ผักกาดหอม
ซื้อหวย หวยกินเรียบ…
แต่ตอนที่ “น้าเหลิม” ประกาศตัดขาดกับ “ตระกูลชินวัตร” ตอนนั้นหลับตาตีลังกาทายส่งเดช เดี๋ยวเขาก็ดีกัน
แล้วเป็นไง!
จูบปากกันแล้ว
“อุ๊งอิ๊ง” ลงทุนขี่รถไปบางบอน
บุกไปหาถึงบ้านริมคลอง
กำลังกรึ่มๆ อยู่ แทบสำลักไวน์!
กลับไปดู “น้าเหลิม” ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนที่แล้วสิครับ จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ
“…ทักษิณ พูดแบบใหญ่โตว่าผมเป็นคนกวนโอ๊ยทั้งพ่อทั้งลูก เลยไม่ให้ตำแหน่ง ทักษิณคุณเข้าใจผิด ผมไม่ได้ร่วมรัฐบาลกับคุณ ผมมีความสุข พูดอะไรระมัดระวังบ้าง คุณใหญ่โตได้ในพรรคของคุณ คุณไล่ผมออกสิ
นึกถึงแก้คดี ๘ คดีให้คุณแล้ว ผมคิดว่าคุณจะเปลี่ยนนิสัย แล้วเวลาใช้คำพูดถึงผม อย่าเอ่ยมือเอ่ยเท้ามันไม่สุภาพ และผมก็มีมือมีเท้าที่จะเอ่ยถึงเหมือนกัน ผมจะหันหลังให้คุณตลอดชีวิต
ที่พูดมาทั้งหมดถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิต ที่ผ่านมาผมไม่ได้สนิทกับครอบครัวทักษิณ ผมสนิทเพียงนายทักษิณและคุณหญิงพจมาน เท่านั้น แต่หลังจากนี้คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก มันสายเกินไปแล้ว…”
ถือว่าแรงนะ จะหันหลังให้ตลอดชีวิต
น้าเหลิม ปีนี้ ๗๖ แล้ว ส่วนทักษิณ ๗๔ ถือว่าไล่ๆ กัน
ตีซะว่าทั้ง ๒ คนอายุยืนยาว ๑๐๐ ปี ก็อีกร่วมๆ ๒๕ ปี ที่ต้องหันหลังให้กัน
แต่…แค่เดือนกว่าผ่านไปเป็นไงครับ
ก็อย่าไปจริงจังอะไรมากนัก เพราะหาสาระไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว ระหว่าง น้าเหลิม กับ ทักษิณ เหมือน งูกับเชือกกล้วย
ผลัดกันเป็นงู เป็นเชือกกล้วยครับ แล้วแต่สถานการณ์
ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ “น้าเหลิม” นั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี เสนอร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ เจ้าตัวยืนยันว่า ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นมา จะได้รับประโยชน์จากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้รวมถึง “ทักษิณ” ด้วย
ฉะนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงไม่ธรรมดา
การพึ่งพากันมีมาตลอด แล้วแต่ช่วงเวลาว่าใครจะไปขอร้องใคร
มาคราวนี้ก็สงสัยกันว่า ทำไม “อุ๊งอิ๊ง” ถึงต้องไปหาถึงบ้านริมคลอง
ภาพ “คืนดี” ที่แชร์กันในโซเชียล โดย “วัน อยู่บำรุง” เป็นคนโพสต์ เจตนาบอกกล่าวกับสังคมว่า ที่แล้วมาก็ให้แล้วไป
ขอเริ่มต้นใหม่
เห็น “อุ๊งอิ๊ง” เข้าไปแสดงความเห็นว่า “ดีใจได้เจอลุงเหลิมค่ะ”
อีกคนคือ “ชยิกา วงศ์นภาจันทร์” ลูกสาว “เยาวเรศ ชินวัตร” หลานสาวทักษิณ ยกให้เป็นภาพทรงคุณค่า “๑ ภาพ กับล้านความปลาบปลื้มใจ”
