“เอ้ สุชัชวีร์” ตั้ง “ข้อสงสัยและห่วงใย” ไฟไหม้โกดังระยอง วอนรัฐบาล ช่วยแสดงบทบาท “ความเป็นผู้นำ” รัฐรู้แค่ไหนต้องไม่ปกปิด

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม ตั้งข้อสงสัย และความห่วงใยกับเหตุการณ์ไฟไหม้โกดัง จ.ระยอง ในขณะที่ศึกษาดูงานอยู่ ณ ประเทศอิตาลี และฝากถึงรัฐบาลดังนี้

ข้อสงสัย ไฟไหม้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

การที่ไฟจะไหม้โรงงานไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่าย ผู้รับผิดชอบคือกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องสืบค้น หาความจริงทันที และให้คำตอบกับประชาชนอย่างจริงใจ “รัฐรู้แค่ไหนต้องไม่ปกปิด” จำเป็นต้องบอกให้ประชาชนรู้ และอาจมีกลไลของ“ความไม่ชอบมาพากล” การทุจริต คอรัปชั่น สอดแทรกกับการเกิดเหตุไฟไหม้นี้ จึงต้องทำการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

รัฐควรต้องมีความห่วงใยต่อประชาชน

สิ่งใดก็ตามที่เกิดมลพิษลอยขึ้นสู่อากาศ สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เป็นสิ่งอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง และ ไม่ใช่จะมาให้ข้อมูลกลบความเป็นจริงว่า “ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ” ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริงซะเลย

โกดังนี้เก็บสารโซเว่นประมาณ 20,000 ลิตร ซึ่งสาเหตุคาดว่าเกิดจากความร้อนของอากาศ ช่วงเกิดเหตุได้เห็นกลุ่มควัน ก่อนที่จะระเบิดลุกไหม้อย่างรุนแรงและลามไปติดโกดังเก็บกากของเสีย ซึ่งสารพิษนี้เป็นอันตรายอย่างมากต่อระบบทางเดินหายใจ อาจส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิต

รัฐดูแลครอบคลุมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือไหม?

จนท.ต้องดูแลสภาพร่างกายตัวเองให้ดีที่สุด เพราะเหล่าเจ้าหน้าที่เสียสละ เข้าไปในจุดที่อันตรายที่สุด และประชาชนเองได้รับความเดือดร้อนกันอย่างเป็นวงกว้างแน่นอน รัฐ ผู้รับผิดชอบจึงควรต้องรีบดูแลโดยด่วน

ตนถึงขั้นรับไม่ได้ กับเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ “กากแคดเมียม” รัฐยังไม่มีคำตอบ “มาได้อย่างไร” ”จำนวนเท่าไหร่“ และการย้ายที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ทุกอย่าง“ยังไม่ได้มาตรฐาน” และยัง “ไม่มีความเร่งร้อน” ทำทันที เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ในบริเวณใกล้เคียง

จนเห็นภาพจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโกดัง จ. ะยอง เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน “กลไกของรัฐ ล้มเหลว”

ดร.เอ้ ขอ “วิงวอนรัฐบาล” ให้ช่วยแสดงบทบาท“ความเป็นผู้นำ พูดความจริง หาความจริงจัดการผู้รับผิดชอบ”อย่างตรงไปตรงมา ให้ได้รับโทษทางกฎหมายโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับสังคมไทย “ซ้ำแล้วซ้ำเล่า“

Written By
More from pp
ที่แรกในไทย ม.มหิดล เปิดคลินิกกายภาพบำบัดสุขภาพสตรี
แต่เก่าก่อนคนไทยส่วนใหญ่อยู่อาศัยกันแบบ “ครอบครัวขยาย” หรือครอบครัวใหญ่ที่มีทั้งพ่อแม่และปู่ย่าตายาย ในลักษณะของครอบครัวดังกล่าวได้มีการฝึกทักษะเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาสุขภาพของผู้หญิงสืบต่อมาจากบรรพบุรุษ จนเมื่อปัจจุบันส่วนใหญ่อยู่กันแบบ “ครอบครัวเดี่ยว” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมเมืองที่ต้องอยู่แยกจากครอบครัวเดิม มาใช้ชีวิตแบบลองผิดลองถูก จำเป็นต้องอาศัยระบบการให้บริการสุขภาพเป็นที่ปรึกษา ด้วยประสบการณ์นานนับทศวรรษของศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล...
Read More
0 replies on ““เอ้ สุชัชวีร์” ตั้ง “ข้อสงสัยและห่วงใย” ไฟไหม้โกดังระยอง วอนรัฐบาล ช่วยแสดงบทบาท “ความเป็นผู้นำ” รัฐรู้แค่ไหนต้องไม่ปกปิด”