สันต์ สะตอแมน
“ถูกปลูกฝังว่าเราควรอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ จนสุดท้ายเรามองไม่เห็นแสงเลย”
นี่..จะว่า “คำคม” ก็มองได้ แต่หลายคนให้สงสัย เจตนาคุณก้อง ห้วยไร่ นักร้องคนดังที่โพสต์ ต้องการจะสื่อนัยอะไรกันแน่?
ซึ่งหากมองย้อนไปไม่ใกล้-ไกล คุณก้องก็มักแสดงความคิดเห็นทางการเมืองให้เป็นประเด็นอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็แค่ป้วนเปี้ยนอยู่กับนักการเมืองเสียส่วนใหญ่
คราวนี้ ได้พูดถึง “ใต้ร่มไม้ใหญ่” ผู้คนในสังคมและในโลกโซเชียล จึงคิด-มองกันไปว่าคุณก้อง ห้วยไร่น่าจะเล่นใหญ่ ด้วยฮึกเหิมในความดัง-ความมั่นใจของตัวเอง!
ก็..ไม่มีอะไรจะพูด-จะเตือน เพราะคนดังในวงการบันเทิงนั้น บางคนคอจะแข็ง หูจะตึง เรียกขานชื่อก็ต้องค่อยๆหัน บางครั้งก็เฉย เหมือนไม่ได้ยิน
ฉะนั้น จะมีหรือไม่มีนัย ผมก็เห็นจะขอวางเฉยเสีย ยิ่งคุณก้องเคยโพสต์ว่า.. “กูเกิดจากประชาชน ถ้ากูจบ ก็จบกับประชาชน” ด้วยแล้ว..
สื่ออย่างผมก็ไม่ควรที่จะไปข้องแวะ หรือวิพากษ์วิจารณ์คำพูด-พฤติกรรมของนักร้องท่านนี้ไม่?
อย่างไรก็ตาม ก็ใคร่เตือนคุณก้องไว้สักนิด..ถึงจะไม่กตัญญูรู้คุณ “ร่มไม้ใหญ่” ก็ขออย่าได้คิดถอนราก-ถอนโคน หรือโค่นทิ้ง ทำลายเลยนะ!
เอ้า..แต่นั่น (ถ้าจริง) ควรแล้วที่ออกมาพูด ผมหมายถึงคุณแพท รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย นักร้องสาววง KLEAR ที่โพสต์.. “โรงแรมที่พักมีสิทธิ์เปิดเข้ามาในห้องพักลูกค้าหรอคะ?
เมื่อคืนเวลาประมาณ 22.00 แพทอยู่ในห้องคนเดียว กำลังแต่งตัวอยู่ในห้องโรงแรม เตรียมตัวจะออกไปโชว์ มีผู้ชายใช้คีย์การ์ดเปิดเข้ามาในห้อง แพทตกใจมากตะโกนเสียงดัง
ผู้ชายคนนั้นพูดว่า ‘ขอโทษครับ’ แล้วปิดประตู ซักพักมีคนโทรขึ้นมาบนห้อง บอกว่า
‘ขอโทษครับ ผมเห็นว่าแอร์ไม่ติดเลยจะเข้ามาดู’ งงๆ แล้ววางสายไป
ใช่ค่ะแพทไม่ได้เปิดแอร์เพราะอากาศค่อนข้างเย็น (และรร.ปกติมีมอนิเตอร์ดูด้วยหรอคะว่าห้องไหนเปิด/ไม่เปิดแอร์)
แต่คิดแล้วคิดอีกมันก็ไม่มีเหตุผลสมควรไหนเลย ที่ทางโรงแรมจะมีสิทธิ์เปิดเข้ามาในห้องที่ลูกค้าเชคอินเข้าพักแล้ว
มันอันตรายมากนะ ยิ่งสำหรับผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว นอนคนเดียว ห้องที่นี่ไม่มีสายยูล้อคด้วยนะ
ผจก.วงลงไปถามรายละเอียด และขอการ์ดห้องแพทเพิ่มอีกใบเพราะทีแรกได้มาใบเดียว (ปกติเราควรได้ห้องละสองใบไหมคะ) ทางโรงแรมให้การ์ดมาโดยไม่มีการแสกนอะไรเพิ่มเติม
เหมือนกับว่ามีการเตรียมอีกใบไว้อยู่แล้วของห้องนี้ ซึ่งก็แปลกอีก
เมื่อคืนแพทไม่ได้เปลี่ยนโรงแรม เพราะโชคดีว่าไปจังหวัดที่มีน้องอยู่ เลยโทรเรียกขอให้น้องมาช่วยนอนเป็นเพื่อน และเช้านี้ออกเดินทางเช้ามาก ถ้าเปลี่ยนโรงแรมอาจจะยิ่งต้องนอนดึก
แต่เป็นการนอนที่รู้สึกไม่ปลอดภัยตลอดคืน มีเหตุผลไหนที่มีน้ำหนักมากพอที่โรงแรมจะควรเปิดเข้ามาในห้องที่ลูกค้าเช็กอินแล้วหรอคะ?
ต่อให้กรณีลูกค้าไม่อยู่ในห้องก็มีทรัพย์สินอยู่ในห้องไหมคะ? และนี่แพทกำลังแต่งตัวอยู่มันหนักหนาเหมือนกันเนอะ
และเมื่อคืน จริงๆ ห้องพี่นัทกลองก็ไม่ได้เปิดแอร์เหมือนกัน ก็ไม่มีใครเปิดเข้าไปนะ”
ครับ..อ่านแล้วก็ให้เสียวแทน ไม่รู้ว่าป่านนี้พนักงานคนนั้นจะถูกลงโทษ-ลงทัณฑ์ไปหรือไม่อย่างไร?
ซึ่งต่อให้มีเจตนาดีที่จะดูแลให้บริการลูกค้า-ผู้ใช้บริการ แต่การถือวิสาสะเปิดประตูปุ๊บปั๊ปเข้าในห้องผู้หญิงที่อยู่ตัวคนเดียว..
ไม่มีเหตุผลไหนจะมีน้ำหนักแก้ตัวได้เลยจริงๆ!