“จุรินทร์” อภิปราย ครม.เศรษฐา รมว.คลัง โลกเซ็ง

3 เมษายน 2567 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า

แม้พระราชบัญญัติงบประมาณ ปี 67 ยังไม่ผ่านสภาหรือยังไม่บังคับใช้ แต่รัฐบาลก็สามารถใช้งบประมาณปี 67 ไปพลางก่อน ได้ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ 2561 เพราะฉะนั้น ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 61 – 31 มีนาคม 6 เดือนเต็ม สำนักงบจัดสรรงบให้รัฐบาล 1.837 ล้านล้านบาท รัฐบาลใช้ไปแล้ว 1.524 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83% ของวงเงินที่สำนักงบประมาณจัดสรรให้

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า 7 เดือน รัฐบาลชุดนี้ใช้เงินไปแล้วมากมายแต่ยังสอบตก เพราะรัฐบาลชุดนี้ มัวแต่ใช้การตลาดนำการบริหาร เอาแต่สร้างภาพ แต่หลังภาพทุกวงการลงมติเกือบเป็นเอกฉันท์ว่ายังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน 6 เดือนนายกรัฐมนตรี บินไปบินมา อ้างว่า 14 ประเทศกับ 1 เขตเศรษฐกิจคือฮ่องกง เป็นนายก 180 วัน ไปอยู่เมืองนอก 52 วัน

ขณะที่ยังมีคนถามบินไปทำการตลาดหรือไปทำการตลก เพราะอยู่เมืองไทย ประกาศลั่นโลกเศรษฐกิจไทยกำลังวิกฤต แต่พอถึงเมืองนอกไปเที่ยวเชิญเขามาลงทุนในประเทศ มหาเศรษฐีโลกที่ไหน ที่จะป่วยถึงขั้นเอาเงินเป็นแสนล้านมาลงทุนในประเทศที่เศรษฐกิจกำลังวิกฤต นายกรัฐมนตรีพยายามแสดงบทบาทเซลส์แมน แต่คำถาม คือ ในฐานะเซลส์แมนประเทศ Closed Sale ได้บ้างหรือยัง ปิดการขายได้บ้างหรือยัง หรือมีแต่สัญญาจะซื้อจะขายกับดอกไม้สายลม

นายกรัฐมนตรี พยายามแสดงบทบาทเซลส์แมน แถลงข่าวใหญ่โตที่ทำเนียบผลการ Road Show ของนายกรัฐมนตรี 6 เดือนเศษ 14 ประเทศ คาดมีเม็ดงินลงทุน 558,000 ล้านบาทใน 10 ปี ไม่รู้ว่าที่คาดหรือฝันนั้นจะเป็นจริงหรือฝันทิพย์

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ยังหยิบยกกรณีเรื่องที่อ้างว่าเจรจา Tomorrowland รัฐบาลโพสต์ผ่านเว็บทางการของรัฐบาลไทยบอกว่า Tomorrowland ผู้จัดเทศกาลดนตรีระดับโลกจะมาจัดเทศกาลดนตรีที่เมืองไทยปี 2569 ติดต่อกัน 10 ปี แต่โป๊ะแตก โฆษกของเขาออกมาแถลงชัดเจนว่า เขายังไม่ได้ยืนยันเรื่องนี้ว่าจะมาจัดที่เมืองไทย และยังมีอะไรที่ต้องพิจารณาอีกมาก

อยากฝากนายกรัฐมนตรีว่า คนไทยเขาอยากได้ของจริงมากกว่าการตลาด อะไรที่ยังไม่ใช่ ยังไม่ต้องตีปี๊บก็ได้ มันเสียเหลี่ยม พูดอะไรที่มันยังไม่ใช่ เขาจับได้ คนไทยอยากเห็นนายกรัฐมนตรี บินเหมือนเหยี่ยวมากกว่าแมลงวัน ที่บินทั้งวันแต่ไม่ได้อะไร นอกจากได้สร้างภาพว่าบินโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่เหยี่ยวบินทีไรไม่พลาดเป้า

นายจุรินทร์ ยังระบุว่า 7 เดือนรัฐบาลชุดนี้ มีปัญหาในทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การบริหาร

ปัญหาที่ 1 “ก้าวไม่พ้นคนชอบอวดบารมี”

