมิได้ยุบสภาเพราะความหวังใหม่ลาออกยกพรรค แต่เป็นเพราะ พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดินผ่านแล้ว   ตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ ซึ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติว่าต้องให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด ก็เสร็จสิ้นหมดแล้ว จึงยุบสภา

ฉะนั้น เพื่อไทยก็ดูเอา ทำสภาล่มบ่อยๆ จะได้ผลหรือเปล่า

แต่ที่เป็นผลแล้ว คือซัดกับก้าวไกลมันหยด

สภาไม่ทันยุบ ฝ่ายค้านแตกคอกันก่อนซะแล้ว