เปลว สีเงิน
วันนี้ เรามาเรียนกฎหมายกันหน่อยดีมั้ย?
เข้าห้องเรียนกันเลย
ที่ห้องพิจารณา ๘๐๑ ศาลอาญา เมื่อวาน (๑ ธค.๖๖)
ศาลตัดสินคดี “กปปส. ชุดเล็ก” ๗ คน ประกอบด้วย
-นายนัสเซอร์ ยีหมะ จำเลย ที่ ๑
-นายอุทัย ยอดมณี จำเลยที่ ๒
-นายนิติธร ล้ำเหลือ (ทนายนกเขา) จำเลยที่ ๓
-น.ส.จิตภัสร์ หรือ “ตั๊น กฤดากร” จำเลย ที่ ๔
– นายพานสุวรรณ ณ แก้ว จำเลยที่ ๕
-นายประกอบกิจ อินทร์ทอง จำเลยที่ ๖
-นายกิตติศักดิ์ ปรกติ จำเลยที่ ๗
โดยอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง ๗ ในความผิด ฐาน
ร่วมกันมั่วสุม เป็นกบฏ สมคบกันใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญฯ
จากกรณี เมื่อช่วงวันที่ ๒๓ พย.๕๖ – ๑ พค.๕๗ จำเลยกับพวก ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่ม กปปส.ได้ร่วมกันชุมนุม
ต่อต้านการบริหารราชการแผ่นดิน และขับไล่ “รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ให้พ้นจากตำแหน่ง ยุยง ปลุกระดม ให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง
และศาลพิเคราะห์แล้ว มีคำพิพากษาออกมา ดังนี้
โดยศาลพิจารณาพยานหลักฐานคู่ความทั้งสองที่เบิกความตรงกันเห็นว่า
“ศาลรัฐธรรมนูญ” เคยมีคำวินิจฉัยว่า…
“การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนเเปลงการปกครองทำให้เกิดความเเตกเเยกในบ้านเมือง”
พฤติการณ์ “ไม่ใช่การทำกบฎ”
ให้ “ยกฟ้อง” จำเลยทั้ง ๗ ในข้อหากบฎฯ
ส่วนข้อหาข้อหาอื่นๆ ศาลมีคำพิพากษาดังนี้
-นายนัสเซอร์ จำเลยที่ ๑ ทำความผิดกรรมเดียว แต่ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทที่หนักที่สุด
ข้อหามั่วสุมตั้งแต่ ๑๐ คนขึ้นไป จำคุก ๖ เดือน โดยให้ “รอลงอาญา”
-น.ส.จิตภัสร์ จำเลยที่ ๔ ผิดฐานยุยงให้ข้าราชการหยุดงาน จำคุก ๙ เดือน ปรับ ๔ หมื่นบาท
-นายอุทัย และนายนิติธร จำเลยที่ ๒- ๓ จำคุก รวม ๕ กระทง คนละ ๕ ปี ๙ เดือน ปรับคนละ ๒ แสนบาท
-นายพานสุวรรณและนายประกอบกิจ จำเลยที่ ๕-๖ จำคุกคนละ ๔ ปี ๙ เดือน ปรับคนละ ๑.๘ แสนบาท
-นายกิตติศักดิ์ จำเลยที่ ๗ เป็นนักวิชาการ แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ตามข้อมูลวิชาการ จึงไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง
และท้ายคำพิพากษา มีว่า
“อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาแล้ว เห็นว่าจำเลยที่ ๒, ๓, ๔, ๕,๖ ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน
ที่กระทำผิด เพราะ….
