ผักกาดหอม
บางสถานการณ์
บางเวลา
การเมืองซับซ้อนเสียยิ่งกว่าเขาวงกต
ปัจจัยจากตัวละครเยอะ สถานการณ์เปลี่ยน เงื่อนไขที่ไม่เหมือนเดิม
กรณี “นักโทษชายทักษิณ” ไม่อาจอธิบายอย่างตรงไปตรงมา ตามตัวบทกฎหมาย ตามสถานการณ์การเมืองปกติ หรือตำราใดๆ ได้
เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น คือ “ดีลลับ”!
พฤติการณ์ทั้งหมดนับตั้งแต่ การแก้กฎกระทรวง ออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ ล้วนเป็นการซ่อนเจตนาทั้งสิ้น
เขียนในวันที่ไม่มีใครเชื่อว่า “นักโทษชายทักษิณ” จะกล้ากลับมารับโทษ
จึงไม่มีใครสงสัยว่าผู้ได้รับประโยชน์ตัวจริงคือใคร
ดีลลับที่ทำกันเงียบๆ นี้ เกี่ยวข้องกับกี่คนกี่ฝ่าย ณ เวลานี้ไม่อาจทราบได้
แต่ผลที่ออกมา คือการกลับมาอย่างเท่ๆ ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียวของ “นักโทษชายทักษิณ” นั้นคือดีลที่สำเร็จและสมหวังสำหรับฝั่ง “นักโทษชายทักษิณ”
แล้วอีกฝ่ายได้อะไร
และดีลอะไร?
วานนี้ (๒๐ กุมภาพันธ์) ในเวทีเสวนาการเมือง Talk of the tea ตอน “ทัณฑ์ทิพย์ สู่ทิศทาง(การเมือง)ไทย” ที่สำนักงานไทยโพสต์ แฉดีลกันสนั่น!
นันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรหลอมรวมประชาชน
ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
๓ ท่านนี้ให้เกียรติมาเป็นพิธีกร
หัวเรื่อง “ทัณฑ์ทิพย์” ได้ข้อสรุปเป็นเอกฉันท์ “นักโทษชายทักษิณ” ยังไม่ได้รับโทษเลยสักวันเดียว มีแต่ทัณฑ์ทิพย์ ก่อนได้รับการพักโทษจริง
ไม่ใช่พักโทษทิพย์
กลับบ้านจันทร์ส่องหล้าจริง ไม่ใช่บ้านจันทร์ส่องหล้าทิพย์
และได้เห็นภาพ ป่วยทิพย์ ไม่ใช่ป่วยจริง
หลังจับ “นักโทษชายทักษิณ” ขึงพืด แก้ผ้าล่อนจ้อน เห็นหูดเห็นไฝแล้ว ยังเห็นร่องรอยของดีลลับ
ฟัง “จตุพร” พูดจะเชื่อหรือไม่ก็ได้
แต่หากไม่มีดีลก็ยากที่จะมีพักโทษโดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว
“…การได้กลับประเทศไทยโดยไม่ต้องติดคุกซักวันเดียว เกิดขึ้นจากดีล ก่อนวันที่ ๒๒ สิงหาคม พรรคพวกในสมาชิกวุฒิสภา ได้รับคำสั่งในการโหวตเลือกเศรษฐา ทวีสิน ในช่วงเช้าวันนั้น แล้วต้องสังเกต ถัดจากนั้นว่ารัฐบาลภายใต้การนำของเศรษฐา ไม่ได้ราบรื่น
เขาตั้งใจเลือกนายเศรษฐาเพราะเขามีเรื่องเยอะ มีการตั้งเรื่องร้องเรียนจากนักร้อง แถมยังไม่ได้ทำผลงาน ใช้งบประมาณไม่ได้ เพราะทำล่าช้า งบฯ ปี ๖๗ จะใช้ได้ก็เดือนพฤษภาคม
ประกอบกับไทม์ไลน์ สว.จะหมดอายุ ๑๑ พฤษภาคมนี้
ถ้าคำนวณปรากฏการณ์การนับวันที่ ๑๐ เมษายนก่อนสงกรานต์ ไล่เลียงขึ้นไปแล้วศาลฎีกานัดคดีโรดโชว์ ของยิ่งลักษณ์ ที่เลื่อนมาเป็นวันที่ ๔ เมษายน
และวันที่ ๑๕ มีนาคม กรรมการดิจิทัลวอลเล็ต น่าจะได้ข้อสรุป แล้วส่งให้คณะรัฐมนตรี ถ้าดีลเดินหน้าก็ต้องเข้า ครม. ก็ต้องดูว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าประชุมหรือไม่
ถ้านโยบายนี้ไม่ผ่าน ครม.เศรษฐาก็ต้องไป
เหตุการณ์ก็จะเกิดก่อนสงกรานต์ แล้วเวลาจะบรรจบกับ สว.หมดอายุ ถ้าเป็นไปตามกำหนดการนี้ มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ แน่นอน
