จุดเปลี่ยนก้าวไกล-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

การเมืองมีพลวัต

ใช้ภาษาสวยๆ ที่นักวิชาการชอบใช้กัน แปลเป็นภาษาชาวบ้านคือ การขับเคลื่อน การเปลี่ยนแปลง อะไรทำนองนั้น

หลังเลือกตั้งใหม่ๆ พลวัตการเมืองเทน้ำหนักไปที่พรรคก้าวไกล

จน กูรู เกจิ พากันพยากรณ์ว่าเลือกตั้งครั้งต่อไป ส้มทั้งแผ่นดิน

พรรคก้าวไกลจะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ถล่มทลาย หายอยากกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว

แต่…ครึ่งปีผ่านมา ดูเหมือนว่าปากกาเซียนจะหักกันเป็นแถว

พลวัตที่ปั่นเร็วราวพายุทอร์นาโดระดับ F5 ทำท่าว่า พรรคก้าวไกลได้เลยจุดสูงสุดไปแล้ว

วันนี้กราฟค่อยๆ ดิ่งหัวลง เพราะหลายปัจจัย ที่ล้วนเป็นปัจจัยภายในแทบทั้งสิ้น

พูดถึงพรรคก้าวไกลวันนี้นึกถึงอะไรเป็นลำดับแรกๆ?

พรรคฝ่ายค้านลำดับที่ ๑ หรือ? ไม่น่าจะใช่

พรรคที่มี สส.เป็น ผู้ต้องหาคดี ม.๑๑๒ มากที่สุด ก็ไม่น่าใช่

เพราะความจริงคือ สส.ในสภาฯ มีเพียงพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องหาคดี ม.๑๑๒

แถมเยอะด้วย!

อีกภาพลักษณ์ของพรรคก้าวไกลคือ เป็นพรรคการเมืองที่ถูกร้องว่า คุกคามทางเพศ ใช้ความรุนแรง มากที่สุด

ฉะนั้นนึกถึงพรรคก้าวไกลในวันนี้ หนีไม่พ้นพรรคการเมืองที่มี สส.เป็นผู้ต้องหาคดี ม.๑๑๒ และถูกร้องว่าคุกคามทางเพศมากที่สุด

๒ เรื่องนี้ถึงเซนะครับ

วานนี้ (๓๐ ตุลาคม) “รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร” อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) โพสต์เฟซบุ๊ก Harirak Sutabutr ข้อความดังนี้ครับ

…สส. ๓๐ คน มีคดีอาญาติดตัวรวมกันถึง ๘๐ คดี พรรคนี้คงจะตรวจสอบผู้สมัคร สส.ก่อนจะส่งลงสมัครเพียงเรื่องเดียว คือ ทัศนคติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ตรงกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ คงไม่สนกระมัง…

เห็นภาพชัดเจนครับ!

เพราะส่วนใหญ่มีคดี ม.๑๑๒ ก่อนสมัคร สส.แทบทั้งสิ้น

ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมพรรคก้าวไกลถึงได้ติดหล่ม ม.๑๑๒ เปลี่ยนสถานะจากเต็งจ๋าแกนนำรัฐบาลกลายไปเป็นพรรคฝ่ายค้านอันดับ ๑ แค่ข้ามคืน

และยังแผ่นเสียงตกร่องอยู่กับการแก้ ม.๑๑๒ รวมถึงการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่รื้อหมวดพระมหากษัตริย์ครั้งใหญ่

สำรวจข่าวสารวานนี้ มีภาพสะท้อนภาพลักษณ์พรรคก้าวไกล ทั้งหมิ่นเจ้า และคุกคามทางเพศ ที่ด้อมส้มจำนวนหนึ่งเริ่มถอยห่าง เพราะความไม่ตรงปก

ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาคดี ม.๑๑๒ จำเลยคือ “เบนจา อะปัญ”

ชื่อนี้ไม่ใช่ สส.พรรคก้าวไกล แต่เป็นชื่อที่ สส.พรรคก้าวไกลเคยใช้ตำแหน่งขอยื่นประกันตัวครั้งแล้วครั้งเล่า

โดยสรุป ศาลสั่งจำคุก ๓ ปี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี

แต่คำสั่งศาลมีมากกว่าให้จำคุกครับ

“…ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ประกอบกับจำเลยกระทำความผิดขณะอายุ ๒๒ ปี ซึ่งถือว่าอายุยังน้อย อาจมีความคึกคะนองโดยยังขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตและขาดวิจารณญาณไตร่ตรองถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของตน

ทั้งปัจจุบันจำเลยศึกษาอยู่ในระดับชั้นอุดมศึกษา ยังอยู่ในวิสัยที่จำเลยจะกลับตนเป็นพลเมืองดีได้ และการจับกุมจำเลยในคดีนี้น่าจะทำให้จำเลยสำนึกผิดต่อการกระทำและเข็ดหลาบแล้ว การจำคุกจำเลยในระยะสั้นนั้นไม่เป็นผลดีกับจำเลย

จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี…”

พวกที่มักโจมตีว่ามีการใช้ ม.๑๑๒ เพื่อทำลายฝั่งตรงข้ามก็ดูเอาไว้

หลายๆ คดีศาลให้โอกาส

ครั้งนี้ศาลท่านก็ให้โอกาส

อยู่ที่ “เบนจา อะปัญ” จะให้โอกาสตัวเองหรือไม่

และอยู่ที่พรรคก้าวไกลจะยังให้ท้ายเด็กๆ เหล่านี้อยู่หรือไม่

ดูเหมือนว่า “เบนจา อะปัญ” เริ่มจะรับรู้ถึงสถานะล่าสุดของตัวเอง เพราะก่อนมีคำพิพากษาออกมา ยอมรับสภาพที่ตัวเองเป็นอยู่

“…ตอนนี้มีคดีพิพากษาที่รอการพิพากษาอยู่ ๘ คดี เป็นคดีในมาตรา ๑๑๒ ทั้งหมด หากวันนี้ได้รับการปล่อยตัว ตนจะกลับไปเรียนหนังสือต่อเพราะเหลือเวลาอีกกว่า ๑ ปี…”

คิดได้แบบนี้ถือว่ายังไม่สายครับ

แต่คดีที่ยังเหลือมันก็หนักหนาสาหัสอยู่

ส่วนเรื่องคุกคามทางเพศ ก็ยังเขย่าพรรคก้าวไกลต่อไป

วานนี้เช่นกัน “โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี” อดีต สส.กทม. (เขตจอมทอง) พรรคภูมิใจไทย พาชาวบ้านร่วม ๕๐ คน ยื่นเอกสารต่อประธาน กกต. เพื่อขอให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี สส.พรรคก้าวไกล เขตจอมทอง ก่อเหตุคุกคามทางเพศ

กรณีนี้จะมองในมุมเป็นการเอาคืนทางการเมืองก็ได้

แต่มันก็มีข้อเท็จจริงว่า พรรคก้าวไกลก็สอบประเด็นนี้อยู่ แม้จะอืดเป็นเรือเกลืออยู่บ้างก็ตามที

“…เราจะให้เรื่องนี้เงียบเฉยไปไม่ได้ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสุภาพสตรี เพราะการที่เราเลือก สส.เข้ามาเป็นปากเป็นเสียงแทน แต่กลับได้ สส.คุกคามทางเพศ ทั้งๆ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งแค่ ๖ เดือน ก็คุกคามทางเพศทีมงานของตัวเองถึง ๓ ราย ที่เป็นนักศึกษาเพิ่งเรียนจบ

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นนิสัยส่วนบุคคล ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคก้าวไกลด้วย…”

เจอเข้าไปดอกนี้ถึงกับจุกครับ

แม้ไม่ใช่การกระทำในนามพรรค แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพรรคไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อย่างแน่นอน

เพราะพรรคเลือกคนมาเป็น สส.

เมื่อภาพจำพรรคก้าวไกลเริ่มเปลี่ยนจากพรรคหัวก้าวหน้า ประชาธิปไตยจ๋า ที่จะมาเปลี่ยนแปลงประเทศไทย กลายเป็นพรรคที่เต็มไปด้วยปัญหา

นอกจากมี สส.คุกคามทางเพศแล้ว ยังคุกคามระบอบการปกครองอีกด้วย

พรรคการเมืองอยู่ได้ด้วยศรัทธา

เมื่อไหร่ก็ตามเริ่มมีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือ ศรัทธาจะเริ่มลดลง

ฉะนั้นอย่าตกใจหากหลังจากนี้กระแสพรรคก้าวไกลจะเริ่มลดน้อยถอยลง

เพราะมันคือพลวัต

Written By
More from pp
รัฐบาลจีนถวายวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 แสนโดสแด่ราชวงค์ไทย
วันที่ 9 ธันวาคม 2564 วัคซีนซิโนฟาร์ม 2 แสนโดสที่รัฐบาลจีนถวายแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน...
Read More
0 replies on “จุดเปลี่ยนก้าวไกล-ผักกาดหอม”