“ต้องการแสดงออกเพื่อต่อสู้ทางการเมือง” เพราะเห็นความไม่ชอบธรรมในรัฐบาล
และ “ไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อส่วนตัว”
หลังเกิดเหตุ ได้เข้ามอบตัว เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างกล้าหาญ โทษจำคุกให้ “รอการลงโทษ” ไว้ ๒ ปี”
นี่เป็นคำตัดสิน “ศาลชั้นต้น”
ทั้ง ๗ คน โทษจำ “รอลงอาญา” ก็คงยื่นอุทธรณ์กันตามสิทธิ์ต่อไป
คำตัดสินนี้ ในความเห็นผม “ชอบแล้ว-ถึงพร้อมแล้ว” ทั้งกฎหมายรัฐ ทั้งกฎหมายธรรมชาติ
“กฎหมาย” นั้น ต้นรากคือ “ธรรม”
ว่าด้วยกฎเกณฑ์การปฎิบัติตัวทางสังคมและศาสนา
รวมทั้งจารีตประเพณี ซึ่งเป็นหน้าที่ ที่ทุกคนในสังคมต้องปฏิบัติ
อย่างในรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน ในหมวดที่ ๔ ว่าด้วยหน้าที่ของปวงชนชาวไทย มาตรา ๕๐ ระบุไว้ดังนี้
มาตรา ๕๐ บุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(๒) ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิผลประโยชน์ของชาติและสาธารณสมบัติของแผ่นดิน รวมทั้งให้ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ (๓)(๔)(๕)(๖)(๗)(๘)(๙) จนถึง
(๑๐) ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ
ผมอ่านคำพิพากษานี้แล้ว จึงเห็นว่า เป็นคำพิพากษาที่ถึงพร้อมทั้ง “นิติรัฐ-นิติธรรม”
คือ ทั้งธรรมศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ มานุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ ประกอบเข้าด้วยกัน ออกมาเป็น “ดุลตราชู”
ทั้งด้านพระเดชและพระคุณ เป็นหลักยึดของ “สังคมประชาธรรม” ที่ทุกคนยอมรับ ด้วยยินดี
กุญแจไข “ข้อข้อง” สังคม ทั้งหมดนี้ อยู่ตรงท้ายคำพิพากษา ที่ว่า….
“ที่กระทำผิด เพราะต้องการแสดงออกเพื่อต่อสู้ทางการเมือง เพราะเห็นความไม่ชอบธรรมในรัฐบาล และไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อส่วนตัว
หลังเกิดเหตุ ได้เข้ามอบตัว เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างกล้าหาญ โทษจำคุกให้ “รอการลงโทษ” ไว้ ๒ ปี”
อ่านแล้ว…
ในรู้สึก-นึกคิดสำหรับคนอย่างผม ขึ้นชื่อว่า “มีความผิด” ถึงขั้น “คุก-ตะราง” แม้มันเจ็บปวดนัก
แต่ในชีวิตหนึ่ง….ถ้าผิด
และผิดนั้น เป็น “ผิดเพื่อพิทักษ์ถูก” ให้สังคมชาติ
“ผิดเพื่อชาติ” แบบนี้
และศาลทำหน้าที่ถึงพร้อมด้วย “นิติรัฐ-นิติธรรม” เช่นนี้
ผมพร้อม แม้ไม่ยินดี แต่จะไม่ปริปากเลย
เพราะเกิดมาในแผ่นดินไทยผืนนี้ ในความเป็นสามัญชนต่ำศักดิ์ ผมยังไม่เคยได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิดเลย
ถ้า “เพื่อชาติ” แล้วต้องติดคุก ใยต้องเสียใจ
เพราะนั่นคือ การได้กระทำที่เรียก “ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ตามวิถีของผมแล้ว!
“กปปส.ชุดเล็ก” ได้ทำหน้าที่ “ปวงชนชาวไทย”
“พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” แล้ว
ศาลท่านเห็นและท่านได้บอกแล้ว ว่า……
“ที่กระทำผิด เพราะต้องการแสดงออกเพื่อต่อสู้ทางการเมือง เพราะเห็นความไม่ชอบธรรมในรัฐบาล และไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อส่วนตัว”
แค่นี้ ก็ชื่นใจนัก!
เท่ากับ “ทองหลังพระ” ที่ กปปส.ทั้งหลายช่วยกันปิด ศาลท่านเห็นแล้ว
เพื่อกำจัด “ความไม่ชอบธรรม” ในรัฐบาล ใดๆ นั้น สิ่งที่สาธุชนต้องทำความเข้าใจ คือ
“นรก นั้น…ถ้าครั้งนั้น กปปส.ไม่ยอมตก แล้วสวรรค์จะยังมีกับพี่น้องไทยถึงวันนี้มั้ย?”
