เปลว สีเงิน
เศรษฐานี่…น่าสงสารนะ
เป็นนายกฯ มาครึ่งปี ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจริงๆ
เดือนมีนา.ทั้งเดือน
ดูโปรแกรมแล้ว น่าจะไม่ได้เข้าทำเนียบอีกแหละ ตอนนี้ยังตะรอนอยู่ยุโรป ครึ่งเดือนนั่นแหละถึงจะกลับ
กลับมา ๑๔ มีนา.ก็ยังไม่ทันหายเจ็ตแล็ก
ตกเย็น ๑๕ มีนา.ต้องตาหู-ตาแหกบินไปเชียงใหม่อีกแล้ว ด้วยภารกิจสำคัญเร่งด่วนระดับชาติ
เพราะ “นักโทษทักษิณ” เจ้าของรัฐบาลเพื่อไทย ท่านคงรำคาญพวกสื่อ พวกเข็นเรือตามขึ้นภูเขา และพวกเจ้าหน้าที่ เหมือนฝูงแมลงวันรุมตอมก้อนขี้ที่หน้าบ้าน
คอยจ้องจับ “ใครจะมา-ใครจะไป” ทำให้ขยับเนื้อ-ขยับตัวไม่สะดวก
ครั้นจะไล่ ก็ดูกระไรอยู่
เพราะการเป็นผู้มากบารมีเหนือกฎหมาย เป็นศูนย์กลางอำนาจของประเทศไทย ทั้งมีรัฐบาลในกำมือ มีนายกฯ ประดับคอก
แต่งตั้ง-โยกย้ายข้าราชการและรัฐวิสาหกิจทุกตำแหน่งใหญ่ คนไหนไม่ผ่านการพยักหน้า ก็ต้องรอชาติหน้า “ถ้ามี”
ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เป็นปลายทางของถนน “สายปรารถนา” ทุกสาย ที่มุ่งตรงมาจันทร์ส่องหล้าแบบนี้
เป็นผมก็ “รำคาญตายห่ะ..” เหมือนกัน
จึงอยากปลีกวิเวก!
เพราะยังอยู่ในอาการป่วยขั้นวิกฤต อาจอันตรายถึงชีวิตได้ทุกเมื่อ ตามความเห็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจและกรมราชทัณฑ์ที่แสนดี
ถูกจับจ้องมองเฝ้าหน้าบ้านทั้งคืน-ทั้งวันอย่างนี้ ครั้นญาติพงษ์ “วงศ์ชินวัตร” จะมาเยี่ยมกันบ้าง ก็ไม่สะดวก
อาจทำให้ “จ้าวแห่งวงศ์ชินวัตร” เครียด ถึงขั้นเครียดลงกระเพาะได้!
อย่ากระนั้นเลย กลับไปเยี่ยม “บ้านเก่า-ที่เราเกิด “เพื่องับโอโซน PM 2.5 ที่เชียงใหม่ ดีกว่าอยู่ให้พวกสื่อตอมหน้าบ้านคอยงับ
ป่วยขั้นวิกฤติจะได้คลาย ปุบปับเป็นตายจะได้หายซะที
อีกทั้งนัดใครมาคุย-มาเยี่ยม
จะได้ลับทั้งหู-ลับทั้งตาจากพวก “หูผี-จมูกมด” ได้นำไปขยี้-ละเลงเป็นข่าวจริงมั่ง-โม้มั่ง ต้องเสียเงินจ้างพวกทนายฟ้องอีก
เพราะคฤหาสน์ที่เชียงใหม่ อยู่ในสนามกอล์ฟ ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ ที่แม่ริม
คนที่ไม่ต้องการให้เข้า ก็เข้าไม่ได้ คนป่วยจะได้นุ่งผ้าขะม้านอนผึ่งพุงสบายๆ ปลอดแมลงวันตอม!
นายกฯเศรษฐา ไม่ใช่แมลงวัน แต่เป็นนายกฯ ในคาถา จะเป็นบุคคลที่ทักษิณต้องการให้เข้าไปกราบกรานคลานคารวะหรือไม่?