ตราบใดที่รัฐบาลนี้ ยังก้าวไม่พ้นคนชอบอวดบารมี รัฐบาลนี้จะมีปัญหาทางการเมืองตลอดไป รัฐบาลอย่าไปโทษคนอื่นว่าทำไมก้าวไม่พ้นบุคคลคนนี้เสียที ที่ก้าวไม่พ้น คือ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่ายบริหารของประเทศไทย นั่งรถประจำตำแหน่ง ไปถึงบ้าน แถมออกมาให้สัมภาษณ์แถลงด้วยว่ายินดีเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีไปเยี่ยมคารวะได้ แถมยังบอกว่าถ้ามีโอกาสจะไปขอคำปรึกษา อย่างนี้ก้าวข้ามไหม

ปัญหาที่ 2 “นายกรัฐมนตรีหลายคน”

เป็นปัญหาทางการเมือง ปัญหา “นายกรัฐมนตรีหลายคน” บางคนบอกแค่วาทกรรม นี่คือ ปัญหาใหญ่ทางการเมืองอีกปัญหา ที่รัฐบาลเศรษฐากำลังเผชิญ เพราะว่า มันสะท้อนความไม่เชื่อมั่นและสะท้อนการด้อยค่านายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ ทำให้คนเกิดความเข้าใจว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีคนเดียว มันก่อให้เกิดปัญหาในทางการบริหารการเมือง ทำให้เกิดอำนาจซ้อนอำนาจ ทำให้รัฐบาลนี้กลายเป็นรัฐบาลหุ่น

ปัญหาที่ 3 “รัฐมนตรีไร้ประสิทธิภาพ”

เพราะ รัฐมนตรีชุดนี้ มีทั้งรัฐมนตรีที่โลกลืม รัฐมนตรีผิดฝาผิดตัว รัฐมนตรีต่างตอบแทน รัฐมนตรีทำการเฉพาะกิจ และรัฐมนตรีที่โลกเซ็ง เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จ้องแต่จะทะเลาะกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แต่งานในหน้าที่โดยตรง รายได้ 4 เดือน ต่ำกว่าเป้า กองทุนประกันวินาศภัย ติดลบ 50,000 กว่าล้าน ยังไม่รู้จะแก้อย่างไร

ปัญหาที่ 4 “เศรษฐกิจมหภาค”

ภาพรวม 7 เดือน เศรษฐกิจไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและโลกได้ ดูจากตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ต่ำกว่าเป้าที่คาดการณ์ คาดไว้ 2.0 – 2.2 ทำจริงได้แค่ 1.9 ปี 67 ทั้งปี ถ้าบริหารครบถึงธันวาคมปีนี้ ทุกสำนักทั้งไทยและต่างประเทศ ประเมินตรงกันว่า เศรษฐกิจจะโตต่ำกว่าเป้าเดิมที่กำหนดไว้ แม้แต่การคาดการณ์ทางการของรัฐบาลเองโดยสภาพัฒน์ ยังประเมินว่า เดิมคาดว่าเศรษฐกิจ 67 จะโต 2.7 – 3.7 วันนี้ประเมินเหลือแค่ 2.2 – 2.3

ปัญหาที่ 5 “Digital wallet”

คนไทยหลายคนเลิกเชื่อเบื่อทวงแล้ว เพราะเจอลูกหนี้ประเภทท่องคาถา ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เห็นมีมติทำนองว่าจะไปแก้งบประมาณปี 68 ให้ขาดดุลเพิ่มขึ้นอีก 1.5 แสนล้าน เพื่อเอาไปใช้ Digital wallet แปลว่ายังกู้มาแจกเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนจากออกพระราชบัญญัติเงินกู้ 500,000 ล้านเป็นการเฉพาะ เปลี่ยนมาเป็นใช้เงินกู้จาก พ.ร.บ. งบปี 68 1.5 แสนล้านแทน ก็กู้เหมือนกัน แล้วอีก 3.5 แสนล้านจะเอาเงินมาจากไหน จนวันนี้ยังไม่มีคำตอบ

ปัญหาที่ 6 “ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท”