ผิดที่กปปส.มี ในการทำหน้าที่ ศาลท่านบอกแล้ว “ไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อส่วนตัว”
คำศาลวันนี้ ตัดใส่ “กรอบทอง” ไว้เป็นเกียรติประวัติวงศ์ตระกูล “นักสู้กปปส.” ได้เลย
ว่าผิดนี้ เป็นผิด “เพื่อต่อสู้ทางการเมืองเพราะเห็นความไม่ชอบธรรมในรัฐบาล ไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อส่วนตัว”
ราวๆ กลางปีหน้า “๒๕๖๗”
คาดว่า คำพิพากษาชั้น “ศาลอุทธรณ์” ของ “กปปส.ชุดใหญ่” น่าจะมีออกมา
ยังจำกันได้มั้ย เมื่อ กุมภา.๖๔
“สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการ กปปส.กับพวก รวม ๓๙ คน ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาไปแล้ว
โดยอัยการฟ้องในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, ก่อการร้าย, ยุยงให้หยุดงานฯ, กระทำให้ปรากฏด้วยวาจาหรือวิธีการอื่นใดฯ ทำให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในราชอาณาจักรฯ
อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ ๑๐ คนขึ้นไป ทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ, บุกรุกในเวลากลางคืนฯ และร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้งฯ
ศาลชั้นต้นบอก ในส่วนความผิดฐานกบฏและก่อการร้าย พฤติการณ์ชุมนุม ไม่มีการใช้กำลังประทุษร้ายบุคคลใด เพื่อล้มล้างการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ นิติบัญญัติ อำนาจบริหาร
จึงไม่เป็นความผิดฐานกบฏและก่อการร้าย
ส่วนข้อหาอื่นๆ มีคำพิพากษา ทั้งจำคุก ทั้งยกฟ้อง ทั้งรอลงอาญา ทั้งถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง
ที่มีโทษจำคุก โดยไม่รอลงอาญา และศาลชั้นต้นไม่ให้ประกันตัว ส่งเข้าเรือนจำ รอไปประกันตัวในชั้นศาลอุทธรณ์ ตอนนั้น มี ๘ คน
-สุเทพ เทือกสุบรรณ ๕ ปี
-ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ๖ ปี ๑๖ เดือน
-พุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ ๗ ปี
-ถาวร เสนเนียม ๕ ปี
-ชุมพล จุลใส ๙ ปี ๒๔ เดือน
-อิสสระ สมชัย ๗ ปี ๑๖ เดือน
-ร.ต. แซมดิน เลิศบุศย์ ๔ ปี ๑๖ เดือน
-สุวิทย์ ทองประเสริฐ (อดีตพระพุทธะอิสระ) ๔ ปี ๘ เดือน
นี่คือ “ผิดเพื่อชาติ” ของกปปส. “ชุดใหญ่ไฟกระพริบ”
ผมเพียง “รีรัน” ให้สังคม “ความจำสั้น”ได้พอเข้าใจ
เผื่อได้ยินคำว่า “กปปส.ชุดเล็ก” แล้วจะถาม “กปปส.ชุดใหญ่” คือใคร จะได้เข้าใจ
“ชัยธวัช-ก้าวไกล” เห็นมั้ย กปปส.แม้ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ในการทำหน้าที่ มีผิดตรงไหน
“ผิดเพื่อชาติ” ตรงนั้น เขาพร้อมรับ
แล้วการจ้วงจาบหยาบช้าต่อสถาบันของพวกสามนิ้ว
มันเป็น “ผิดเพื่อชาติ” อย่างกปปส.
หรือผิดเพราะจงใจ “ชังชาติ-ล้มสถาบัน” ตามใบสั่งนอกชาติผ่านไอ้ตี๋ซุกใต้กระโปรงเด็ก?
แบบนี้ “ไม่ตัดหัว” ก็บุญแล้ว ยังจะมีหน้ามาขอนิรโทษกรรม…เชอะ!
เปลว สีเงิน
๒ ธันวาคม ๒๕๖๖