สันต์ สะตอแมน
ปากพาจนได้ทุกที่-ทุกเวลา..
“ไม่มีข้อมูลความผิดอะไรเลย เป็นการยัดเยียดข้อหาในช่วงเกิดรัฐประหาร เหตุผลที่สั่งฟ้อง เพราะมีผู้บังคับบัญชาบังคับข่มขู่ให้พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง
และเมื่ออัยการสูงสุดคนเก่าได้มีคำสั่งฟ้องแล้ว อัยการสูงสุดคนปัจจุบันก็ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้อง ทั้งที่คดีไม่มีมูล”
นี่..เป็นคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษที่ได้รับการพักโทษ กรณีที่ตัวเขาถูกฟ้องคดีม.112 ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดจะรู้ร้อนรู้หนาวหรือไม่อย่างไรไม่ทราบ
ทราบแต่..คุณเทพไท เสนพงศ์ ฟังแล้วเดือดร้อนใจแทน จึงได้โพสต์.. “หากสำนักงานอัยการสูงสุดเพิกเฉยไม่ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง
เพื่อให้สังคมได้รับทราบถึงแนวทางการทำงาน และยืนยันข้อกฎหมายว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายทักษิณด้วยเหตุผลใด
จะทำให้สำนักงานอัยการสูงสุดเสียหาย สร้างความเสื่อมเสีย และเกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนว่า สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นเครื่องมือของกลุ่มอำนาจเก่า
ที่ต้องการเล่นงานนายทักษิณ ตามที่นายทักษิณกล่าวอ้างเรื่องผลไม้พิษที่เกิดจากต้นไม้พิษ ได้ยัดเยียดความผิดให้กับนายทักษิณหลายคดี”
ครับ..จะพูดว่าคุณเทพไท “ตามไล่บี้” ก็เห็นจะไม่ผิด ซึ่งผมเองก็เห็นด้วย ขืนปล่อยให้คนปากพล่อยพูดเลอะเลือน-เลอะเทอะได้เรื่อยเปื่อยอยู่เช่นนี้ต่อไป..
ประชาชน-สังคม ประเทศชาติก็มีแต่ความวุ่นวายไม่จบ-ไม่สิ้น!
และนี่ก็คำพูดของนายทักษิณอีกแหละ.. “ตนคิดว่าจะตอบแทนบุญคุณพี่น้อง ประชาชนไทย ประเทศไทย และพระเจ้าอยู่หัว ได้อย่างไร เพราะถือว่าชีวิตที่เหลืออยู่เป็นกำไรชีวิต
ก็อยากจะทำให้เป็นประโยชน์ของพี่น้องประชาชน บ้านเมือง และสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้มากที่สุด”
ซึ่งหากพูดจากมโนสำนึก-ก้นบึ้งจิตใจจริงก็ขอสรรเสริญ-ขอบคุณด้วยความจริงใจ และอยากบอกนายทักษิณว่า..
ตอนนี้อายุก็ล่วงเข้าสู่ 76 ปีแล้ว สุขภาพร่างกายก็ไม่สู้ดี พร้อมที่จะเกิดวิกฤติขั้นอันตรายถึงชีวิตอยู่ตลอดเวลา ก็ไม่อยากให้ต้องเหน็ดเหนื่อย ตรากตรำ
ถ้าคิดจะตอบแทนบุญคุณพี่น้อง ประชาชนไทย ประเทศไทย และพระเจ้าอยู่หัว แค่นายทักษิณปล่อยวาง-เลิกวุ่นวาย ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อยู่กับบ้านเลี้ยงหลานเงียบๆ ตามลำพัง..
เท่านี้ ก็นับว่านายทักษิณได้ “ตอบแทนคุณแผ่นดิน”อย่างสมบูรณ์แล้ว!
ก็..บอกไว้ จะเชื่อ-ไม่เชื่อก็สุดแท้ ส่วนผมเชื่อสนิทแล้วว่าคนเสื้อแดง (บางส่วน)กับนายทักษิณนั้น ความสัมพันธ์ได้ขาดสะบั้นจริง!
ตอกย้ำจากคุณรังษี เสรีชัย (เพื่อนผม) นักร้องลูกทุ่งรุ่นใหญ่เจ้าของเพลง “น้ำกรดแช่เย็น” ที่โพสต์.. “ประกาศกลับมา..แล้วทำไม ชวนเสื้อแดงกลับบ้าน.คนเสื้อแดงไม่เคยไปไหนครับ
ว่าแต่ขอโทษต่อดวงวิญญาณร้อยกว่าชีวิตแล้วยังครับ”
ยัง..ยังมีอีกบางช่วงตอนที่คุณรังษีได้อธิบายความกับคนเสื้อแดงที่มีหน่อเนื้ออันหนึ่งอันเดียวรวมใจกันเป็นประชาธิปไตย หลังนายกฯยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาล
“…ผมกับแกนนำที่เหลือเพียงไม่กี่คนในขณะนั้นได้นำเสนอให้มีการแก้ไขดูแลพี่น้องที่อยู่ในเรือนจำเป็นคดีความและญาติผู้เสียชีวิต..
จนกระทั่งถูกยึดอำนาจกันอีกครั้งความหวังเลยไปได้ไม่ถึงไหน..แต่ในทางตรงกันข้ามเสื้อแดงในขณะนั้นก็โดนแยกปลาออกจากน้ำสลายขั้วเสื้อแดงต่างๆ นานา
ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแกนนำบางคนไม่มีมวลชนแต่กลับได้ดี แต่แกนนำที่เป็นแก่นแท้กลับต้องโดนมองว่าเป็นผู้หาผลประโยชน์ และก็โดนสลายไปได้สำเร็จ..
นี่แหละครับเป็นที่มา. แล้วใครล่ะเป็นคนสลายเสื้อแดงซะเอง”
นั่นแน่..นักโทษใช่ไหมล่ะ?