ตรงนี้ “อนาคตังสญาน” ผมไม่มี จึงไม่ทราบ
เพียงแต่ทราบตามที่บอก
นายกฯ เศรษฐา ลงเครื่องบินกลับจากนอกปุ๊บ รุุ่งขึ้น ๑๕ มีนา.บินไปเชียงใหม่ปั๊บ
๑๕-๑๖ มีนา.เจ้าของคอกเพื่อไทย ยังอยู่ที่เชียงใหม่ ท่านก็ลองสมมุติตัวเองเป็นเศรษฐาดู ทั้งที่ไม่มีภารกิจจำเป็นอะไรต้องไป
แต่ในเมื่อ “องค์ประทับ” ตัวจริง อยู่ที่นั่น
แล้ว “ร่างทรง” จะไม่ไปรายงานและรับบัญชาได้มั้ย…ตอบซิ อับดุลเอ๊ย!
เศรษฐากลับจากทัวร์นอก ๑๔ มีนา.
๑๕-๑๗ มีนา.อยู่เชียงใหม่
๑๘-๑๙ มีนา.ครม.ไปรอนายกฯ เป็นประธาน “ประชุมครม.นอกสถานที่” ที่พะเยา!
แล้วอีก ๗-๘ วัน ของเดือนที่เหลือ นายกฯ จะลอยไป-ลอยมา สร้างผลงาน “ปลูกผักชี” สร้างความรำคาญให้เจ้าหน้าที่แต่ละจังหวัดต้องทิ้งงานมาคอยต้อนรับ
หรือจะกลับมาทำงาน-ทำการที่ทำเนียบบ้าง ก็ยังไม่มีโพยออกมา แต่ปลายเดือน พรบ.งบประมาณวาระ ๒-๓ จะเข้าสภา
พ่อพวงมาลัยที่เอาแต่ “ลอยไป-ลอยมา”
หวังว่าคงอยู่ติดที่ให้สมกับเป็น “นายกฯ ประชาธิปไตยมาจากเลือกตั้ง” บ้างหรอก!?
ตอนหาเสียง คุยนัก-คุยหนา ศรัทธาประชาธิปไตยระบบรัฐสภา
แต่พอได้เป็น น้อยครั้งจะ “เห็นหัว” นายกฯ ประชาธิปไตยในสภา!
ที่พูดนี่ ใช่ว่าผมอคติ รังเกียจ-รังชัง จ้องจับผิด-จับถูกนายกฯ เศรษฐา แต่ว่า…มันไม่ไหวจริงๆ
อาชีพ “เซลแมนขายบ้าน” มันคืองาน “ขายฝัน” ให้ลูกค้าเชื่อ เมื่อขายได้ ก็รับเปอร์เซ็นต์ไป ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอีก
แต่งานตำแหน่งนายกฯ มันไม่ใช่อาชีพขายฝัน
ตรงกันข้าม…..
งานของนายกฯ ต้องทำที่พรรคสัญญาให้ประชาชนฝันตาม “เกิดเป็นจริง” จับต้องได้
แม้ไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ต้องมีเหตุผลอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจได้ว่า มันเพราะสาเหตุอะไร?
และต้อง “รับผิดชอบ” ในคำพูด ทั้งที่สัญญาและที่ไม่ได้สัญญา แต่พูดไว้ ในฐานะ “ผู้นำบริหารประเทศ”
แต่..ตั้งแต่เป็นนายกฯ มา งานจับไมค์-ไฟส่องหน้า แล้วจ้อน้ำไหล-ไฟดับ ด้วยไอเดีย ร้อยแปด ถนัดนัก จนตัวเองก็คงจำไม่ได้ว่า ขายฝันไว้ในแต่ละเวที ด้วยเรื่องอะไรบ้าง?
ผลักดันไทยเป็นสารพัด “ฮับโลก-ฮับภูมิภาค”
จน “โกฮับ” เจ้าตำรับก๋วยเตี๋ยวเรือซึ่งตายไปนานแล้ว ลุกจากหลุมขึ้นมานั่งร้องไห้ ว่ามึงอย่าเอาชื่อกูไปขายบ่อยนัก…มึงไม่ตาย แต่กูอายเค๊า!
ไหนๆ ก็ไหนๆ ประเทศไทยอยู่ในกำมือทักษิณแล้ว
อย่ามัวใช้ร่างทรง นอมินง-นอมินี อื่นไกลให้ยุ่งยาก
ส่งตรงมาเลยดีกว่า…..
