เปลว สีเงิน
“เพื่อไทย” เนี่ย….
มี “นักโทษเทวดา” คุ้มครองพรรคอยู่แล้ว ๑ คน
มี “นางฟ้า” อีกซักคน เป็น “หัวหน้าพรรค”
มันจะแปลกตรงไหน?
ดังนั้น ผมจึงคันหู-คันตากับข่าวอภิวาท “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” จากสื่อบางช่อง ทั้ง “เช้า-สาย-บ่ายเที่ยง” ยันดึก ยันดื่น
ตะบี้-ตะบัน ยัดเยียดข่าวซ้ำซากอยู่นั่นแหละ…
ให้จับตา ๒๗ ตุลา.อุ๊งอิ๊งจะได้เป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย”
เอ็งจับแล้วได้เงิน ก็จับไปเถอะ ส่วนชาวบ้านเขาไม่โง่ไปจับด้วยหรอก เพราะเขารู้กันตั้งแต่ในมุ้ง
ว่า “ที่สุดของแจ้” ในพรรคเพื่อไทย
นอกจากทักษิณแล้ว ก็ “อุ๊งอิ๊ง” หนึ่งเดียวคนนี้เท่านั้น!
เธอเป็น “หัวหน้าครอบครัวใหญ่เพื่อไทย”
ชื่อก็บอกสถานภาพอยู่แล้ว ว่าเหมือนกระโปรงคลุม “ทุกหัว-ทุกตำแหน่ง” ในเพื่อไทย
ทุกคนเป็นแค่ผู้อาศัยอยู่ใต้ชายคา-ชายกระโปรงเท่านั้น
ฉะนั้น การที่ “สาวกเพื่อไทย” จะอัญเชิญอุ๊งอิ๊งเอาเท้าพาดเก้าอี้หัวหน้าพรรคอีกซักเก้าอี้ มันมีอะไรต้องตื่นเต้น-ตกใจให้ไข่หด…หือ?
น่าจะเสนอข่าว “กระตุกสติ” เศรษฐามากกว่า
ประมาณว่า…..
สัญญาน “เศรษฐา” ซ้ำรอย “อดีตนายกฯสมัคร” ปรากฎขึ้นแล้ว!
ทุกคน…รวมถึงเศรษฐา “ไม่รู้-ก็ต้องรู้” เมื่อลูกเทวดาสถิตเก้าอี้หัวหน้าพรรค “เป็นทางการ”
ก็หมายถึงว่า ใครที่ “เกะกะ-ขวางตีน” ในทางเดินสู่เก้าอี้นายกฯเตรียมตัวหลบไป
อย่าให้ต้องถูกถีบเหมือนสมัคร!
นายกฯคนที่ ๓๑ ต่อจากเศรษฐา ตามหน้าเสื่อ ก็ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” คนนี้แหละ
กลางพฤษภา.๖๗
สว.จะ “ครบ ๕ ปี” หมดสิทธิ์โหวตเลือกนายกฯ ตามบทเฉพาะกาล มาตรา ๒๗๒!
กลับไปใช้มาตรา ๑๕๙ ตามปกติ ในการเลือกนายกฯคือให้ สส.๕๐๐ คน เป็นผู้โหวต
“เศรษฐา” เป็นนายกฯ โฉ่งฉ่างกระถางแตก “ไม่เวิร์ก”
ไปปลูกคอนโดฯ ไปขาย” สิริ ฮับ โทเคน” จะเวิร์กกว่า
ดังนั้น เทวดาชั้น ๑๔ น่าจะเล็งญานแล้ว เวลานั้น เป็นฤกษ์สวรรค์ จะส่ง “นางฟ้า” ลงมาสถิตแทน!
นี่ ตามลายแทงเส้นทางหัวหน้าครอบครัวใหญ่ ผมเล็งญานทับญานแล้ว มันจะโตงเตงไปแบบนี้
ถ้าถามว่า แล้วไม่มีใครจะ “ทำลายแผน” เทวดาชั้น ๑๔ ได้เลยหรือ?
ก็มี คือ “ท้าวจตุโลกบาล” ผู้พิทักษ์รักษาโลกในทิศทั้ง ๔ นั่นไง!
รายการนี้ มองไปอีกที เหมือน “เสี่ยงทาย” เศรษฐา ในทาง ๓ แพร่ง
แพร่งที่ ๑ จะเจริญตามรอยอดีตนายกฯสมัคร
แพร่งที่ ๒ จะเจริญตามรอยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์
แพร่งที่ ๓ จะเจริญตามตามรอยบุญวาสนาตัวเอง
ถ้าตามสมัคร ก็แค่ช้ำอกเหมือนตกตาล
ถ้าตามยิ่งลัษณ์ ถ้าไม่พึ่งช่องหมาลอด ก็เข้าคุก
ถ้าตามบุญวาสนาตัวเอง…..
