“หุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก” ประสบความสำเร็จ ผู้ลงทุนตอบรับล้นหลาม จองซื้อเต็มวงเงิน 3,000 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบางจากฯ การผสานพลังทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นหลังเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของเอสโซ่ประเทศไทย รวมถึงประสิทธิภาพในการผลิตที่เพิ่มขึ้น ศักยภาพและโอกาสธุรกิจของบางจาก ตอบโจทย์ผู้ลงทุนในยุคดิจิทัล ที่เน้นการลงทุนในธุรกิจที่มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยช่องทางการลงทุนผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” เปิดโอกาสทุกคนเข้าถึงการลงทุนที่มีศักยภาพอย่างสะดวก ทั่วถึงและเท่าเทียม
นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงินบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า
การเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลครั้งที่สองของบริษัทฯ ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีผู้ลงทุนตอบรับจองซื้อเต็มจำนวน 3,000 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อบริษัท ด้วยสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบางจากฯ การผสานพลังทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นหลังเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของเอสโซ่ประเทศไทย
รวมถึงประสิทธิภาพในการผลิตที่เพิ่มขึ้น และการมุ่งสู่กลุ่มบริษัทนวัตกรรมสีเขียว ตอบโจทย์การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยหุ้นกู้ดิจิทัลบางจากในครั้งนี้ เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราผลตอบแทน 3.45% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566
“บริษัทฯ ขอบคุณผู้ลงทุนที่ให้ความสนใจและให้ความไว้วางใจจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลบางจากในครั้งนี้ รวมถึงขอบคุณธนาคารกรุงไทย ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ที่ทำให้การจองซื้อราบรื่นและประสบความสำเร็จ ทำให้ผู้ลงทุนเข้าถึงการลงทุนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ ไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนต่อไปพร้อมขยายการลงทุนโดยรักษาสมดุลระหว่างการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ทุกภาคส่วนต่อไป”
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมรูปแบบใหม่มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ให้ตอบโจทย์ลูกค้าและประชาชนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง บนช่องทางดิจิทัลที่เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก และปลอดภัย พร้อมสนับสนุนให้คนไทยวางแผนการออมและการลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคง
โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ตอบโจทย์บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย (Infinitas by Krungthai) ให้เป็น Thailand Open Digital Platform เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทุกกลุ่มใช้บริการได้ แม้ไม่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย พร้อมเปิดกว้างร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับศักยภาพของแพลตฟอร์มให้สามารถบริการครอบคลุมกิจกรรมในชีวิตของลูกค้าและประชาชนอย่างทั่วถึง ทั้งบริการทางการเงิน สุขภาพ ไลฟ์สไตล์ รวมถึงการออมและการลงทุน
ความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ครั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากผู้ลงทุนมีความเชื่อมั่นในธุรกิจของบางจาก ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจโรงกลั่นของไทย ที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีปัจจัยสนับสนุนจากช่องทางการลงทุนที่ตอบโจทย์ ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ที่ทุกคนคุ้นเคย ทำให้การจำหน่ายหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก ผ่าน “เป๋าตัง” มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท
โดยมีวงเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท มีผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ดิจิทัลบางจากได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม กระจายตัวในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 63.3% และต่างจังหวัด 36.7% เป็นนักลงทุนผู้หญิงสูงถึง 63.9% กระจายตัวทุกช่วงอายุระหว่าง 20-91ปี โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน (Office Worker) อายุ 20-40 ปี สัดส่วนสูงถึง 25.24% และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 24.35% ตอกย้ำการเข้าถึงการลงทุนได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเสมอภาค สามารถซื้อขายได้สะดวก รวดเร็ว แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยผู้ลงทุนจะได้รับหุ้นกู้ทันทีที่ซื้อ และได้รับเงินทันทีที่ขาย ตลอดจนแสดงข้อมูลการถือครองหุ้นกู้ ราคาซื้อขาย ครบจบในที่เดียว ตอบโจทย์การออมและการลงทุนได้ครบทุกมิติ สร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกค้าและประชาชนได้อย่างยั่งยืน
“ธนาคารขอขอบคุณบางจากฯ ที่ให้โอกาสธนาคารได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จอีกครั้ง โดยธนาคารมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมรูปแบบใหม่มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง บนช่องทางดิจิทัลที่เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก และปลอดภัย เป็นการต่อยอดความสำเร็จของการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนบนช่องทางดิจิทัล ยกระดับตลาดทุนไทย และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยส่งเสริมให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบริการด้านการเงินและการลงทุนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำ ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ ทั้งการลดความเหลื่อมล้ำ การนำนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความยั่งยืน”