ทัพเรือ “กระแอม-กระไอ” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“เศรษฐาทัวร์”
ออกเดินทางไป “ฝรั่งเศส-อิตาลี-ญี่ปุ่น” วันนี้
หนึ่งในภารกิจสำคญเพื่อชาติ ครั้งนี้
ไม่ใช่โครงการ “แลนด์บริดจ์” ระนอง-ชุมพร ที่คึกคักยังกะม้าเตะคอก อย่างตอนแรกๆ
เพราะดูท่า “เข็นไม่ไหว-ขายไม่ออก” จึงพับแผน “แลนด์บริดจ์” ซ่อนขายขี้หน้าไปแล้วละมั้ง?
เห็น “เงียบฉี่” ไม่หลุดวจีโขมง-โฉงเฉงเหมือนตอนนั้นเลย

ที่เตรียมไปฟุ้งเที่ยวนี้ เท่าที่ฟัง เน้นหนักด้าน “ซอฟต์ พาวเวอร์”
คราวก่อน เวอร์ด้วย “ผ้าขะม้า”!
คราวนี้ จะเว่อร์ด้วยอะไร ให้นักลงทุนฝรั่งเศส-อิตาลีตาลุก แล้วเข้ามาลงทุน ก็เอาใจช่วยนะ

จะว่าไป ให้เศรษฐาเป็น “นายกฯ เพื่อการท่องเที่ยว” ตรงสเปก เคลมเป็นเครดิตจากตลาดท่องเที่ยวไทย ที่ต่างชาติยังไหลเข้ามาไม่ขาด ยังพอได้

ส่วนแผนงานเพื่อการลงทุนในฐานะ “ผู้นำประเทศ” หวังผลเป็นเนื้อ-เป็นหนัง ดูท่าจะไม่เวิร์ก
เทียบระยะเวลาเข้ามาทำงานกับรัฐมนตรีคลัง “นายพิชัย ชุณหวชิร” จะเห็นความต่างระหว่าง “น้ำกับเนื้อ” ชัด

นายพิชัย เข้ามายังไม่ถึงสัปดาห์มั้ง?
แต่สามารถจับชีพจร “การเมือง-การคลัง” ได้ไว สมเป็นนักการเงิน-การบัญชี มืออาชีพ แถมชำนาญด้าน privatize

เป้าแรก เล็งหาเงินเข้ากระเป๋าคลัง จากตลาดทุน ผุดไอเดีย คืนชีพ “กองทุน LTF” ที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน ๑๕%
ตามด้วยหาเสียงให้รัฐบาล จะปลดแบล็กลิสต์ “ลูกหนี้เงินหมื่น” ที่ค้างชำระกับออมสินและธกส.ด้วยการโยกหนี้ให้ BAM รับหน้าเสื่อ

คนกลุ่มนี้ มีเป็น “ล้านคน”!
จะได้ใจ “ลูกหนี้เงินหมื่น” ด้านบริหารหนี้ไปเต็มๆ ก็คิดดูซิ ย้ายบัญชีหนี้ให้ คนเป็นล้านหลุด “แบล็กลิสต์”

เขาก็มีชีวิตไป “สร้างหนี้ใหม่” จากการ “ไปกู้ต่อ” ตามสไตล์ได้อีก!
เห็นมั้ย ผิดกับนายกฯ วันๆ มีแต่น้ำ ควานหาเนื้อไม่เจอ อย่าว่าแต่เนื้อเลย มะเขือก็ยังทั้งยาก

“แลนด์บริดจ์” น่ะ ไปขายฝรั่งมังฆ้อง เขาไม่สนหรอก ที่คุยว่า “ญี่ปุ่นสนใจ” นั่นพูดเหมือนไม่รู้มรรยาทคนญี่ปุ่น
มองปร๊าดเขาก็รู้ ….

โครงการลักษณะนี้ ไม่ใช่โครงการตอบโจทย์ธุรกิจการลงทุนโดยตรง หากแต่กระเดียดทาง “ยุทธศาสตร์ซ่อนรูปทางธุรกิจ”

ถ้าจะมีประเทศทุนสนใจ ก็มีแต่ “จีน” เท่านั้น!
แต่ถ้าจีนสนใจจริง ป่านนี้เขา “เซ็นสัญญา” ไปนานแล้ว

ขนาดเศรษฐาไปเขียนแผนที่เชิญชวนด้วยมือตัวเอง หวังให้เขาน้ำลายหก
เขาก็หกเหมือนกัน แต่ “หกลงกระโถน”!

