นายกฯ ติดตามโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ มุ่งให้ประชาชนมีปริมาณน้ำเพียงพอ ต่อความต้องการอุปโภคบริโภคและการเกษตร

30 มิถุนายน 2567  เวลา 09.30 น. ณ อ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะร่วมด้วย

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า เมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยแก้วได้ทักทายพูดคุยกับข้าราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนที่มารอต้อนรับ ซึ่งมีประชาชนชาวรัตนบุรีนำพวงมาลัย ผ้าขาวม้า เสื่อทอ มามอบให้นายกฯ เพื่อเป็นที่ระลึก

จากนั้น นายกฯ รับฟังบรรยายสรุปโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว บ้านสร้างบก ตำบลหนองบัวบาน จากนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน โดยเมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะสามารถเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้นอีก 300,000 ลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ได้ 3,645 ไร่ และช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปาในเขตอำเภอรัตนบุรี จำนวน 7 ตำบล ราษฎร 4,808 ครัวเรือน และพื้นที่อำเภอสนม จำนวน 2 ตำบล ราษฎร 2,878 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 2 อำเภอ 9 ตำบล ราษฎร จำนวน 7,686 ครัวเรือน ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพียงพอต่อความต้องการอุปโภค บริโภคและการเกษตรของประชาชนในพื้นที่

นายกฯ กล่าวว่าให้เริ่มดำเนินการเพื่อทำให้จุน้ำได้มากขึ้น สำหรับเก็บน้ำหน้าฝน เผื่อไว้ใช้ในหน้าแล้ง และเพื่อการแก้ปัญหาได้ในระยะยาวด้วย และนายกฯ ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ถึงปัญหาน้ำท่วมด้วยความห่วงใย ซึ่งเจ้าหน้าที่รายงานว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวจะประสบปัญหาภัยแล้งเป็นส่วนใหญ่ จากนั้น นายกฯ ได้เดินทางต่อไปยังโรงเรียนรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ เพื่อร่วมประชุมหารือแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ต่อไป

Written By
More from pp
คมนาคม ยืนยัน กรณีสัมปทาน BTS สายสีเขียวเป็นไปตามความเห็นที่ให้ไป ย้ำยึดสัดส่วน ปชช.-ประเทศชาติ เป็นหลัก
เมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)...
Read More
0 replies on “นายกฯ ติดตามโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ มุ่งให้ประชาชนมีปริมาณน้ำเพียงพอ ต่อความต้องการอุปโภคบริโภคและการเกษตร”