ส่งเศรษฐากลับไปขายบ้านจัดสรรภูเก็ตที่กำลังบูมตามถนัดวิชาชีพเซลแมนของเขา
แล้วเอา “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” นั่นแหละ ขึ้นมาเป็น “นายกฯ หญิง” สายตรง “วงศ์ชินวัตร” ไปเลย
ดูซิ…ที่ฟิลิปปินส์ “บองบอง มาร์กอส” ทายาทสายตรง “เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส-อีเมลดา มาร์กอส” ก็ขึ้นนั่งบัลลังก์ประธานาธิบดี
ที่กัมพูชา “ฮุนมาเนต” ทายาทสายตรง “สมเด็จฮุนเซน” ผู้เพื่อนรักทักษิณ ก็รับถ่ายอำนาจจากพ่อ ขึ้นเป็นนายกฯ
แล้วทำไมทักษิณ ผู้มากบารมีเหนือกฎหมายประเทศไทย จะถ่ายอำนาจจากพ่อให้อุ๊งอิ๊งขึ้นเป็นนายกฯ ไม่ได้?
ไหนๆ ก็ไหนๆ ตลกหน้าฉาก “ยง-นง พ่วง” อีกไม่ถึง ๑๐๐ปี ก็จะแก่ตาย น่าเสียดาย ไม่มีใครสืบต่อวิชา
ทักษิณก็อย่าให้เป็นอย่างนั้น
คืออย่าปล่อยให้ “วงศ์ชินวัตร” ต้องขาดตอนอำนาจคุมประเทศ มาขนาดนี้แล้ว เสือย่อมไม่ลงจากหลังสือ ฉะนั้นก็เอาให้มันสุดๆ ไปเลย
ส่ง “อุ๊งอิ๊ง” นั่งเก้าอี้นายกฯ ไปเลย ผมเชียร์สุดใจ!
การเมืองต่อจากนี้ ถ้าจะเล่น มันต้องเล่นชนิด “เกหมดหน้าตัก”
ถ้ายังขืนเล่นยึกๆ ยักๆ ยืมจมูกคนอื่นหายใจแทนแบบนี้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ถูก “ตี๋หัวตั้ง” วัดรอยตีนยกเค้าเอาไปกินแน่!
ในวงการเมือง มีสโลแกนว่า “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร”
ดูอย่างรัฐบาลตอนนี้ซิ……
ที่พูดกันมา ๘-๙ ปี ชาตินี้ก็ร่วมกันไม่ได้ แต่วันนี้ ฝ่ายเผด็จการ-ฝ่ายประชาธิปไตย กอดกันกลมดิก!
ในวงการตำรวจ มีว่า “ไม่มีนายแท้และลูกน้องถาวร”
แล้วเห็นมั้ย วงการตำรวจ “ลูกพี่-ลูกน้อง” ถึงเวลาหนึ่ง เพื่อความอยู่รอดและความรุ่ง
“ไม่สนนาย-ไม่สนลูกน้อง” มีจังหวะ ลูกพี่-ลูกน้องจ้วงแทงกันเองอุตลุต
วงการเดียวเท่านั้นที่ “กินเนื้อกันเอง” จนพูดกันทั่ว “ตำรวจกินเนื้อตำรวจ”
แต่ทักษิณ จากตำรวจมาเป็นนักการเมือง เลี้ยงตำรวจไว้ใช้งาน แล้วแปลงตัวเองเป็นเสือ
หันไปจับ “คนตาบอด” ในระบบเลือกตั้งกินเป็นอาหารแทน!
แล้ววัฏจักรตำรวจกำลังหมุนมาเป็นวัฏจักรการเมืองท้าทายทักษิณ “ไม่มีนายแท้และลูกน้องถาวร” ในศึกเลือกตั้ง
ทักษิณ จะเป็นซีซาร์
ธนาธร จะเป็นบรูตุส หรือไม่?
และฟ้าส่ง “อุ๊งอิ๊ง” มาแก้ทางให้ซีซาร์ใช่มั้ย?
วุ๊ย…พูดอะไรก็ไม่รู้…งงเอง!
เปลว สีเงิน
๘ มีนาคม ๒๕๖๗