กรมการจัดหางาน แนะแรงงานไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถูกนายจ้างทำร้าย กักขัง ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรง

กรมการจัดหางาน แนะนำแรงงานไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต้องการความช่วยเหลือ กรณีถูกนายจ้างทำร้าย กักขัง ให้ติดต่อตำรวจโดยตรง พร้อมย้ำลักลอบไปทำงานไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เสี่ยงถูกเอาเปรียบจากนายจ้าง เงินน้อย งานไม่ตรงปก

นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน ได้รับการประสานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ประชาสัมพันธ์แนวทางขอความช่วยเหลือขณะทำงานอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากปัจจุบันมีคนไทยลักลอบไปทำงานในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างผิดกฎหมาย โดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว/เยี่ยมเยือน (Tourist visa or Visa) จำนวนมาก ผ่านการชักชวนทางโซเชียลมีเดีย นายหน้า หรือคนรู้จัก

โดยแจ้งอัตราค่าจ้างสูงเพื่อจูงใจ ไปทำงานนวดสปา ร้านอาหาร งานเว็บพนันออนไลน์ (Call Center) หรืองานปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน แต่เมื่อเดินทางมาถึงปรากฏว่าสภาพการทำงาน และค่าจ้างไม่ตรงตามที่คาดหวัง บางรายถูกนายหน้ายึดหนังสือเดินทาง ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ บังคับเซ็นสัญญารับสภาพหนี้ หรือถูกบังคับให้ค้าประเวณี

ซึ่งแรงงานไทยส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับแนวทางการขอรับความช่วยเหลือจากตำรวจในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่แตกต่างจากประเทศไทย จึงขอฝากถึงแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หากต้องการความช่วยเหลือจากตำรวจ แรงงานไทยจำเป็นต้องติดต่อกับตำรวจด้วยตนเอง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถเข้าตรวจค้นและดำเนินการให้ความช่วยเหลือได้ทันที และยังสามารถทราบพิกัดปัจจุบันของผู้ร้องจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือด้วย

แต่หากเป็นผู้อื่นหรือหน่วยงานอื่นเป็นผู้ติดต่อแจ้งไป ตำรวจจะต้องขอหมายศาลเพื่อเข้าตรวจค้นสถานที่ก่อนจึงจะเข้าตรวจค้นได้ เมื่อได้รับความช่วยเหลือแล้ว ระหว่างรอดำเนินการเรื่องเอกสารเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ จะเป็นผู้ดูแลให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เช่น การจัดหาอาหารแห้ง ยา และสิ่งของที่รวมถึงการแนะนำที่พักราคาถูก

โดยแรงงานไทยที่ต้องการขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อผ่านสายด่วน (+971) 506525945 เพจ Facebook : Royal Thai Consulate-General, Dubai ไลน์ไอดี (Line ID) : thaiconsulatedubai

“การลักลอบไปทำงาน อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง การไม่ได้เงินเดือนและไม่ได้ทำงานตามข้อตกลง โดยเฉพาะใน UAE ที่หน่วยงานภาครัฐไม่มีอำนาจในการให้ความช่วยเหลือในเคหสถาน ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับแจ้งความและให้ความช่วยเหลือเท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ร้องทุกข์ส่วนใหญ่ไม่ต้องการแจ้งความเพราะเกรงว่าจะถูกจับกุมเนื่องจากเดินทางเข้ามาโดยวีซ่าท่องเที่ยวและลักลอบทำงาน อย่างไรก็ตาม หากถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย หรือเกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่ตนเอง ขอให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันที” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงผ่านระบบ e – Service กรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศได้ที่เว็บไซต์ doe.go.th/ipd และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2245-6763 และ 0-2245-6708 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
ระดม จนท. ช่วยเหลือชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว หลังเกิดน้ำป่าไหลหลากอำเภอปางมะผ้า พร้อมประกาศปิดงดท่องเที่ยว “ถ้ำลอด” ชั่วคราว
12 สิงหาคม 2567 นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เปิดเผยว่า นายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย...
Read More
0 replies on “กรมการจัดหางาน แนะแรงงานไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถูกนายจ้างทำร้าย กักขัง ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรง”