สันต์ สะตอแมน
“ผู้นำประเทศและรัฐบาลในปัจจุบันนั้น..
แม้จะทำดีอยู่แล้ว แต่ยังไม่ดีที่สุด และยังไม่ใช่ผู้นำประเทศตัวจริงที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่ยุคศิวิไลซ์
หลังจากเดือน เม.ย. 67 เป็นต้นไป ผู้นำที่แท้จริงที่มีหน้าที่ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ พร้อมกับคณะผู้บริหารใหม่
ในการเปลี่ยนผ่านดังกล่าวนี้จะเป็นไปด้วยความยินยอมพร้อมใจร่วมกันของทุกฝ่าย และปราศจากความขัดแย้งหรือความรุนแรง เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ยังไม่ขอระบุว่าผู้นำตัวจริงคนที่ว่านี้เป็นผู้ใด บอกได้แต่เพียงว่าเป็นผู้ชาย เป็นคนที่มีคุณธรรมและบารมี เวลานี้อยู่ในประเทศไทย และคนที่เห็นหน้าค่าตากันอยู่แล้ว”
ครับ..ทั้งหมดนี้เป็นคำพูดของคุณวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือ “โหรวารินทร์” ซึ่งดูด้วยตา สัมผัสด้วยใจ ณ ตอนนี้ ก็ยังไม่มีเหตุบ่งชี้อันใดที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปถึงขั้นนั้น!
อย่างไรก็ตาม เมื่อโหรคนดังทำนายทายทัก จะไม่เชื่อเสียเลยก็กระไรอยู่ ถ้างั้นก็เฝ้าดูกันไปพร้อมๆ กับดูกันว่า..
นักโทษเด็ดขาดชายนายทักษิณ ชินวัตร สุดท้ายแล้วจะได้กลับไปนอนบ้าน หรือกลับไปนอนคุก!
พูดถึงนายทักษิณ วันก่อนเห็นคุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่อุตส่าห์บินมาจากพัทลุงเพื่อร่วมวง-ร่วมสู้กับคณะคปท. โพสต์..
“…การที่คุณทักษิณเคยพูดว่าจะกลับมาอย่างเท่ๆ และไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว ผมไม่เชื่อและผมเคยประชดว่า ถ้าจะมาแบบนั้น ก็ต้องมีพระนำมาล่ะ
แต่สุดท้าย คุณทักษิณที่สุขภาพดี แข็งแรง ก็กลับมาสู่อ้อมกอดของมาตุภูมิและไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว คุณทักษิณทำได้จริง อันนี้ เหลือเชื่อจริงๆ
ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่ผมขอบอกว่าคุณทักษิณ ทำให้ผมรักประเทศนี้น้อยลง
ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ ผมเป็นนักกฎหมายที่เคยเชื่อระบบนิติรัฐ ตอนนี้ผมหมดความเชื่อถือต่อระบบนิติรัฐของประเทศนี้ไปแล้ว
กรณีของคุณทักษิณ อาจทำให้ผมเห็นแก่ตัวมากขึ้น ผมบอกคนที่รู้จักว่า “เอาตัวให้รอดเถอะ” ประเทศนี้อาจไม่เหมือนเดิม คุณทักษิณ ทำให้ประเทศผมเปลี่ยนไปจริงๆ
ที่ผมทำ และคิดอยู่ทุกวัน ก็เพื่อนำระบบนิติรัฐกลับคืนมา ทำเพื่อให้ผมกลับมารักประเทศนี้เหมือนเดิม เหมือนที่ผมเคยรัก ทำได้หรือเปล่าผมไม่รู้.”
ก็..เข้าใจความรู้สึกล่ะนะ แต่การตัดพ้อ “ทำให้ผมรักประเทศนี้น้อยลง” ก็ทำให้ผมค่อนข้างจะผิดหวังในตัวคุณนิพิฏฐ์อยู่ไม่น้อย
คุณนิพิฏฐ์เป็นผู้ที่มีทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ และเป็นการนักการเมืองที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ จึงน่าจะมีความหนักแน่น ไม่ใช่ผิดหวัง-ไม่ได้ดังใจเข้าหน่อย ก็น้อยอกน้อยใจ..
พาลไปลงเอากับประเทศชาติ ทั้งๆ ที่ประเทศนี้ไม่เคยทำร้ายจิตใจใคร!
ซึ่งไม่ว่าจะพูดจริงหรือประชด ผมก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเพราะคำพูดเช่นนั้น มันบั่นทอนความรู้สึก-กำลังใจของคนที่เขาต่อสู้เรียกร้องความเท่าเทียม ยิ่งเฉพาะประโยค..
“ที่ผมทำ และคิดอยู่ทุกวัน ก็เพื่อนำระบบนิติรัฐกลับคืนมา ทำเพื่อให้ผมกลับมารักประเทศนี้เหมือนเดิม เหมือนที่ผมเคยรัก ทำได้หรือเปล่าผมไม่รู้.”
พูดเพื่อ?..ถ้าไม่มั่นใจก็นอนอยู่กับบ้านก็ได้ไม่มีใครว่า แต่เมื่อก้าวขาออกมาร่วมต่อสู้แล้ว ต้องปลุกขวัญกำลังใจให้กับผู้ร่วมอุดมการณ์ได้เชื่อมั่น-ฮึกเหิม..
สำนวน-โวหาร เก็บไว้ใช้ทางการเมืองเถอะนะ!