การแสดงมิวสิคัลเทิดพระเกียรติสุดยิ่งใหญ่ครั้งนี้ โดยนักแสดงและนักดนตรีลูกหลานชาวบุรีรัมย์กว่า 200 คน บรรเลงโดยวงดนตรีออร์เคสตรา (Orchestra) วงใหญ่ เครื่องดนตรีกว่า 120 ชิ้น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำจุดเทียนชัยถวายพระพร จากนั้นร่วมเป่าแซกโซโฟน เพลงสดุดีจอมราชา และการมิวสิคัลชุด ลมหายใจของแผ่นดิน
ด้านนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ระบุว่าชาวบุรีรัมย์ ต้องการ แสดงออกถึงความจงรักภักดี และอยากนำเสนอ พระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ต่อประชาชน
สำหรับ การแสดงมิวสิคัล นำเสนอเรื่องราว จ. บุรีรัมย์เมืองแห่ง “สปอร์ต ซิตี้” ที่มีสนามกีฬาชื่อดัง เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่เป็นหมุดหมายของผู้มาเยือน ทั้งสนามฟุตบอลช้างอารีนา สนามเหย้าของทีมปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามระดับโลก ที่จัดแข่งโมโตจีพี และพระมหากรุณาธิคุณ ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ต่อพสกนิกรชาวไทย
ทรงเสด็จวางศิลาฤกษ์ อนุสารีย์บุรีรัมย์, ทรงทำให้คนกรุงเทพ สามารถเปลี่ยนสนามม้านางเลิ้งเป็นสวนสาธารณะ ประชาชนได้เดิน วิ่ง ปั่นจักรยานในพื้นที่ 279 ไร่, พระราชทานที่ดิน 300 ไร่ ทำสวนสัตว์ใหม่ทดแทนสวนสัตว์เขาดิน ที่จ.ปทุมธานี, เสียสละทรัพทย์สินส่วนพระองค์ นับร้อยล้านบาท สร้างแหล่งเก็บน้ำที่บึงสีไฟ จ.พิจิตร 3 พันไร่, พระราชทานรถตรวจเชื้อชีวนิรภัย เคลื่อนที่ 13 คัน ให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อต่อสู้สถานกาารณ์โควิด, พระราชทานเครื่องบินเล็กลาดตระเวณช่วยเหลือประชาชน,วางศิลาฤกษ์ สร้างศาลากลางหลังเก่าจังหวัดบุรีรัมย์,และร่วมสร้างลู่ปั่นจักรยานสุวรรณภูมิ
ตลอด 3 วัน มีกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ส่งต่อลมหายใจ “บริจาคโลหิต” จำนวน 7,200 ยูนิต โดยร่วมบริจาคโลหิตภายในงาน และโรงพยาบาล 10 แห่งในโครงการ รวมทั้ง กิจกรรมโรงทานปันสุข ชาวจังหวัดบุรีรัมย์และร้านค้าชื่อดังต่างๆ นำอาหาร-เครื่องดื่มมาบริการแก่ผู้มาร่วมงานฟรี มีร้านอาหาร ของดีบุรีรัมย์ ร้านชื่อดังที่มาร่วมงาน เช่น เป็ดย่างบุรีรัมย์, ลูกชิ้นยืนกินเจ้าดังหลายเจ้าที่มาร่วมออกร้าน ฯลฯ ตลอด 3 วันกว่า 240 ร้านค้า
พร้อมทั้งแจกเหรียญที่ระลึก เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 80,000 เหรียญ มอบให้กับผู้ร่วมชมงานอีกด้วย