เรื่องนี้ ตนไม่ตำหนิรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพราะว่า 400 บาทไม่ใช่นโยบายของรัฐมนตรี รัฐมนตรีบอกให้ปฏิบัติไปตามแนวทางมติของไตรภาคี ซึ่งเป็นกฎหมาย แต่นายกฯ ประกาศยังไงก็ต้อง 400 บาทให้ได้เพราะหาเสียงไว้ แต่ 400 บาทที่มีมติ สุดท้ายกลายพันธุ์ จาก 400 บาททั่วประเทศ กลายเป็น 400 บาทกลายพันธุ์ เหลือแค่ 10 จังหวัด แล้วใน 10 จังหวัดก็ 10 จังหวัดเป็นหย่อม ๆ เหมือนฝนตกเป็นหย่อม ๆ ไม่ได้ตกทั่วฟ้า แล้วอีก 67 จังหวัดที่เหลือก็ไม่ตกเลยสักเม็ดเดียว

ปัญหาที่ 7 “ราคาพืชผลการเกษตร”

ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตัวสำคัญ ๆ นายกฯ บอกว่าราคาพืชผลมันดี แต่ถ้าไปดูลึก ปาล์ม ข้าวโพด มันไม่ได้ดีขึ้น ราคาทรง ๆ ข้าวโพดก็ยังต่ำกว่าเดิมด้วยซ้ำไป มีแต่ข้าวที่กระเตื้องขึ้นมา แต่ความจริงข้าวนี้ราคาแต่หมื่นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาปีที่แล้ว ตอนรัฐบาลที่แล้วอยู่ มาแตะ 12,000 บาทในช่วงสิงหาปีที่แล้ว ทำไมมาแตะสิงหา เพราะกรกฎาอินเดียประกาศห้ามนำส่งออกข้าวขาวไปยังตลาดโลก ทำให้ตลาดโลกซัพพลายมันลด ผลผลิตที่ไปขายในตลาดโลกน้อยลง ราคาข้าวมันจึงขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่อยากขอฝากเตือนรัฐบาล ว่าถ้าวันไหนอินเดียยกเลิกมาตรการนี้แปลว่าให้ส่งออกข้าวไปแข่งได้ในตลาดโลกได้ต่อไป ท่านต้องเตรียมตัว ราคาข้าวมันมีโอกาสจะดิ่งลงมาอีก

นายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณี นายกฯ พูดเรื่องยาง ข้อเท็จจริง คือ ราคายางสูงขึ้นจริง ในช่วงต้นปีนี้ตั้งแต่ ม.ค. – มี.ค. 67 ที่ยังขึ้นเพราะปราบยังเถื่อนอย่างเดียว ถ้ายางขึ้นเพราะปราบยางเถื่อนอย่างเดียว ยางมันต้องขึ้นมานานแล้ว เพราะรัฐบาลที่แล้วก็ปราบยางเถื่อน ยางไม่ขึ้นเพราะมันไม่มีปัจจัยสำคัญหนุนส่ง สาเหตุที่ยางขึ้น ตั้งแต่ ม.ค. – มี.ค. เพราะมีปัจจัยหนุนส่ง อย่างน้อย 3 เรื่อง

1. เพราะปี 67 ผลผลิตโลก มันน้อยกว่าความต้องการใช้ยางรวมกันทั้งโลก แล้วยางไม่ได้ขึ้นเฉพาะประเทศไทย ขึ้นทั้งโลก โตเกียวขึ้นไป 46% สิงคโปร์ขึ้นไป 61% ไทยขึ้นไป 46% แปลว่า มันไม่ได้ขึ้นประเทศเราประเทศเดียว มันขึ้นไปทั้งโลก

2. ที่ราคายางขึ้นไปเยอะตอนนี้ เพราะว่ากฎกติกาใหม่ของสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ที่เรียกว่า EUDR ซึ่งเป็นกฎใหม่ที่ห้ามประเทศสหภาพยุโรป 27 ประเทศนำเข้ายางที่มาจากพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า และจะบังคับใช้วันที่ 31 ธันวา 67 ที่กำลังจะมาถึง เพราะฉะนั้น จึงส่งผลให้ทั้งโลกเร่งนำเข้ายางไปเก็บสต็อค ยางในโลกก็เลยเหลือน้อยลง จึงต้องเร่งนำเข้ายาง แต่โชคดีประเทศไทยเพราะรัฐบาลที่แล้ว ตนมีส่วนคนนึงเพราะตนกำกับดูแลการยางแห่งประเทศไทยผ่านกระทรวงเกษตรด้วย เราได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว มาจนถึงวันนี้เรามีพื้นที่เป็นล้านไร่ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าไม่ได้มาจากพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ยางเราสามารถส่งออกไปประเทศสหภาพยุโรปและหลายประเทศได้อย่างสง่างาม