เชื่อว่านายกฯ คนใหม่อยู่ใน ๓ แคนดิเดตหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ผมไม่เชื่อว่าเค้าจะไม่วางตัว อุ๊งอิ๊ง ดังนั้นถ้าไม่เบี้ยวดีล เศรษฐาต้องไปก่อนสงกรานต์ แต่คิดว่ากระดานนี้ไม่ใช่ชื่อประวิตร…”
ที่จริงไม่ใช่ข้อมูลอินไซด์ไปเสียทั้งหมด
มันคือไทม์ไลน์ที่เป็นจริง และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีได้
แต่ “เศรษฐา” จะไปไวขนาดนั้นเลยหรือ
“ผศ.ดร.วันวิชิต” มองอีกมุม
“ผมเชื่อว่าเศรษฐาจะลากไปหนึ่งปี กรณีดิจิทัลวอลเล็ตมันจะเกิดขึ้น จากนั้นถึงจะเกิดความรับผิดชอบทางนโยบาย อย่าลืมว่าตอนนี้จะเข้าสู่การเลือกตั้งท้องถิ่น จะไม่มีนโยบายอะไรไปหาเสียงถ้าไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต ผมเชื่อว่าช่วงเวลาอันใกล้จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีมากกว่า”
เป็นไปได้ทั้งนั้น
แต่เมื่อมีดีล และฝั่ง “นักโทษชายทักษิณ” ได้ไปแล้ว ก็ถึงคราวต้องเป็นฝ่ายเสียบ้าง
แล้วอะไรคือเครื่องมือต่อรองของอีกฝั่ง
ใช่อนาคตโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างที่ “จตุพร” ชี้เป้าหรือเปล่า เพราะหากพลาดมีโอกาสติดคุกทั้ง ครม.
และอีกฝั่งอยากได้อะไร
เก้าอี้นายกฯ อย่างนั้นหรือ?
วันนี้ยังไม่มีคำตอบ เพราะยังมีดีลอีกชั้นซ้อนอยู่
วิจารณ์กันเซ็งแซ่ “นักโทษชายทักษิณ” กลับมาพร้อมกับ ปรากฏการณ์ แดง-เหลือง ร้องเพลงสามัคคีชุมนุม
แต่ยิ่งนานวัน แยกน้ำแยกเนื้อ ยังเป็นปลาคนละน้ำ เพราะผลจากดีลลับนั่นเอง
คำพูดของ “จตุพร” ท่อนหนึ่งน่าสนใจ
“…การที่ไปมองกันว่า ทักษิณ จะกลับมาเป็นตัวแทนของฝ่ายอนุรักษนิยมนั้น น่าจะยาก เพราะฝ่ายอนุรักษนิยมก็มีสเปกของเขาในการเลือกคนซื่อสัตย์ คนดี เพราะฉะนั้นถ้าบอกเป็นตัวแทนในการไปสู้ ก็คงผิดที่สุด เพราะต้นทุนติดลบจากภาพอภิสิทธิ์ชน สองมาตรฐาน ถ้าจะใช้ต้องแต่งตัวมากกว่านี้ และมีสภาพพอที่จะไปฟาดฟันกับพรรคก้าวไกล ที่สำคัญฝ่ายอนุรักษ์ก็อกหักกับปรากฏการณ์ ๒๒ สิงหาคม ที่ผ่านมาอยู่เหมือนกัน…”
เมื่อดีลใหญ่ดูง่อนแง่น “นักโทษชายทักษิณ” ไม่สมราคา เดินหน้าก็ลำบาก จะถอยก็ไม่ได้ แล้วดีลรองจะไปทางไหน
ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ดีลใหญ่ ตกเป็นเหยื่อ ดีลรอง ได้ไม่ยาก
การเมืองมันโหดเหี้ยม หาก “นักโทษชายทักษิณ” เบี้ยวดีล รัฐบาลไปไม่รอด
กลับกันอีกฝ่ายจะยื่นเงื่อนไขเปลี่ยนตัวนายกฯ ชนิดที่ “นักโทษชายทักษิณ” ไม่อาจปฏิเสธได้
การพักโทษ แทนที่จะเป็นประโยชน์ทางการเมืองให้พรรคเพื่อไทยหลังจากนี้ จะกลับกลายเป็นโทษแทน เพราะการขุดขบวนการ “ทัณฑ์ทิพย์” ไม่ได้พักไปด้วย
และคนที่จ้องจะขุดไม่ได้มีกลุ่มเดียว
หลักฐานที่จะถูกบังคับโดยศาลในวันข้างหน้า จะทำให้ความจริงปรากฏ
เอาแค่ ๑ ตัวอย่าง
“นักโทษชายทักษิณ” นอนห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ กว่า ๑๘๐ วัน ทุกวันจะต้องมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุม ๔ คน จำนวน ๒ ผลัด
ต้องถ่ายรูปกับนักโทษทุกๆ ๒ ชั่วโมง
รวมแล้วต้องมีรูป “นักโทษชายทักษิณ” กว่า ๒ พันรูป
เชื่อเถอะครับหลักฐานชั้นนี้ไม่มีใครกล้าทำลาย ไฟก็ไม่กล้าไหม้
มันลับในลับอีกชั้น
เพราะคนเดินเกมไม่ได้แทงม้าตัวเดียว