“ไอติม” ก้าวไกล อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ “เราสูญเสียอะไรไปบ้าง? จากการ “เทหมดหน้าตัก” เพื่อดิจิทัลวอลเล็ต”

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 (งบกลางปี) เป็นคนสุดท้ายของพรรคก้าวไกล โดยกล่าวถึงสิ่งที่ประเทศและประชาชนต้องเสียไปจากการ “เทหมดหน้าตัก” เพื่อนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล

ผ่านไปไม่ถึง 4 เดือนหลังสภาฯ อนุมัติงบประมาณปี 2567 ด้วยกรอบวงเงินถึง 3.4 ล้านล้านบาท นายกรัฐมนตรีกลับมาขอให้สภาฯ เติมเงินเพิ่มอีก 1.22 แสนล้านบาทผ่านการออกร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพียงเพื่อให้มีเงินเพียงพอสำหรับนำไปทำดิจิทัลวอลเล็ต และเข็นให้นโยบายนี้เกิดขึ้นให้ได้

นายพริษฐ์ย้ำว่า โจทย์ในวันนี้ไม่ใช่การลงมติเพื่อวินิจฉัยว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ เพราะทุกคนล้วนทราบดีว่าเศรษฐกิจไทยนั้นซบเซา เสมือนคนป่วยที่ต้องการยารักษาระยะสั้นและแผนฟื้นฟูระยะยาว ไม่ใช่การลงมติเพื่อทำนายว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ เพราะไม่ว่ารัฐบาลจะออกนโยบายดีหรือแย่แค่ไหน การโยนเงิน 5 แสนล้านบาทเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ ย่อมทำให้เศรษฐกิจถูกกระตุ้นขึ้นมาในระดับหนึ่งเป็นแน่

ดังนั้น โจทย์สำคัญที่ต้องตั้งคำถามมากที่สุดในวันนี้ คือการ “เทหมดหน้าตัก” เพื่อนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เป็นมาตรการทางเศรษฐกิจที่คุ้มค่าที่สุดแล้วหรือไม่

ในมุมของพรรคก้าวไกล ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายที่ “ได้ไม่คุ้มเสีย” ขนาดของการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจเป็นเพียง “ลมพัดวูบ” มากกว่าพายุหมุนทางเศรษฐกิจ การกระจายตัวของผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจก็อาจจะกระจุกอยู่กับแค่บรรดาบริษัทขนาดใหญ่ ผ่านการออกแบบเงื่อนไขเกี่ยวกับการแปลงเป็นเงินสดที่กลายเป็นกีดกันร้านค้ารายย่อย ความยั่งยืนของการกระตุ้นเศรษฐกิจก็อาจจะเป็นไปอย่างจำกัด เพิ่มได้แค่การบริโภคระยะสั้น แต่ไม่นำไปสู่การลงทุนที่ส่งผลระยะยาว

แต่ในอีกมุมหนึ่ง ราคาที่ประเทศต้องจ่ายจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้มีแค่หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นโดยตรงอย่างน้อย 2.64 แสนล้านบาทจากการเบ่งงบประมาณ 2 ปีติดเพื่อกู้เงินมาทำดิจิทัลวอลเล็ต แต่ยังหมายถึงค่า “เสียโอกาส” ที่ประเทศต้องจ่ายตั้งแต่วันนี้ ในรูปแบบของนโยบายหรือมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่รัฐบาลต้องตัดออกไป มูลค่ารวมกัน 1.75 แสนล้านบาท ทำให้รัฐบาลอาจจะไม่มีงบประมาณเพียงพอในการทำนโยบายอื่นๆ ที่พรรคเพื่อไทยเองก็เคยได้สัญญาไว้กับประชาชน ซึ่งอาจเข้าท่าและช่วยเหลือประชาชนได้ตรงจุดกว่าดิจิทัลวอลเล็ตด้วยซ้ำ

จากเอกสารนโยบายที่พรรคเพื่อไทยส่งให้กับ กกต.อย่างเป็นทางการสำหรับการเลือกตั้ง นอกเหนือจากดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว พรรคเพื่อไทยยังได้มีการเสนอนโยบายไว้ทั้งหมดอีก 69 ข้อ ซึ่งจะต้องมีการใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจากเดิม รวมกันอยู่ที่ 1.3 ล้านล้านบาท

แต่วันนี้ เมื่อรัฐบาลไม่สามารถหางบประมาณสำหรับทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้เหมือนกับที่เคยระบุกับ กกต.และประชาชนไว้ คือ 2.6 แสนล้านบาทจากรายได้รัฐที่เพิ่มขึ้นในปี 2567 และอีก 1 แสนล้านบาทจากภาษีที่ได้กลับมาจากผลคูณทางเศรษฐกิจของดิจิทัลวอลเล็ต

ผลที่ตามมาก็คือการจำเป็นต้องตัดงบประมาณในนโยบายอื่นๆ ของตัวเอง เพื่อเก็บเงินทุกบาทมาเทหมดหน้าตักกับดิจิทัลวอลเล็ตและรักษาหน้าตัวเอง แม้อาจจะต้องแลกมาด้วยความลำบากของประชาชนทั่วประเทศก็ตาม โดยพริษฐ์ขอยกตัวอย่างนโยบายของพรรคเพื่อไทย 3 ด้านที่อาจต้องสูญเสียไป คือการศึกษา พลังงาน และรัฐสวัสดิการ

Written By
More from pp
“หมอน” ที่คนรักการนอนห้ามพลาด! รุ่น Italian Micro Visco Pillow 2.0 จาก LOTUS Mattress
นุ่มสบาย เย็นสดชื่น ดูดซับเหงื่อและระบายความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มอบสัมผัสเย็นต่อเนื่อง ช่วยให้นอนหลับลึกตลอดคืน ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและดีไซน์เรียบหรูจากอิตาลี สู่ประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับ มอบความสบายที่สัมผัสได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เอนกาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการของการนอนหลับอย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เสริมสัมผัสแห่งการพักผ่อนที่เหนือระดับด้วยผ้าหุ้ม ICETECH...
Read More
0 replies on ““ไอติม” ก้าวไกล อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ “เราสูญเสียอะไรไปบ้าง? จากการ “เทหมดหน้าตัก” เพื่อดิจิทัลวอลเล็ต””