สันต์ สะตอแมน
“ขอบคุณเจ้าสัวธนินท์ที่ให้การสนับสนุน”
นี่..ลองนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ไม่ขอบคุณสิ จะตีก้นให้เชียว เพราะในท่ามกลางใครต่อใครออกมาคัดค้าน ต่อต้าน ไม่เห็นด้วยกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ก็มีเสียงจากคุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์นี้แหละ.. “ผมมีความมั่นใจที่ออกมาตรการมานี้ผมคิดว่าทุกอย่างถูกต้อง วันนี้เศรษฐกิจไม่ปกติ
การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ใช้วิธีปกติในการกระตุ้นเศรษฐกิจ..ผมเห็นด้วยและผมสนับสนุนว่านี่ใช่แล้วที่กำลังกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท..
พวกเราต้องช่วยกัน คือ ไม่ใช่ไปช่วยเพื่อคนยากจน คือ กระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องให้เข้าใจ แล้ววินัยทางการเงินเราไม่ได้เสียเลย แต่ต้องมีแผนที่ 2 ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว..
ผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทย ภายใต้การนำของรัฐบาลชุดใหม่ต้องเจริญรุ่งเรืองแน่นอน”
ครับ..1 เสียงนี้เปรียบดังน้ำทิพย์ชโลมในยามที่คุณเศรษฐาใจแห้งผาก นอกจากคำ “ขอบคุณ” แล้ว ถ้ามีโอกาส เข้าไปกราบแทบตักเจ้าสัวหน่อยน่าจะดีกว่าจุมพิตมือเด็กนะ!
แล้วนั่นก็..ดีครับ ก็ที่คุณเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เผย..กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีนโยบายขับเคลื่อนซอฟต์เพาเวอร์ด้านละคร ภาพยนตร์และซีรี่ส์ อาหารและท่องเที่ยว
เพื่อสนับสนุนนโยบาย Thailand Creative Content Agency (THACCA) ของรัฐบาล และนโยบาย Soft Power สร้างเสน่ห์วิถีไทย ครองใจคนทั้งโลกของ วธ.
ล่าสุด กระแสความนิยมของละคร “พรหมลิขิต” สร้างความรักความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมของชาติ
ซึ่งละครเรื่องนี้ได้สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและประวัติศาสตร์ไทย ทำให้สามารถส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์
ทั้งด้านอาหาร ประวัติศาสตร์ การแต่งกายและท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและโบราณสถานของไทยได้เป็นอย่างดี..
โดยเฉพาะวัดไชยวัฒนาราม ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีผู้เข้ามาเที่ยวอย่างเนืองแน่น ส่งผลดีต่อธุรกิจท้องถิ่นที่เกี่ยวเนื่อง..
วธ.บูรณาการความร่วมมือกับบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ไทยทีวีสี ช่อง 3 และบริษัทบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตละคร “พรหมลิขิต”
จัดกิจกรรมส่งเสริม Soft Power เบิกฟ้าอโยธยา ย้อนเวลาไปกับ “พรหมลิขิต” ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ณ อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
และวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อต่อยอดการเผยแพร่ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไปสู่คนรุ่นใหม่
มีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิ การเสวนาส่งเสริม Soft Power ผ่านละคร “พรหมลิขิต” โดย ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ,
อรุโณชา ภาณุพันธุ์ ,เขมทัตต์ พลเดช และสุกัญญา เบาเนิด.. และกิจกรรมชมบรรยากาศวัดไชยวัฒนารามยามค่ำ โดยมีนักแสดงจากละคร “พรหมลิขิต” เข้าร่วมงาน”
ภายในงานยังมีการบรรเลง และขับร้องดนตรีไทยสากล ตลาดย้อนยุค สาธิตอาหาร และขนมไทยโบราณ ชมผ้าลายอย่าง เป็นต้น”
ครับ..ตีเหล็กต้องตีขณะร้อน ตอนนี้ละคร “พรหมลิขิต” กำลังร้อนแรง-เข้มข้น ภาครัฐจะฉวยโอกาส นำมาใช้ประโยชน์ได้ก็ต้องรีบทำก่อนที่จะซา
ว่าแต่.. “แม่กลิ่น” เมื่อไหร่จะเพลาเสียงแว้ดๆ ลงเสียบ้าง เพราะโผล่หน้าออกมาทีไรเป็นต้องร้ายใส่ผู้อื่นไปทั่วไม่เว้นนาย-เว้นบ่าว ข่มกระทั่งผู้ชายอกสามศอก!
นี่..ดูไป-ดูมานึกว่าเป็นละครแม่ผัวกับลูกสะใภ้เข้าไปทุกที และแม้จะรู้ว่าท้ายๆ “แม่กลิ่น” จะต้องรู้ตัว-กลับใจ (ตามอย่างละครไทยๆ) แต่กว่าจะถึงตอนนั้น..
คนดูอย่างผมเห็นต้องทนหนวกหู-รำคาญไปอีกหลายเพลา!
ก็..ไม่รู้ว่าในนิยายที่คุณรอมแพงเขียน แม่กลิ่นจะร้ายล้นจอแบบนี้หรือไม่ หรือว่าผู้กำกับฯกับ “คนเขียนบท” จะรวมหัวกันเพื่อปั้น หนูน้ำตาล พิจักขณา ให้โดดเด่นก็มิทราบได้?
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็ยังตามดู “แม่พุดตาน” ต่อไปแหละ!