สันต์ สะตอแมน
“ONE MAN AND THE RIVER ..หนึ่งคนว่าย หลายคนให้”
ยังจำกันได้นะ..เป็นกิจกรรมที่ “โตโน่” หรือคุณภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้อง นักแสดงหนุ่มหล่อได้เพียร-พยายามว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง
เพื่อรับบริจาคเงินไปช่วยเหลือรพ.นครพนม และ รพ.เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาไง!
วานซืน..เห็นข่าวจาก “แนวหน้าออนไลน์” รายงาน..วันที่ 21 ก.พ.67 เมื่อเวลา 10.30 น.โรงพยาบาลนครพนมได้จัดงานส่งมอบศูนย์หัวใจสองฝั่งโขง ONE MAN AND THE RIVER
ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการสวนหัวใจและหลอดเลือด Cardiac Catheterization Laboratoty รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์สำหรับหอผู้ป่วยวิกฤตหัวใจ (CCU)
ตามรายการบริจาคของ โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้อง นักแสดงชื่อดัง วัย 38 ปี ที่จัดกิจกรรมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง “ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้”
เพื่อระดมทุนไปช่วยเหลือ รพ.นครพนม และ รพ.เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา และมียอดบริจาคมากถึง 92 ล้านบาทเศษ
โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ได้เปิดเผยว่าพวกเราทั้งพี่น้องชาวไทยและพี่น้องชาว สปป.ลาวได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้ รพ.นครพนม และรพ.แขวงคำม่วน
โดยมูลค่าสิ่งของที่เราจัดซื้อไปทั้งหมดคิดเป็น 92,500,000 บาท (เก้าสิบสองล้านห้าแสนบาทถ้วน)
วันนี้ถือเป็นวันที่ดีมากๆ ที่เรามาร่วมกันเป็นสักขีพยานในการปิดโครงการเพื่อส่งมอบ “ศูนย์หัวใจสองฝั่งโขง” (Cath Lab) ที่ใช้เวลากว่า 6 เดือนในการจัดตั้งศูนย์หัวใจแห่งนี้
เริ่มตั้งแต่การทำห้องสวนหัวใจใหม่ ที่มีระบบความปลอดภัยจากอันตรายของรังสีต่างๆ รวมถึงการทำระบบไฟฟ้าสำรองที่สามารถตรวจรักษาผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง แม้ระบบไฟฟ้าจะดับ
นอกจากนี้ยังมีการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์อื่นๆ ที่จำเป็น สำหรับใช้ในห้องตรวจรักษาแบบครบครัน
ได้แก่ เครื่องสวนหัวใจระนาบเดี่ยว, เครื่องอัลตร้าซาวด์หัวใจ, เครื่องอัลตร้าซาวด์ชนิดดูเส้นเลือดหัวใจ, เครื่องตรวจวัดการแข็งตัวของเลือด, เครื่องปั้มหัวใจไฟฟ้า, เครื่องตรวจคลื่นหัวใจ
พร้อมระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้เพื่อให้วิเคราะห์การตรวจรักษาได้อย่างแม่นยำ
ปัจจุบันเราทราบว่าทั้งสองโรงพยาบาลได้ใช้เครื่องมือแพทย์ที่ได้รับบริจาคจากโครงการหนึ่งคนว่ายหลายคนให้อย่างคุ้มค่า
“ผมรู้สึกดีใจที่พวกเราได้มีส่วนร่วม ทำให้พี่น้องชาวไทยและชาว สปป.ลาว ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงโรงพยาบาลแห่งนี้
ได้เข้าถึงการตรวจรักษาที่ทันสมัย เพื่อให้ทุกท่านได้มีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สุดท้ายนี้ผมขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่มีส่วนในการทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงตามเจตนาที่ได้ตั้งใจไว้”
ครับ..ก็ขอแสดงความยินดีทั้งกับคุณโตโน่ที่ได้ทำฝันตัวเองได้สำเร็จด้วยความมุ่งมั่น ทั้งกับ 2 โรงพยาบาลสองฝั่งโขง..
ที่จากนี้ไปจะได้มีเครื่องไม้-เครื่องมือที่จะรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ!
และนี่ก็ไม่รู้ว่า คุณโตโน่จะมีโครงการทำกิจกรรมแบบนี้อีกหรือไม่อย่างไร ยังไงเสียถ้าเผื่อจะระดมทุนหาเงินซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลอีก
ผมก็ใคร่ขอฝากคุณโตโน่ช่วยพิจารณารพ.ตำรวจเอาไว้ด้วยสักแห่งเถอะนะ เขาจะขาดเหลืออะไรก็ลองถามๆดู
เครื่องไม้-เครื่องมือคงจะเก่า-โบราณแล้วแหละ เพราะแค่แขนกระดูกหัก กับเอ็นไหล่ขาดยังต้องนอนรักษาตั้งเฉียดครึ่งปีแน่ะ!
ยังงี้ต้องโละ-รื้อทิ้งให้เกลี้ยงแล้วล่ะ!
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก เก็บรักษ์