“สิริพงศ์” โต้ “วิโรจน์” ใช้ความจริงครึ่งเดียวอภิปรายงบ ศธ. ยืนยันจัดสรรงบอาชีวะตามศักยภาพจังหวัด ไม่เกี่ยวจำนวน สส.ภท. – เมินเหน็บ รมว.ชื่อ “เพิ่มพูน” แต่ ศธ.ถดถอย ขอทำผลงานแก้ปัญหาการศึกษา

5 มกราคม 2567 เวลา 15.30 น. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ แถลงชี้แจงข้อมูลการอภิปรายด้านการศึกษาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่า

การอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วนเกิดจากความไม่เข้าใจในการจัดทำงบประมาณในภาพรวม ทั้งยังให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน และไม่ครบถ้วน เช่น ประเด็นของงบประมาณที่สถานศึกษาอาชีวศึกษาได้รับแตกต่างกันไปนั้น เพราะกระทรวงศึกษาธิการมีขั้นตอนการเสนองบประมาณผ่านคณะกรรมการระดับเขตพื้นที่ขึ้นมาก่อน

ซึ่งการจัดทำงบประมาณในครั้งนี้ ก็ดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น โดยได้ยกตัวอย่างสถานศึกษาอาชีวศึกษาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่สามารถจัดการศึกษาได้อย่างดีแม้จะเป็นจังหวัดที่มีหลายพรรคการเมือง สถานศึกษาอาชีวศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีระบบทวิภาคีที่เข้มแข็งทั้งในสาขาแอร์โฮสเตส ช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน เป็นต้น

นอกจากนี้ จำนวนประชากรก็มีผลต่อสัดส่วนงบประมาณและจำนวนสถานศึกษาอาชีวศึกษาด้วยเช่นกัน เช่น จังหวัดบุรีรัมย์ที่ได้รับงบประมาณมาก เพราะมีประชากรกว่า 1,500,000 คน

ในส่วนของผลคะแนน PISA ของนักเรียนไทย ในความเป็นจริงพบว่า คะแนนของโรงเรียนในกลุ่มวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ หรือโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ที่อยู่ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ก็สามารถทำคะแนนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของสิงคโปร์เช่นเดียวกัน

รวมทั้งในเรื่องของหลักสูตร ที่เราได้จัดการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลาง ประกอบด้วยวิชาที่มีความสำคัญในการเรียน แต่อาจจะเป็นที่รูปแบบการจัดการเรียนการสอน ซึ่งขณะนี้เราได้เปิดกว้างให้แต่ละสถานศึกษา สามารถจัดการเรียนการสอนของตนเองได้ เช่น หลักสูตรอิงลิชโปรแกรม มินิอิงลิชโปรแกรม ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ หรือ Gifted ห้องเรียนภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่น ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ภายใต้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการศึกษาไทยยังมีความเหลื่อมล้ำและไม่เสมอภาคทางการศึกษา แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความสำคัญผ่านนโยบาย Anywhere Anytime เพื่อสร้างการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลาให้กับผู้เรียนทุกคน

ส่วนประเด็นของโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีการกล่าวหาว่าเป็นภาระงบประมาณนั้น แม้การยุบโรงเรียนขนาดเล็กจะช่วยลดภาระได้ แต่เรามีความจำเป็นต้องทำให้การศึกษาไทยเดินหน้า ทำให้โรงเรียนและสังคมอยู่ร่วมกันได้ด้วย

จึงได้พยายามเพิ่มโรงเรียนคุณภาพในระดับตำบลและอำเภอ เพื่อเปิดทางเลือกและเตรียมสถานศึกษาให้กับเยาวชนที่สมัครใจย้ายก่อน ดีกว่าการยุบโรงเรียนขนาดเล็กไปเลย

ท้ายสุด การเปรียบเทียบงบประมาณดำเนินงาน และรายจ่ายอื่น ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการกับกระทรวงสาธารณสุขนั้น คงเป็นไปไม่ได้ เพราะบริบททั้ง 2 กระทรวงมีความแตกต่างกัน โดยโรงเรียนได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนหัวของนักเรียน เปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ของงบประมาณและไม่มีเงินนอกงบประมาณอย่างอื่น ส่วนเงินจากกองทุนเสมอภาคทางการศึกษาเป็นงบประมาณส่วนเติมเต็มให้กับโรงเรียนที่ยังขาดโอกาสเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาธิการในยุคพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ ให้ความสำคัญต่อการศึกษาโดยจะเห็นได้จากนโยบายทางการศึกษา ที่รู้ปัญหาจริง และมีแนวคิดแก้ปัญหาการศึกษาอย่างยั่งยืน

Written By
More from pp
TK Park ชวนมา “รู้สู้โรค” เตรียมทุกคนให้พร้อมรับมือโควิด-19
TK Park อยากให้คนไทยหันมาใส่ใจและรักษาสุขภาพของตนเองและคนรอบข้างกันให้มากขึ้น โดยจัดกิจกรรม Skill Alive: รู้สู้โรค มาเสริมความรู้ด้านสุขภาวะ สอนการป้องกันและรู้เท่าทันเชื้อไวรัสโควิด-19
Read More
0 replies on ““สิริพงศ์” โต้ “วิโรจน์” ใช้ความจริงครึ่งเดียวอภิปรายงบ ศธ. ยืนยันจัดสรรงบอาชีวะตามศักยภาพจังหวัด ไม่เกี่ยวจำนวน สส.ภท. – เมินเหน็บ รมว.ชื่อ “เพิ่มพูน” แต่ ศธ.ถดถอย ขอทำผลงานแก้ปัญหาการศึกษา”