ตอนต้นปี คงเห็นข่าว “นายพลฮุนมาเน็ต” นายกฯ กัมพูชา ไปเยือนจีน และเข้าพบ “ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง”
ตอนเดือนกุมภา. “นายพลฮุนมาเน็ต” ก็มาเยือนไทย
พบนายกฯเศรษฐา ข่าวบอกว่า คุยกันเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ด้าน “เกาะกูด-เกาะกง” ด้วย

ตามมาด้วยข่าวโลก “กัมพูชาจะขุดคลองยาว ๑๘๐ กม.เป็นทางออกทะเลจีนใต้”
ขุดผ่านโตนเลสาป ทะลุแม่น้ำโขง ไปออกปากอ่าวใกล้ๆ โฮจิมินท์ ของเวียดนาม
ชื่อคลอง “ฟูนัน-เตโช”

หวังใช้เป็นเส้นทางขนส่งจากพนมเปญออกทะเลโดยตรง ไม่ต้องพึ่งพา “ท่าเรือเวียดนาม” เหมือนเดิมอีกต่อไป
เพราะทุกวันนี้ สินค้าที่จะเข้ากัมพูชา ต้องผ่านท่าเรือของเวียดนาม เนื่องจากกรุงพนมเปญ มีแต่แม่น้ำ แต่ไม่มีสายไหนออกสู่ทะเลได้เลย!

“นายกฯ ฮุนมาเน็ต” เสนอโครงการนี้กับจีน และจับมือกันเรียบร้อยไปแล้ว
พูดตรงๆ กัมพูชาขุดคลอง กว้าง-ใหญ่และยาว ๑๘๐ กม.ไม่ไหวหรอก และเงินก็คงไม่มีพอ
“จีนให้กู้-จีนขุด-จีนบริหาร” เป็นระยะเวลา ๔๐-๕๐ ปี “ลงตัว”!

หมายความว่า เมื่อจีนมีคลอง “ฟูนัน-เตโช” ก็หมดห่วงเรื่องเส้นทางขนส่งสินค้าเชื่อม “แปซิฟิก-มหาสมุทรอินเดีย” ที่ต้องผ่าน “ช่องแคบมะละกา”

“คลองไทย-คอคอดกระ-แลนด์บริดจ์” ที่พูดมานานเป็นนิยายปรัมปรา ว่าจีนต้องการสิ่งนี้ เป็นอันว่า “จบ”
ถ้าถามว่า ทำไมจีนเมิน “แลนด์บริดจ์”?
จากจิ๊กซอว์ “ฟูนัน-เตโช” คลองสำรอง “ช่องแคบมะละกา” สำหรับจีน คือคำตอบ

กับไทยน่ะ “กินยาก” ไม่ต้องอื่นไกล
ถ้าเป็นที่อื่น โครงการรถไฟฟ้าขนสินค้า “ไทย-จีน” จากยูนาน-คุณหมิง ออกท่าเรือแหลมฉบัง
ที่ดิน ๒ ข้างทางรถไฟต้องเป็นของจีน และไทยต้องออกเงินเองอีกหลายแสนล้าน นั้น
ป่านนี้ ฉลุยไปนานแล้ว!

เพราะเหตุนั้น ตอนนี้ “เขมร-จีน” ต่างวิน-วิน ในโครงการขุดคลอง “ฟูนัน-เตโช”

สรุปว่า แผ่นดินตรงด้าม “ขวานทองไทย”
ต่อจากนี้ ไม่ต้องนอนสะดุ้ง ว่าใครจะเสนอ ให้ตัด “ด้ามขวาน” ไปเป็น “คลอง” ประหนึ่ง “แยกแผ่นดิน” แล้ว

กัมพูชายุค “นายพลฮุนมาเน็ต” นี่ เขามีแผนยกเครื่องประเทศนับร้อยโครงการ

คลอง “ฟูนัน-เตโช” เป็นหนึ่งในร้อย แต่พอเริ่มเท่านั้นแหละ เกิด “วาทะสงคราม” กับคนเวียดนาม ดุเด็ด-เผ็ดร้อน

“เวียดนาม” มองข้ามช็อตไปถึงว่า….
จะไม่แค่คลองขนส่งสินค้าน่ะซี เอาเข้าจริง จะมีทั้งเรือรบ เรือขนยุทธปัจจัย เข้ามาด้วย

เวียดนามนอกจากจะ “เสียรายได้” จากเรือที่ผ่านท่าของเขาก่อนไปกัมพูชาแล้ว
ยังสะดุ้ง เมื่อบารมีจีนแผ่ผ่าน ทั้งหน้าบ้าน-ข้างบ้าน และหลังบ้าน แบบนี้!

