7 มีนาคม 2567 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบกระทู้ถามทั่วไป นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส. ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ เรื่องประชาชนไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน จากการประกาศทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะในจังหวัดภาคใต้ ที่ถามว่ามีแนวโน้มจะออกเอกสารสิทธิ์ให้ประชาชนหรือไม่ และเมื่อใด โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชุมพร ที่มีประชาชนอาศัยมาจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ มีแนวคิดจะแก้ปัญหาอย่างไร
นายชาดา กล่าวว่า เขตที่ดินทุ่งเลี้ยงสัตว์นั้น เป็นที่ดินสาธารณะ สมบัติของแผ่นดิน พลเมืองใช้ร่วมกันตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงไม่สามารถออกเป็น เอกสารที่ดินได้ ตามนัยยะกระทรวง แต่หากราษฎรได้ครอบครองที่ดินนั้นมาก่อน ที่ดินเป็นของรัฐ และมีหลักฐานอื่นเช่น นส.3 ก. ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการ พิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินได้ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการ พิสูจน์ติดที่ดินของรัฐ จังหวัด จึงขอเรียนว่า เรื่องที่ถามต้องเป็นไปตามคณะกรรมการ พิสูจน์สิทธิ และกำลังดำเนินการอยู่ ตอนนี้มีกฎหมาย คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือคทช. ที่เหนือกว่ากรมที่ดิน เราก็ต้องมาตั้งอนุกรรมการ ตามพื้นที่ที่มีการร้องขอ
นายชาดา ยังอธิบายว่า พื้นที่ที่เป็น ความเจริญแล้ว แต่ยังเป็นพื้นที่ป่าสงวน เป็นอีกกรณีหนึ่ง ซึ่งมีความเป็นเมืองแล้ว เป็นปัญหาที่ต้องแก้อีกระบบ โดยใช้ระบบของกฎหมาย แต่หากเป็นพื้นที่ทำกินที่ คทช.จะจัดให้ ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งมีมติเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2547 เห็นชอบนโยบายจัดการ การใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐ เติมมอบหมายให้กรมที่ดินกระทรวงมหาดไทย นำที่ดินสาธารณประโยชน์ ที่ประชาชนเลือกใช้ประโยชน์แล้ว มาร่วมการจัดระเบียบการถือครอง เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน โดยจัดให้คนละ 15 ไร่ คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อ เมื่อปี 2558 อนุมัติหลักการ จัดการที่ดินชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน เป็นกลุ่มหรือชุมชนตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข โดยกรมที่ดินได้ปรับเปลี่ยน แนวทางการจัดที่ดิน ให้อยู่ภายใต้คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ โดยจัดระเบียบให้เป็นแปลงรวม หรือ ออกหนังสืออนุญาตให้กับชุมชน ที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล สหกรณ์ หรือรูปแบบอื่น ที่เหมาะสม ยืนยันว่าถ้าเป็นพื้นที่ที่จัดการง่ายโดยประชาชนเลิกใช้ไปแล้ว ก็จะแบ่งให้ประชาชน คนละ 15 ไร่ ซึ่งได้ทำไปแล้วหลายพื้นที่ แต่กรณีที่เป็นพื้นที่ชุมชน ก็จะต้อง ทำอีกระบบหนึ่ง ตนอยากให้สมาชิกทำเรื่อง เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินการ เจาะจงเป็นรายพื้นที่และให้จังหวัดส่งมาที่กระทรวง จะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
ขณะที่นายวิชัย กล่าวว่าดีใจ และขอบคุณรัฐมนตรี ที่เข้าใจหัวอก พี่น้องคนจังหวัดชุมพร และพอใจกับคำตอบที่รับปากแก้ไขหากส่งเรื่องไปที่กระทรวง