ไทย – บังกลาเทศ มุ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทุกมิติ โอกาสดีลงนามความตกลง 5 ฉบับ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันแก่ประชาชนสองประเทศ

ไทย - บังกลาเทศ มุ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทุกมิติ โอกาสดีลงนามความตกลง 5 ฉบับ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันแก่ประชาชนสองประเทศ พร้อมกันนี้ นายกฯ บังกลาเทศชื่นชมไทยหุ้นส่วนที่มีศักยภาพ และเชิญนายกฯ เยือนบังกลาเทศ

26 เมษายน 2567 เวลา 12.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ เชค ฮาซีนา (H.E. Sheikh Hasina) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงร่วมกัน จำนวน 5 ฉบับ ดังนี้

1) หนังสือประกาศเจตนารมณ์เริ่มการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย – บังกลาเทศ ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของไทยและบังกลาเทศ

2) ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางราชการระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ

3) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงไฟฟ้า พลังงานและทรัพยากรแร่แห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ

4) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงการบินพลเรือนและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ

5) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือและความช่วยเหลือทางศุลกากรระหว่างกรมศุลกากรแห่งราชอาณาจักรไทย กับศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีไทยและบังกลาเทศแถลงข่าวร่วมกัน โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการแถลงข่าว ดังนี้

นายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศและคณะ ในการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ประเทศไทยและบังกลาเทศต่างมีมิตรภาพอันยาวนานร่วมกันนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 (ค.ศ. 1972) รวมทั้ง มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกัน การเยือนฯ ครั้งนี้ จึงตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นผ่านการค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านการพัฒนา และการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นสำคัญ พร้อมย้ำความมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ ดังนี้

ด้านการค้า ทั้งสองฝ่ายยินดีกับปริมาณการค้าทวิภาคีมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเชื่อมั่นว่า จะสามารถขยายความร่วมมือเพิ่มเติม เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รวมทั้งสนับสนุนให้บังกลาเทศส่งเสริมการลงทุน และมาตรการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing business) ซึ่งจะดึงดูดนักลงทุนไทย และอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนได้มากขึ้น

นายกรัฐมนตรียินดีที่ไทยและบังกลาเทศให้คำมั่นที่จะทำงานร่วมกันเพื่อนำไปสู่การบรรลุความตกลงการค้าเสรี FTA ไทย – บังกลาเทศ โดยเชื่อมั่นว่า หนังสือประกาศเจตนารมณ์ (Letter of Intent) ที่ลงนามในวันนี้ จะช่วยเร่งกระบวนการเจรจาได้ โดยในวันนี้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจที่สำคัญ 3 ฉบับ และความตกลง 1 ฉบับ ได้แก่ (1) ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางราชการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยและบังกลาเทศมากขึ้น (2) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงาน ซึ่งจะช่วยให้เกิดศักยภาพที่แท้จริงจากความร่วมมือด้านพลังงาน (3) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือและความช่วยเหลือทางศุลกากร ที่จะนำไปสู่การควบคุมชายแดนและการต่อต้านการลักลอบขนของอย่างมีประสิทธิภาพ และ (4) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว ที่จะช่วยแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวทางปฏิบัติที่ดีร่วมกัน

ด้านการเกษตร ทั้งสองฝ่ายยังมุ่งหวังที่จะยกระดับความร่วมมือ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมฮาลาล และการแปรรูปอาหาร โดยจะใช้ทรัพยากรที่มีร่วมกันเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารสำหรับประชาชนทั้งสองประเทศ

โครงสร้างพื้นฐาน และการเชื่อมโยง ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงผ่านการขนส่ง ระหว่างท่าเรือระนองและท่าเรือจิตตะกองที่จะช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อทางทะเล และผลักดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ไทยมีบริการทางการแพทย์ที่เป็นเลิศ ในราคาที่เหมาะสมสำหรับชาวบังกลาเทศที่ต้องการเข้ารับการรักษาในไทย และได้หารือถึงความร่วมมือในการฝึกอบรมและเสริมสร้างขีดความสามารถสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ชาวบังกลาเทศ

ด้านร่วมมือทางการศึกษา ไทยเสนอความร่วมมือด้านอาชีวศึกษา ซึ่งรัฐบาลยินดีที่ได้เห็นความมุ่งมั่นร่วมกันในการส่งเสริมการศึกษาแบบบูรณาการการทำงานเพื่อการพัฒนาบุคลากรร่วมกัน

ความร่วมมือภายใต้กรอบความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (BIMSTEC) ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมในปลายปีนี้ และบังกลาเทศจะเป็นประธานคนต่อไป โดย BIMSTEC ถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการสร้างเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและเป็นกลไกในการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างทั้งสองภูมิภาค ด้วยจำนวนประชากรรวมกัน 1.8 พันล้านคน BIMSTEC จึงมีศักยภาพอย่างมากที่จะประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ ไทยได้ชื่นชมบทบาทของบังกลาเทศในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวโรฮีนจาผู้พลัดถิ่นนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 (ค.ศ. 2017) ซึ่งไทยให้การสนับสนุนความพยายามของบังกลาเทศมาโดยตลอดเพื่อบรรลุแนวทางแก้ไขอย่างยั่งยืนในประเด็นดังกล่าว

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวเน้นย้ำในนามของรัฐบาลไทยว่า ไทยจะมุ่งมั่นขับเคลื่อนร่วมมือและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนในทุกมิติ ทั้งในระดับรัฐบาลและระดับสาธารณะ พร้อมขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ และคณะอีกครั้งสำหรับการมาเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้

ในส่วนของนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ไทยและบังกลาเทศมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยาวนานสืบมาจากทั้งทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเทศไทยถือเป็นหุ้นส่วนที่มีศักยภาพ โดยบังกลาเทศยินดีกับความร่วมมือเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกัน และหวังว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ในการนี้ นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศได้ขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาอำนวยความสะดวก (ease of doing business) การลงทุนสำหรับภาคเอกชนบังกลาเทศ ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศกล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนบังกลาเทศเช่นกัน

Written By
More from pp
ห้างเซ็นทรัล ร่วมกับ บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะ วัน จัดงาน “บางปะอิน เลือนราง แต่ไม่จางหาย” เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าที่ใช้จ่ายสูงสุด
โอลิวิเยร์ บรง และ ชาริตา ลีลายุทธ ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับ บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะ วัน จัดงาน “บางปะอิน เลือนราง...
Read More
0 replies on “ไทย – บังกลาเทศ มุ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทุกมิติ โอกาสดีลงนามความตกลง 5 ฉบับ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันแก่ประชาชนสองประเทศ”