กัมพูชาไม่แค่ขุดคลอง “ฟูนัน-เตโช” เมื่อวาน (๑๔ พค.๖๗) ซึ่งนานๆ ท่าทีเช่นนี้ จะปรากฎสักครั้ง

“กองทัพเรือไทย” ของเรา ……..
โดยโฆษกกองทัพ “พลเรือตรี วีรุดม ม่วงจีน” แถลงเรื่อง “การรักษาสิทธิและอธิปไตยตามแนวเขตแดน ตามการกำหนดเขตแดน โดยกระทรวงการต่างประเทศ”

กรณี……..
“กัมพูชาสร้างเขื่อนกันคลื่น อาจส่งผลให้กัมพูชาอ้างสิทธิในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล กับอาณาเขตทางทะเลของไทย”

เป็นการ “กระแอม-กระไอ” เป็นสัญญานให้รู้ กัมพูชาจะมาแบบ “ม้าอารี” เขยิบกินแดนทีละนิด-ทีละหน่อย แบบเดิมๆ

ถ้าเราไม่ใส่ใจ ปล่อยไป
ก็จะเกิดกรณีอย่าง “ปราสาทเขาพระวิหาร” ที่เอาชาวบ้านมาอยู่ สร้างวัด ทำไร่-ทำนา เอาทหารมาตั้งค่าย
แล้วขีดแผนที่ “ตีขลุม” เป็นดินแดนกัมพูชาไปเลย!

พื้นที่ช่วงรอยต่อ “เขมร-ไทย” ในอ่าวไทย ตรงเกาะกง-เกาะกูด “แหล่งพลังงาน” นั่นแหละ
ที่กัมพูชา “สร้างเขื่อนกันคลื่น” เขยิบกินพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆ เป็นสิบๆ ปีแล้ว

“กองทัพเรือ” คงเห็นไม่เข้าท่า จึงกระแอมส่งสัญญานให้รู้ เจ้าจงหยุดอยู่แค่นั้น แบบนี้ ต้องบอกว่า “เฝ้าประเทศ” ได้ดีเยี่ยม!

เรื่องพวกนี้ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ…….
ที่ “สมเด็จฮุนเซน เดโช” มาเยี่ยม “ทักษิณสหายรัก” ที่จันทร์ส่องหล้า เมื่อเดือนกุมภา.ตอนออกจากคุกเทียม?

เพราะเรื่องยุ่มย่ามเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน “นักโทษเทวดา” เขาถนัดนัก
เรื่องในพม่า ก็แส่เข้าไปหาไฟมาสุมประเทศ

กับเรื่องในเขมรที่มักคุ้น ถึงขั้นเป็นดองกัน ไว้ใจได้แค่ไหน ว่าในความเป็นไป จะไม่มีใครให้ “ผลได้ส่วนตัว” เหนือกว่า “ผลได้ประเทศ”?

ตอนนี้ “กัมพูชา-เวียดนาม” ทะเลาะกันระหว่างคน จะลามถึงขั้น “ระหว่างประเทศ” หรือไม่ นั่นเรื่องของเขา
แต่ก็ “เพื่อนบ้านเรา” ที่แสนดี ทั้งสองประเทศ

ฉะนั้น ใครรู้ตัวว่าเป็น “จอมเสือก” ก็อย่าแส่ไปหาเหามาใส่ “ประเทศเรา” เป็นอันขาด!

ช่วง “หัวเลี้ยว-หัวต่อ” ทั้งเรื่องนอกประเทศ ไม่ว่า “ใกล้บ้าน” หรือ “ไกลบ้าน” และทั้งเรื่อง “ภายในบ้าน”
ต้องใช้ “สติ” คิดซักสิบรอบ ก่อน “พูดซักคำ-ทำซักเรื่อง”

“เอามือซุกหีบ” อาจคลำเจอ “โคตรเพชร”
แต่การ “เอามือเข้าไปซุกปัญหา” โดยเฉพาะในบ้านเขา “โคตรเพชร” ไม่มีหรอก
มีแต่ “มหาประลัยโคตร..โคตร”!

เปลว สีเงิน
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗

Written By
More from plew
“โลกทิพย์” ของเศรษฐา – เปลว สีเงิน
คงปวดแสบ-ปวดร้อน เหมือนถูกหวายแช่เยี่ยวกระชากหลังกระมัง เปิดตาเนื้อขึ้นมองจอ ก็ต้องร้อง...อ้อ ในใจ เสียง "หมาในคอก" เห่าพิทักษ์นายนั่นเอง!
Read More
0 replies on “ทัพเรือ “กระแอม-กระไอ” – เปลว สีเงิน”