สันต์ สะตอแมน
“อนงค์” เตรียมทะยานมุ่งสู่ 100 ล้าน!
อย่างงี้ไม่เรียกว่า “เคาะสนิม” แล้ว เพราะแม้คุณเอส-คมกฤษ ตรีวิมล จะห่างหายจากการกำกับภาพยนตร์ไทยไปกว่า 17 ปี แต่กลับมาคราวนี้ก็ยัง “คมกริบ” ในฝีไม้ลายมือ..
ทำให้หนังโรแมนติก คอมเมดี้ สยองขวัญอย่าง “อนงค์” เป็นเรื่องที่ 5 ของหนังไทยในรอบ 4 เดือนที่เก็บเงินรายได้ทั่วประเทศผ่าน 50 ล้านบาท!
ซึ่ง 4 เรื่องก่อนหน้า ก็ประกอบด้วย “เหมรย” ของผู้กำกับคุณเอกชัย ศรีวิชัย “พี่นาค4” กำกับโดยคุณภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ
“หอแต๋วแตกแหกสัปะหยด” ของคุณพชร์ อานนท์ และ “หลานม่า” ผลงานกำกับของคุณพัฒน์ บุญนิธิพัฒน์
นี่..จะสังเกตุ 4 เรื่องล้วนเป็นหนังผี มีเพียง “หลานม่า” ที่เป็นหนังครอบครัว-ดราม่า ซึ่งก็แสดงว่า “หนังผี” ยังขายได้ในตลาดคนดูหนังไทย
แต่อย่างไรก็ตาม อย่าให้มันล้นจนเฝือ หรือถ้าเผื่อสตูดิโอไหนพอจะมีกำลัง หมายถึง “ทุนทรัพย์” ก็น่าจะได้ทำหนังบู๊แอ๊คชั่นเหมือนยุค “เสี่ยเจียง” ออกมาบ้าง..
คอหนังบู๊เขาคิดถึง เพราะหายไปจากจอนานแล้ว!
เอ้า..แล้วนั่นก็อีกคนที่ห่างหายจากวงการกำกับภาพยนตร์ไปนานกว่า 7 ปี ล่าสุด “คุณพิง ลำพระเพลิง” ผู้กำกับมากพรสวรรค์ก็ได้หวนกลับมากำกับหนังอีกครั้ง
คราวนี้ ก็ยังคงเป็นหนังแนวคอมเมดี้ตามถนัด เรื่อง “แสนสนั่น พันธุ์สั่นสู้” และคุณพิงก็ยังทั้ง “เขียนบท” และ “กำกับ” เองเหมือนเดิม..
ที่ไม่เหมือนเดิม คือคุณพิงไม่เล่นเป็นพระเอกเองอีกแล้ว แต่ได้มอบให้ “เก้า-จิรายุ ละอองมณี” เป็นนักแสดงนำ!
โดยเขากล่าวว่า..“ภาพยนตร์เรื่องนี้ผมตั้งใจกลับมาเขียนบทและกำกับการแสดงเองด้วยความคิดถึง เพราะก็เรียกว่าห่างหายไปนานพอสมควร
การกลับมาทั้งทีในรอบหลายปีมันก็ต้องมีอะไรสนุก ๆ มาเสิร์ฟคนดูแน่นอน ไม่นานเกินรอได้ชมแน่ ฝากติดตามด้วยครับ”
สำหรับนายทุน-อำนวยการสร้างโดยแปดพัน สตูดิโอ ซึ่งน่าจะเป็นค่ายหนังน้องใหม่ ยังไงๆ ก็ขอฝากช่วยสนับสนุนด้วยล่ะกัน เพื่อวงการ-อุตสาหกรรมหนังไทยจะได้คึกคักน่ะ!
อ้อ..แต่นั่นเห็นจะหมดความคึกคักเสียแล้วล่ะ ผมหมายถึงที่คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ประกาศกระทรวง..
เอา “กัญชา” กลับไปเป็นยาเสพติด ประเภท 5 นั่นไง!
จากที่เคยคึกคักก็เหี่ยวสิครับพี่น้อง ลำพังศิลปิน ดารา นักร้อง ตลกที่เสพเพื่อสันทนาการ เพื่อความครึกครื้นเฮฮาบนโต๊ะข้าว-โต๊ะเหล้าคงไม่เท่าไร
แต่ประเภท ผู้ที่เสพกันเป็นล่ำเป็นสัน ทั้งผู้ประกอบกิจการ-ธุรกิจ ทั้งผู้ผลิตที่ได้ลงทุน-ลงแรงหมดไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่..
นอกจากจะห่อเหี่ยว-ไม่คึกคักแล้ว อาจถึงคราวหมดสิ้นเนื้อประดาตัวก็ไม่แน่!
ที่แน่ๆ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ถากถางต่อสู้กับการ “ปลดล็อกกัญชา” จนสำเร็จ ป่านนี้เห็นต้องนอนเอาแขนก่ายหน้าผาก!
ยิ่งได้ฟังที่นายกฯ เศรษฐาตอบคำถามนักข่าว “จะส่งผลกระทบถึงพรรคภูมิใจไทย ที่ใช้นโยบายปลดล็อกกัญชาหาเสียงหรือไม่” ว่า..
“ทำไมคำถามที่ท่านถาม ถามว่าทำไมกระทบกับพรรค อะไรที่กระทบกับพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ผมเชื่อว่าทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย หรือคณะรัฐบาล
เราตัดสินใจทำอะไร เราตัดสินใจทำเพื่อประชาชน” ด้วยแล้ว ไม่รู้จะตอบบรรดา “สายเขียว” เค้าอย่างไร?
พูดก็กระทบรัฐบาล ปิดปากเงียบ..ก็เท่ากับพรรคภูมิใจไทยเห็นดี-เห็นงามที่จะให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 อย่างงั้นใช่มั้ย?
ผม..แม้จะไม่ใช่สายเขียว แต่ก็ให้เห็นใจคุณอนุทินอยู่ไม่น้อย เพราะหากกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกในยุครัฐบาลที่พรรคตัวเองร่วมอยู่ด้วย..
ก็ย่อมจะส่งกระทบต่อผลเลือกตั้งคราวหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ขึ้นอยู่กับว่าจะเสียหายมาก-น้อยเท่านั้นแหละ!
อย่างไรก็ตาม คนที่ปรบมือเห็นด้วยกับรัฐบาลก็น่าจะมีอยู่ไม่น้อย ก็คอยดูเลือกตั้งรอบหน้า พรรคไหนจะกล้า “ปลดล็อกกัญชา” ขึ้นมาหาเสียงอีก?
เฮ้ออ..เก็บบ้อง-เก็บเขียงก่อนนะ!