ในช่วงเทศกาลปีใหม่มักเต็มไปด้วยบรรยากาศการเฉลิมฉลองแห่งความสุข เช่น การจับฉลากปีใหม่ จัดปาร์ตี้กินอาหาร ขนมและดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกัน ซึ่งบางคนอาจฉลองต่อเนื่องกันหลายคืน ทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนน้อย จนอาจนำไปสู่โรค Holiday Heart Syndrome หรืออาการหัวใจเต้นผิดจังหวะได้โดยไม่รู้ตัว
แพทย์หญิงทรายด้า บูรณสิน อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า โรคหัวใจ มักไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะเริ่มต้น กว่าจะรู้ตัวอาจจะสายเกินไป ซึ่งโรค Holiday Heart Syndrome หรือ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบเฉียบพลันเป็นหนึ่งในโรคหัวใจที่เกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน เป็นโรคที่ไม่มีสัญญาณเตือนให้รู้ตัวก่อน ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว
โดยโรคนี้สามารถเกิดได้กับทุกคนโดยเฉพาะวัยหนุ่มสาว ที่พักผ่อนน้อย อดนอน สังสรรค์ปาร์ตี้หนักติดต่อกันหลายคืน คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก หรือติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวัน
อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ไม่สดชื่น ไม่มีแรง รู้สึกแน่นหรือเจ็บหน้าอก เวียนหัว หน้ามืด หัวใจเต้นรัวและเร็วกว่าปกติ หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย ซึ่งหากพบว่าตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดมีอาการต่างๆเหล่านี้ควรรีบมาพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
สาเหตุของ Holiday Heart Syndrome เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่
- การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก ซึ่งจะไปกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วและเต้นผิดจังหวะ
- การอดนอนในช่วงเทศกาลวันหยุด
- ร่างกายขาดน้ำจากการดื่มแอลกอฮอล์
- ความเครียดจากการสังสรรค์ในช่วงเทศกาลวันหยุด
ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองในช่วงปาร์ตี้เทศกาลปีใหม่ห่างไกลโรค ไม่ใช่เรื่องยาก โดยจะต้องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีลิมิต หาเวลาพักผ่อนหรือไปทำกิจกรรมอื่นแทนการดื่ม, หลีกเลี่ยงการกินอาหารประเภทที่มีโซเดียมและไขมัน เพราะหากไม่ควบคุมการกินอาหารจะส่งผลต่อการทำงานของหัวใจรวมไปถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ
เพราะในช่วงเทศกาลปีใหม่ควรหาเวลาพักผ่อนเพราะถ้าหากพักผ่อนน้อยและนอนดึกติดต่อกันอาจทำให้เกิดความง่วงและความเหนื่อยล้าสะสม จนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานหลังวันหยุด และอาจมีภาวะเสี่ยงต่อ Holiday Heart Syndrome
ทั้งนี้การรักษา Holiday Heart Syndrome ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยแพทย์อาจให้ยารักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ และแนะนำให้ผู้ป่วยลดการดื่มแอลกอฮอล์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด ดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ และเว้นอาหารที่มีไขมันสูงหรือมีรสเค็มจัด