ผักกาดหอม
เปิดฉากแล้วครับ…
สภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ วงเงิน ๓.๔๘ ล้านล้านบาท วาระที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๓-๕ มกราคม
รัฐบาลตั้งงบฯ จำแนกตามประเภทต่างๆ ได้ดังนี้
จำแนกตามกลุ่มงบประมาณ ดังนี้
๑) รายจ่ายงบกลาง จำนวน ๖๐๖,๗๖๕ ล้านบาท
๒) รายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ ๑,๑๕๐,๑๑๔ ล้านบาท
๓) รายจ่ายบูรณาการ ๒๑๔,๖๐๑.๗ ล้านบาท
๔) รายจ่ายบุคลากร ๗๘๖,๙๕๗.๖
๕) รายจ่ายสำหรับทุนหมุนเวียน ๒๕๗,๗๙๐.๕
๖) รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ ๓๔๖,๓๘๐.๑
และ ๗) รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ๑๑๘,๓๖๑.๑
จำแนกตามยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ และรายการค่าดำเนินการภาครัฐสรุปได้ ดังนี้
๑) ด้านความมั่นคง ๓๙๐,๑๔๙.๓ ล้านบาท
๒) ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ๓๙๓,๕๑๗.๙ ล้านบาท
๓) ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ๕๑๖,๙๕๔.๒ ล้านบาท
๔) ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ๘๓๔,๒๔๐.๖ ล้านบาท
๕) ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ๑๓๑,๒๙๒.๓ ล้านบาท
และ ๖) ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ๖๐๖,๘๐๔.๕ ล้านบาท
มีรายการค่าดำเนินการภาครัฐ จำนวน ๕๖๔,๐๔๑.๒๐ ล้านบาท เพื่อสำรองไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมายสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นการชำระหนี้ภาครัฐ และเพื่อชดใช้เงินคงคลัง
เทียบกับงบประมาณ ปี ๒๕๖๖ เม็ดเงิน ๓.๑๘๕ ล้านล้านบาท เท่ากับว่างบประมาณปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย
ที่น่าสนใจคืองบกลาง สมัยรัฐบาลลุงตู่ตั้งไว้ ๕.๙๐ แสนล้านบาท มายุครัฐบาลเศรษฐาตั้งไว้สูงถึง ๖ แสนล้านบาท
วัดตัวเลขกลมๆ เท่ากับเม็ดเงินที่จะนำมาแจกประชาชนตามนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตหัวละ ๑ หมื่นบาท ยังมีทอนอีกร่วมแสนล้านบาท
ก็น่าจับตามองว่า งบกลางก้อนมหาศาลนี้ รัฐบาลเตรียมไว้เผื่อไม่อาจออกพระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้านบาทได้ใช่หรือไม่
แม้จะมีความเป็นไปได้น้อย แต่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้
ถ้าใช่ก็จะกลายเป็นหายนะของงบประมาณรายจ่ายของประเทศ
งบกลางจะหายไปกับโครงการแค่โครงการเดียว
งบกลาง มักจะเป็นไฮไลต์ของการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในสภาแทบทุกปี
ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี ๒๕๖๕ ถือว่าดุเดือด เพราะฝ่ายค้านคือพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลซดกันเอง
ก้าวไกลหาว่าเพื่อไทย ตีเช็คเปล่า ให้รัฐบาลประยุทธ์
การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการหลายครั้งเกิดปรากฏการณ์สลายขั้วการเมือง เนื่องจากเมื่อลงในรายละเอียดแล้ว กรรมาธิการแต่ละคนจะเห็นภาพที่กว้างขึ้น เห็นความจำเป็นและการเรียงลำดับการใช้งบประมาณได้ชัดเจนขึ้น
งบ ๒๕๖๕ ยังคงต้องใช้เงินงบประมาณแก้ปัญหาโควิด พรรคก้าวไกลที่มองการแก้ปัญหาโควิดแบบติดลบมาตลอด ยังคงมองติดลบต่อไป ส่วนเพื่อไทยเห็นว่ามีความจำเป็นที่งบประมาณซึ่งถูกปรับลดจากหน่วยงานต่างๆ ควรไปกองไว้ในงบแก้ปัญหาโควิด
เป็นที่มาฝ่ายค้านแตกคอกันเองในชั้นกรรมาธิการฯ
ถือเป็นความดีความชอบของพรรคเพื่อไทยที่มองความเป็นจริงมากกว่า พรรคก้าวไกล ที่กอดตำราทำงบประมาณ
มาปีนี้แน่นอนครับคำว่าตีเช็คเปล่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งแน่นอน บนสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
โควิดกลายเป็นเรื่องรองไปแล้ว
เรื่องหลัก หรือความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้งบประมาณจากงบกลางคืออะไร
ถามไปตอนนี้ยากที่จะได้รับคำตอบ
งบบกลาง เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่จัดสรรให้หน่วยรับงบประมาณ เพิ่มเติมจากงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ
การตั้งงบกลางมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการมีเหตุผลและความจำเป็นที่ไม่อาจจัดสรร หรือไม่สมควรจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้หน่วยรับงบประมาณได้โดยตรง
ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ขยายความเพิ่มเติมว่า “การขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กระทำได้ในกรณีที่เป็นรายจ่าย ดังนี้
๑.เป็นรายจ่ายเพื่อการป้องกันหรือแก้ไขสถานการณ์อันมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ
๒.เป็นรายจ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อการเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง
๓.เป็นรายจ่ายที่ได้รับจัดสรรงบประมาณไว้แล้วแต่มีจำนวนไม่เพียงพอและมีความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐต้องใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณโดยเร็ว
๔.เป็นรายจ่ายที่ไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณ แต่มีภารกิจจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการและต้องใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณโดยเร็ว
แล้วรัฐบาลนำงบกลางไปแจกประชาชนตามนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้หรือไม่
คำตอบคือได้ แต่ต้องทำขนาดของนโยบายให้เล็กลง ใช้เม็ดเงินน้อยลง
สส.ฝ่ายค้านอย่าง “ศิริกัญญา ตันสกุล” สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็พอจะจับทางได้ว่า รัฐบาลควรเร่งคำตอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า รัฐบาลสามารถออก พ.ร.บ.กู้เงินได้หรือไม่
ถ้าไม่ได้ ต้องใช้แผนสอง คือใช้เม็ดเงินจาก พ.ร.บ.งบประมาณปี ๒๕๖๗ ผ่านงบกลาง
ครับ…เห็นเถียงกันไฟแลบระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน ขู่กันถึงขนาดจะซักฟอกแบบย่อมๆ ก็ทำไปเถอะครับ
เพียงแต่ สส.พรรคก้าวไกลหลายคนต้องการแจ้งเกิดจากการอภิปรายงบประมาณ
จับตาดูดีๆ จะมี สส.บางคนจับแพะชนแกะ นำงบประมาณอันเกี่ยวเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริมาเหมารวมว่าเป็นงบประมาณของสถาบันพระมหากษัตริย์อีกครั้ง
มาตามสูตรครับ ด้อมส้มไม่ได้ชอบคนดีย์ แต่ชอบคนกล้าชน
ชนมั่วก็ขึ้นชื่อว่ากล้าชน
แหกตาด้อมส้มไม่ยากเย็นอะไรเลย