ขนมาทั้งตระกูลแบบนี้ คนที่นอนอยู่ห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ถึงจะให้หมอผ่าตัดพรุนไปทั้งร่าง ก็นอนยิ้มแก้มปริ
ทุกอย่างยังอยู่ในความควบคุม
มาถึงคำถามสำคัญ ทำไมต้องคืนดีกัน ทั้งๆ ที่ด่ากันถึงขนาดไม่เผาผี
มันต้องมีเหตุสิครับ
มีแนวโน้มสูงว่า เร็วๆ นี้อาจต้องมีการเลือกตั้งซ่อม เขตเลือกตั้งที่ ๒๖ เขตบางขุนเทียน (เฉพาะแขวงท่าข้าม) และเขตจอมทอง (ยกเว้นแขวงบางขุนเทียน)
สาเหตุเพราะ “สส.ปูอัด ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์” ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับออก จากเรื่องอื้อฉาวคุกคามทางเพศนั้น ไม่สามารถหาพรรคสังกัดได้ภายใน ๓๐ วัน ตามที่กฎหมายกำหนด
พรรคไหนรับไปถือเป็นทุกขลาภ
ฉะนั้นไม่น่าจะมีพรรคไหนรับ
พรรคร่วมฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะตัดออกไปเลย เพราะการรับไปถือเป็นการสะกิดแผลเก่าจากกรณี “ปริญญ์ พานิชภักดิ์”
ไม่คุ้ม แถมโดนด่าเละ
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่น่าจะมีพรรคไหนรับ โดยเฉพาะเพื่อไทย ปิดประตูตาย
สรุปแล้วเตรียมตัวมีเลือกตั้งซ่อมแน่นอน
เห็นชื่อเขตบางขุนเทียน จอมทอง หน้า “น้าเหลิม” ลอยมาเลยครับ
แน่นอนครับพรรคเพื่อไทยต้องการพื้นที่นี้คืน
แต่ถ้าเพื่อไทยไม่มี “น้าเหลิม” ถือว่าลำบาก
“อุ๊งอิ๊ง” จึงต้องบากหน้าไปขอคืนดี
นักข่าวไปถาม “อ้วน ภูมิธรรม” ได้ความว่า ไปพบผู้อาวุโสภายในพรรคเพื่อรับฟังความคิดเห็น เพราะในที่ประชุมใหญ่ หลายคนที่ป่วยหรือติดขัดในภารกิจ ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุม
รวมถึง “น้าเหลิม” ด้วย
จึงไปเยี่ยมและขอคำแนะนำ
“อ้วน ภูมิธรรม” บอกอีก ภารกิจอีกอย่างของ “อุ๊งอิ๊ง” คือ การพยายามเชื่อมต่อ สื่อสารคนหลายรุ่น ภายในพรรค สังเกตเห็นอะไรมั้ยครับ…
บทบาทแบบนี้เราไม่เห็นในตัว “ชลน่าน ศรีแก้ว”
อาจเป็นเพราะการวางคนผิดฝาผิดตัว บทบาทจึงทับซ้อนกับ “อุ๊งอิ๊ง” ในหลายกรณี
มาวันนี้เมื่อ “อุ๊งอิ๊ง” ถูกส่งมาเป็นหัวหน้าพรรคเต็มตัว การสร้างบารมีจึงต้องเร่งสั่งสม โดยผู้ป่วยหนักชั้น ๑๔ คอยประคับประคอง
เลือกตั้งซ่อม กทม.เขต ๒๖ มีความสำคัญกับพรรคเพื่อไทยมากโขทีเดียว
เพราะจะเป็นบทพิสูจน์ว่า เพื่อไทยจะกลับมาอีกครั้งได้หรือไม่
การคุกคามทางเพศ
รอยด่างของพรรคก้าวไกล
กลายเป็นแต้มต่อของพรรคเพื่อไทย
คราวที่แล้ว “ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์” ได้ไป ๔๖,๕๗๐ คะแนน
ส่วน “ศรัณยสัณฑ์ วีรกุลสุนทร” ของพรรคเพื่อไทย ได้แค่ ๑๙,๘๑๓ คะแนน
ถือว่าห่างมาก
ทิ้งเป็นทุ่ง!
นี่คือสาเหตุหลักทำไม “อยู่บำรุง” กับ “ชินวัตร” ต้องจูบปากกัน พึ่งพากันอีกครั้ง
