ผักกาดหอม
เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์
เพราะว่าไปแล้วมันก็น่าประหลาดใจกับคำสั่งเรียก “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ของนายกรัฐมนตรี
ตัว ผบ.ตร.ยังไม่มีความผิด ไม่มีคดี ถูกโยกแบบนี้เสียเครดิตเหมือนกัน
ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” ก็อย่างที่เห็น ลาพักร้อนไปอังกฤษยาว กว่าจะกลับมาก็ ๑ เมษายน
แล้วตำรวจจะไปแปะหมายเรียก หรืออาจจะเป็นหมายจับหลังจากนี้ตรงไหน
แต่ที่น่าประหลาดใจกว่าคือ คนถูกโยกไปช่วยงานทำเนียบรัฐบาล กลับยิ้มแย้มแจ่มใส ให้สัมภาษณ์เป็นต่อยหอย
ทั้งๆ ที่นี่คือการลงโทษ
แม้จะเป็นการลงโทษขนาดเบา แต่มันก็คือการโยกเพื่อไม่ให้พัวพันกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติชั่วคราว
บิ๊กข้าราชการที่ถูกโยกเข้าไปนั่งตบยุงที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนหน้านี้ หน้าดำทุกคนครับ เพราะรู้ดีว่ามันคือสเตปแรกของการเชือด
จึงอดสงสัยไม่ได้จริงๆ ว่าทำไม “บิ๊กต่อ” ถึงยอมรับสภาพโดยไม่มีเงื่อนไข
ไม่มีทีท่าว่าจะฮึดฮัดหาทางปกป้องตัวเอง
ว่าไปแล้ว “บิ๊กต่อ” ร้องขอความเป็นธรรมจากศาลปกครองได้
แต่กลับยินดีให้ถูกย้าย
นี่คือความไม่ธรรมดาที่สังเกตได้ในเบื้องต้น
เบื้องลับเบื้องลึกเรื่องนี้จึงน่าจะหนักหนาสาหัสพอควร
แค่กลุ่มของ “บิ๊กโจ๊ก” บอกใบ้ชื่อนายพลอักษรย่อ ต. แค่นี้ก็ทำให้ “บิ๊กต่อ” กลัวอย่างนั้นหรือ
ยังไม่สมเหตุสมผลกับการเด้งไปทำเนียบรัฐบาล
เบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องนี้อยู่ที่การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่หรือไม่
ก็น่าคิด!
แต่ต้องลงทุนถึงขนาดเชือด “บิ๊กโจ๊ก” ด้วยการย้ายเก็บกรุ อย่างนั้นหรือ
ไม่มีวิธีการอื่นที่ดีกว่านี้แล้วใช่หรือไม่
ถ้าใช่แสดงว่ามีคนกลัว “บิ๊กโจ๊ก” อยู่ประมาณหนึ่งเหมือนกัน
เพราะ “บิ๊กโจ๊ก” อาวุโสลำดับที่ ๑ แถมอายุราชการยังเหลืออีกตั้ง ๗ ปี เกษียณอายุราชการ ก็โน้น…ปี ๒๕๗๔
ฉะนั้นหากจะแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนถัดไป ชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” จะถูกหยิบขึ้นมาก่อนใคร
หากไม่ต้องการให้ “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นไปถึงตำแหน่งสูงสุด มันก็มีวิธีการ
คดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ “บิ๊กโจ๊ก” มีชื่อเป็นผู้ต้องหา ข้อหาสมคบร่วมกันฟอกเงิน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ถือว่าร้ายแรงทีเดียว
แม้จะมีการรับปากว่าจะโอนคดีทั้งหมดไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไปดำเนินการ แต่กระบวนการยังไม่เกิด
ตำรวจจึงเดินหน้าต่อ
วานนี้ (๒๒ มีนาคม) พนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ ถือหมายเรียกครั้งที่ ๒ ไปให้ “บิ๊กโจ๊ก” ที่บ้านย่านวิภาวดี ๖๐
ปรากฏว่าไม่มีคนรับหมาย
ก็ธรรมดา นกมีหูหนูมีปีก!
ต้องกลับมือเปล่า
ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” แจ้งตำแหน่งระบุตัวตนเรียบร้อย ไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวที่ หนองคาย
จากนั้นจะเดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัวที่ประเทศอังกฤษในวันที่ ๒๖ มีนาคม กลับมาอีกทีวันที่ ๑ เมษายน ระหว่างนี้คงต้องงัดตำรามาสู้กันดุเดือดแน่นอน
เพราะหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คราวหน้าคือ “หมายจับ”
ฉะนั้น “บิ๊กโจ๊ก” ไม่มีความสุขกับการไปพักผ่อนที่อังกฤษหรอกครับ!