จะสัมพันธ์กับแพร่งที่หนึ่ง คือถ้ารีบพ้นตำแหน่งไปก่อนที่จะแจกดิจิทัล โทเคน ๕.๖ แสนล้านบาท นั่น แค่ช้ำอก แต่ไม่ต้องติดคุก
แต่ถ้าอยู่จนเอาเงิน ๕.๖ แสนล้านออกแจก แค่โชคดี ที่เป็นนายกฯ แต่จะโชคร้าย
เพราะการแจกนั้น “ติดคุก” เหมือนยิ่งลักษณ์ ๙๙.๙๙%!
ตอนนี้ ผมไม่ห้ามแล้วนะ
เศรษฐา-เพื่อไทย, นายจุลพันธุ์ รมช.คลัง หรือนายลวรณ ปลัดคลัง ยังดันทุรังจะแจก ผมก็จะช่วยดันตูดเลย
ถ้าแจก ๕.๖ แสนล้าน “ไม่ติดคุก”
ทักษิณไม่ให้เศรษฐามาได้หน้า-ได้ชื่อในตำแหน่งนายกฯหรอก
ให้ “อุ๊งอิ๊ง-ลูกสาว” เป็นไปแล้ว แต่เพราะมัน ๕๐-๕๐ เลยไม่กล้า เซฟลูกสาวไว้ก่อนดีกว่า ส่งเศรษฐาที่มันซ่าอยากเป็นนัก ออกหน้าไปเสี่ยงแทนก่อน!
ทำไมผมมั่นใจว่า แจกเมื่อไหร่-คุกเมื่อนั้น?
ทุกคนอยากรู้ “รัฐบาลจะเอาเงิน ๕.๖ แสนล้านนั้นมาจากไหนใช่มั้ย?”
ความจริง คำตอบของเพื่อไทยเขามีไว้แล้ว ตั้งแต่ตอนประกาศนโยบายหาเสียง เขาให้กกต.ดูแล้ว และก็กกต.ก็โอเค. ว่าไม่ผิดกฎหมาย
เมื่อมีแผนสำเร็จแล้ว กกต.โอเค.แล้ว แต่ทำไมยังยึกยักจน ๔-๕ วันมานี้ รมช.จุลพันธุ์ มือทำงาน บอก “ขอเลื่อนไปก่อน”
ที่ว่าภายในกุมภา.๖๗ เพื่อไทยแจกแน่คนละหมื่นนั้น รูปการณ์ถึงตอนนี้ น่าจะออกอ่าว
เพราะกลัว “แจกปุ๊บ-ติดคุกปั๊บ”
ทำไมจะไม่ติดล่ะ ก็ดูซี แผนการได้มาซึ่งเงิน ๕.๖ แสนล้านของเพื่อไทย ที่ยื่นต่อกกต.จนได้รับอนุมัติ มีว่า
“……..นโยบายเงินสกุลดิจิทัล และ Digital Wallet เพื่อประชาชน หรือนโยบายแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท นั้น วงเงินที่ต้องใช้ ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท
ที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ ใช้การบริหารงบประมาณปกติ และบริหารระบบภาษี จาก
๑.ประมาณการรายได้รัฐที่เพิ่มขึ้นในปี ๖๗:๒๖๐,๐๐๐ล้านบาท
๒.ภาษีผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย:๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท
๓.การบริหารจัดการงบประมาณ :๑๑๐,๐๐๐ ล้านบาท
๔.การบริหารจัดการงบประมาณด้านสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน:๙๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยสามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ด้านการคลังของประเทศ”
ก็ชัดเจน ๕.๖ แสนล้าน และเล็มเงินจากงบประมาณ และเงินทิพย์จากจินตนาการในฝีมือบริหารของตัวเอง!
กกต.ก็ซื้อออซื่อ เชื่อตามที่เพื่อไทยแจ้ง แต่ที่ “นายแสวง บุญมี” เลขา.กกต.แถลง มีประเด็นเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ “ตายน้ำตื้น” แฝงอยู่ ลองอ่านดู
“…..แจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลให้ ๑๐,๐๐๐ บาท ให้กับคนไทยอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป เป็นนโยบายที่ใช้งบประมาณแผ่นดินอยู่แล้ว
หากได้ไปเป็นรัฐบาล นโยบายลักษณะนี้ จะไม่ผิดกฎหมาย “สัญญาว่าจะให้”
ซึ่งนโยบายที่จะเข้าข่าย “สัญญาว่าจะให้” คือการ “ใช้เงินที่ไม่ใช่เงินของแผ่นดิน”
ตรง “สัญญาว่าจะให้” คือ “การใช้เงินที่ไม่ใช่เงินของแผ่นดิน” นี่แหละ
ทำให้เพื่อไทย “ปากแข็งแต่ขาสั่น” อยู่ตอนนี้ และทำท่าจะสลัดนวมทิ้งอยู่รอมมะร่อ!