3. วันนี้ยางผลัดใบ ฤดูปิดกรีด ม.ค. – มี.ค. มันไม่มียาง ถึงมีก็น้อย ยางก็เลยยิ่งขึ้นไปใหญ่ รัฐบาลต้องไม่หลงทาง อย่าคิดว่าที่ยางมันขึ้นวันนี้เป็นเพราะไปสั่งปราบยางเถื่อน เดี๋ยวจะไปกันใหญ่

ปัญหาที่ 8 “การสร้างยุติธรรม 2 มาตรฐาน”

เป็นผลงานชิ้นเดียวที่รัฐบาลนี้ทำได้เร็วที่สุด สำเร็จเป็นรูปธรรมจับต้องได้มากที่สุด นั่นคือ การสร้างนักโทษพันธุ์ใหม่ที่แม้แต่เทวดายังต้องยอมให้ใช้ชื่อ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้านายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่รู้เห็นเป็นใจ เรื่องบุญคุณต้องทดแทน แต่ต้องไม่ แต่ต้องไปตอบแทนกันในส่วนตัว ไม่ใช่เอาบ้านเอาเมืองไปตอบแทน คนหนึ่งได้อำนาจ อีกคนได้อภิสิทธิ์จากการใช้อำนาจ มันอาจรู้สึกยุติธรรมสำหรับคนสองคน แต่มันไม่ยุติธรรมกับประเทศ และไม่ยุติธรรมกับหลักนิติธรรมของประเทศที่สั่งสมกันมาช้านาน

นายจุรินทร์ ถามนายกรัฐมนตรี 3 ข้อ

1. นายกรัฐมนตรี มีนโยบายจะปล่อยให้เกิดการนำคุกทิพย์ โมเดลที่ทำลายหลักนิติธรรมยับเยินมาใช้ซ้ำสองอีกหรือไม่

2. ระเบียบใหม่ที่กระทรวงยุติธรรมกำลังจะเข็นออกมา เรื่องการกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ถูกคุมขังนอกเรือนจำ ไปติดคุกที่บ้านได้ ซึ่งได้มีการประชุมคณะกรรมการราชทัณฑ์ไปแล้วครั้งหนึ่ง ขอถามว่า ระเบียบที่จะเปิดโอกาสให้ไปติดคุกที่บ้านได้จะรวมคดีทุจริต รวมคดีมาตรา 157 ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบให้ไปติดคุกที่บ้านแทนเรือนจำได้ด้วยหรือไม่ และรวมหรือไม่

3. เรื่องการนิรโทษกรรม เป็นดาบสองคม ถ้าใช้ให้ถูกก็จะเป็นการสร้างความปรองดองให้กับประเทศได้ แต่ถ้าใช้ผิดทางก็จะกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งแตกแยกครั้งใหม่ให้กับประเทศได้อีก ขอถามว่ารัฐบาลนี้มีนโยบายที่จะนิรโทษกรรมคดีทุจริต และคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ด้วยหรือไม่

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ถามมาทั้งหมด เพื่อจะส่งผ่านไปยังรัฐบาลและเพื่อส่งสัญญาณเตือนนายกรัฐมนตรีและพวกพ้องว่า อย่าคิดได้คืบเอาศอก เพราะในอดีตเคยมีคนพังเพราะไม่รู้จักพอมาแล้ว และเตือนนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีและพวกได้ทำกับหลักนิติธรรมของประเทศไว้จะเป็นระเบิดเวลาที่ตั้งไว้ระเบิดใส่ตัวเองในอนาคต ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบันดาลให้ทุกท่านดวงตาเห็นธรรมโดยทั่วกัน

Written By
More from pp
ศรัทธา-เลื่อมใสไม่เปลี่ยนแปลง?
ผสมโรง สันต์ สะตอแมน “เบื่อโฆษณาหลังข่าวภาคค่ำ”! เนี่ย..นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือ “ฮาร์ท” แกโพสต์เฟซบุ๊กว่าอย่างนั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้หมายถึงอะไร-อย่างไร? แต่..เห็น “แม่ยกประชาธิปัตย์”...
Read More
0 replies on ““จุรินทร์” อภิปราย ครม.เศรษฐา รมว.คลัง โลกเซ็ง”