ต้องลุ้นว่าคดีจะหลุดจากมือตำรวจเมื่อไหร่
ถ้าก่อน ๑ เมษายนก็กลับมาแบบเท่ๆ ได้
แต่ถ้าไม่…หมายจับอาจไปรอถึงสนามบิน
ฉะนั้นดีลเมื่อวันพุธที่ผ่านมาจึงสำคัญอย่างยิ่งยวด
ลำพังนายกฯ เศรษฐา ไม่ประสีประสากับ ยุทธจักรสีกากี สักเท่าไหร่ การพูดถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังนายกฯ จึงเริ่มหนาหูขึ้น
โพสต์ของ “จตุพร พรหมพันธุ์” ในโซเชียล ตำรวจพันการเมือง การเมืองพันตำรวจ แกะกันไม่ออก
“…พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มีภูมิต้านทานเหนือกว่า ผบ.ตร.ในอดีตอีกหลายคน จึงไม่มีใครเชื่อจะถูกหักและสั่งย้ายมาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ ส่วน บิ๊กโจ๊ก เคยมาแล้วหลายครั้ง จะมาอีกก็ไม่แปลก นอกจากนี้สังคมไม่เชื่อว่า นายกฯ เศรษฐา จะกล้าสั่งเด้ง อาจมีอำนาจเบื้องหลังคอยกำกับการอยู่ก็ได้
เมื่อบิ๊กต่อมีเงื่อนเวลาอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ตร.ถึงเกษียณสิ้นกันยายนปีนี้ จึงเท่ากับถูกบีบด้วยเงื่อนเวลา ซึ่งหลังคณะกรรมการสอบสวนครบตามคำสั่ง ๖๐ วันแล้ว จะเหลือเวลาอีกแค่ ๑๒๐ วัน ดังนั้น โอกาสได้กลับมา สตช.เหมือนจะเหลือน้อยหรืออาจยากที่จะได้กลับเสียด้วยซ้ำ
ส่วนบิ๊กโจ๊กเหลืออายุราชการอีก ๗ ปี เพราะเกษียณ ๒๕๗๔ ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ (บิ๊กต่าย) รอง ผบ.ตร. รักษาการ ผบ.ตร. จะเกษียณปี ๒๕๖๙ ดังนั้น บิ๊กโจ๊ก ยังมีเวลาได้เป็น ผบ.ตร. ต่อจากรักษาการ ผบ.ตร. เกษียณอีกตั้ง ๕ ปี
ร่องรอยนายกฯ สั่งเด้ง ผบ.ตร.นั้น เป็นที่น่าสังเกตกับ ๓ วาทะรหัสของทักษิณที่สัมภาษณ์ไว้ที่เชียงใหม่ คือ สภาพจิตใจ ถึงบ้าน ๖ เดือน และต่างคนต่างอยู่ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ได้
สิ่งสำคัญ คาดว่า การลงดาบสั่งเด้ง ผบ.ตร.ครั้งนี้จึงเห็นร่องรอยอำนาจส่อเปราะบางขึ้น เพราะคนทำการดีล ควบคุมการดีลต่างใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เช่นกัน
สิ่งสำคัญแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ใช่มีแค่สองบิ๊ก สตช.เท่านั้น แต่นายกฯ และอดีตนายกฯ (ทักษิณ) ก็ยังเป็นปัญหาด้วย ทุกปัญหาล้วนพันผูกกับตำรวจทั้งสิ้น ดังนั้น สภาพข้างหน้าจึงเต็มไปด้วยปัญหา แล้วใครจะโดนปัญหาเล่นงานกันก่อน
ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ มีการคาดกันว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นของการแหกดีลกันหรือไม่ ซึ่งรอบนี้หนักกว่าเดิม หากกล้องวงจรปิด โรงพยาบาลตำรวจกู้ภาพกลับคืนได้จะยิ่งกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาอีก แล้วนำไปสู่ปัญหาไม่คาดคิดกันใหม่ได้ตามมาสมทบ ซ้ำเติมกันอีก
แต่วันนี้อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน และรู้ว่าใครทรงอำนาจและมีอิทธิพล แล้วปัญหาจะยิ่งไม่จบ มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ และถ้าแน่จริงกันทั้งสองฝ่ายคงตะลุมบอนกันเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม โดยธรรมชาติแล้วคงได้พูดคุยสมยอมกันอีก หรือถ้าเกิดอารมณ์นักเลงมาทั้งคู่จะไม่ยอมกันเลยก็ได้ ซึ่งจะจบอีกแบบ ต้องคอยติดตาม….”
ครับ…จะเชื่อหรือไม่ก็ได้
แต่ที่แน่ๆ นายกฯ เศรษฐา ไม่รู้ลึกวงการตำรวจ
คนรู้ไม่ลึก แต่ใช้วิธีที่ซับซ้อนในการแก้ปัญหา จึงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้
จับตาดูครับว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง “เศรษฐา” ต้องการอะไรจากวิธีการแก้ปัญหาเช่นนี้
จะกินรวบหรือไม่?
ที่ยืนยันได้ “บิ๊กโจ๊ก” ยังไม่ใช่ ผบ.ตร.คนถัดไป