การใช้เงินในงบประมาณแจก ไม่เข้าข่าย “สัญญาว่าจะให้” จึงไม่ผิดกฎหมาย คือ “แจกได้”
และที่เพื่อไทยอธิบายที่มา-ที่ไปของเงิน ๕.๖ แสนล้านกับกกต.นั่นระบุเป็นเงินในงบประมาณทั้งสิ้น
แต่ทีนี้ พอได้เป็นรัฐบาลต้องทำตามสัญญา ที่ฟุ้งเป็นตัวหนังสือไว้กับกกต.มันนำมาทำตามนั้นไม่ได้
คือ “เงินงบประมาณ” ไม่มีไขมัน “ให้รีด-ให้ตัด” ได้มาก อย่างที่โม้ ทั้งที่บอก จะได้จากที่นั่น-ที่นี่ เท่านั้น-เท่านี้มาสมทบ ก็มโนเอาทั้งนั้น
ครั้นจะ “กู้แบงก์” หรือจะ “ออกพันธบัตร” มันก็คือ การเอาเงิน “นอกงบประมาณ” มาแจก เข้าข่าย “สัญญาว่าจะให้” ทันที
…ติดคุก!
ซ้ำต้องออกเป็นกฎหมายเสนอต่อรัฐสภา ซึ่งมันไม่ง่าย จะผ่าน และต้องใช้เวลานาน
ซ้ำยังจะต้องไปขยับเพดานหนี้ให้เป็นไปตามวินัยการเงิน-การคลัง ซึ่งจะสร้างความเสียหายแก่การเงิน-การคลังอย่างร้ายแรง
ป.ป.ช.ก็เตือนแล้ว ผู้ว่าการตรวจการเงินแผ่นดินก็ขยับส่งสัญญานแล้ว เท่ากับแจก “ใบเหลือง” แล้ว
และที่จะออก “ดิจิทัล โทเคน “แจกผ่าน”ซูเปอร์แอป” นั้น ต้องมี ๕.๖ แสนล้าน ไปวางหนุนหลังไว้ก่อน จึงจะออกได้ ไม่งั้นผิดกฎหมาย
….ติดคุกอีก!
ตอนนี้ จึงยังไม่รู้จะหาเงิน ๕.๖ แสนล้านจากที่ไหนมาแจก เอาจากงบประมาณ ไม่พอแน่
กู้มาแจก ก็ติดคุก, ออกดิจิทัล โทเคน ไม่มี ๕.๖ แสนล้านมาวางก่อน ก็ติดคุก
ซ้ายก็คุก ขวาก็คุก ไอ ก็คุกคุก ยู ก็เทวดาหนีคุก
สรุปแล้ว ๕.๖ แสนล้าน น่าจะตั้งชื่อใหม่เป็น
“โทเคนคุก”
ออกโดยเพื่อไทย แจกจ่ายโดย “เศรษฐาและคณะพรรค”
ผมจึงยุส่ง ในเมื่อใครห้ามไม่ฟัง
รัฐบาลเพื่อไทยก็แจกเลย จะได้ติดคุกกันทั้งครม.!
ทำบุญ-ล้างใจ ส่งท้ายวันนี้นิดนะครับ
แบงก์ปิด ๓ วัน เลยไม่ได้แจ้งยอดเงินโอนสร้าง “หลวงพ่อทวด” ที่วัดทรายขาว สงขลา
เช้าวาน ทางวัดแจ้งยอดสรุปมาแล้ว ดังนี้
“ณ เวลา ๒๓.๕๕ น.วันที่ ๒๓ ตุลาคม รวมเงินทั้งสิ้น จำนวน ๑๔,๒๖๙,๙๙๕.๖๒ บาท ครับ
ผมขอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วย เมื่อบ่าย โทรสอบถามเกี่ยวกับการลงมือสร้างองค์หลวงพ่อทวด ได้ความเลาๆ มาแล้ว
พรุ่งนี้ จะรายงานใน “รอบบุญ” ของทุกท่านให้ทราบครับ
เปลว สีเงิน
๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๖
