หุ่นเชิด ‘นช.ทักษิณ’ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ต้องเกาหัวแกรกๆ ครับ

สงสัยจริงๆ ทำไมรัฐบาลไม่ยอมเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัล

ตามด้วยข้อสงสัยที่ว่า จุดเริ่มต้นของ นโยบายประชานิยมสุดโต่ง แจกเงินดิจิทัล หัวละ ๑ หมื่นบาท เกิดขึ้นเมื่อไหร่ โดยใครกันแน่

ใช่ เมื่อวันที ๑๗ มีนาคม ที่ผ่านมา หรือเปล่า

วันนั้น “เศรษฐา ทวีสิน” ประกาศบนเวทีปราศรัย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” เปิดตัวนโยบายใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ที่ ยิมเนเซียม ๔ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต หรือไม่ เพราะวันนั้นเป็นครั้งแรกที่มีการพูดถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล

“…จะกระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่ ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยการสร้าง “กระเป๋าเงินดิจิทัล” (Digital Wallet) ให้คนไทยที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ได้จับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันใกล้บ้าน พร้อมเงินติดกระเป๋าที่รัฐจะแจกให้ทุกคน แต่เงินดิจิทัลนี้จะใช้จ่ายได้ เฉพาะกับร้านค้าชุมชน และต้องอยู่ในรัศมี ๔ กิโลเมตร เท่านั้น…”

แต่ไม่มีการระบุจำนวนเงิน

กระทั่งเวทีปราศรัยวันที่ ๕ เมษายน “เศรษฐา” ถึงประกาศตัวเลขออกมา

“…การนำเทคโนโลยีการเงินมาใช้เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัล พร้อมเติมเงินให้คนไทยที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ได้ใช้ซื้อของในชีวิตประจำวันจากร้านค้าในชุมชน ให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

โดยเงินที่จะเติมให้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลมีมูลค่าถึง ๑๐,๐๐๐ บาท เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ สร้างความเจริญเติบโตให้เศรษฐกิจไทย และลดช่องว่างรายได้

ในขณะที่รัฐบาลจะได้รายได้กลับคืนมาในรูปแบบของภาษี และการยกระดับเศรษฐกิจทั้งระดับ…”

แต่ก็ยังสงสัยกันอยู่ว่า นโยบายนี้ “เศรษฐา” เป็นคนคิดเอง หรือทีมงานเป็นคนวางทุกอย่างไว้ให้ หรือยังมีใครที่มีอิทธิพลกับพรรคเพื่อไทยมากพอที่จะสั่งให้ซ้ายหันขวาหันได้

ก็…มองบนครับ

มองไปยังห้องวีไอพีชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ

นักโทษชายทักษิณ ยังคงมีอิทธิพลในทุกด้านต่อ พรรคเพื่อไทย รัฐบาลเพื่อไทย ตามที่เขาร่ำลือกันจริงหรือเปล่า

หรืออะไรๆ ก็ทักษิณ!

คิดอะไรไม่ออกโยนให้ทักษิณไปก่อน

การจะค้นหาความจริงว่า นักโทษชายทักษิณ ครอบงำความคิดรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่ ก็ต้องย้อนไปดูพฤติกรรมที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ครับ

เฟซบุ๊ก Thaksin Shinawatra ของ นักโทษชายทักษิณ โพสต์เอาไว้เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ อวยพรปีใหม่คนไทย

แต่มีบางข้อความน่าสนใจอย่างมาก

“…สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๒ แด่พี่น้องไทยทุกท่านครับ

ทุกวันนี้ E-commerce สร้างโอกาสให้คนตัวเล็กตัวน้อยสามารถค้าขายได้กับคนทั่วโลก ที่ทั้งสินค้าและเงินกำลังไหลอย่างอิสระมากขึ้นทุกวัน เราต้องรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ครับ แม้แต่ธุรกิจอย่างธนาคารก็จะเหนื่อย เพราะเงินดิจิทัล กำลังมาแรง อีกหน่อยทุกประเทศก็จะมีเงินดิจิตอลมาใช้ควบคู่กับเงินที่เป็นธนบัตรมากขึ้นเรื่อยๆ…”

คนที่นอนรักษาตัวโรคร้ายแรง ห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ เคยกล่าวถึงเงินดิจิทัลมาก่อนแล้ว ในขณะที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ไม่เคยมีใครพูดถึง

ฉะนั้น นักโทษชายทักษิณ จึงน่าจะมีอิทธิพลต่อนโยบายโคตรแจกนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว

จากนั้นต้นปี ๒๕๖๒ นักโทษชายทักษิณ จัดรายการกู๊ด มันเดย์ (Good Monday) หัวข้อ “อนาคตประเทศไทย”

เนื้อหาเป็นการตอบคำถามว่า ทำอย่างไรถึงจะพัฒนาเศรษฐให้กิจดีขึ้นใน ๑ ปี

“…CryptoMoney ในวันข้างหน้าจะต้องเกิดขึ้นแน่ แต่ว่าจะเป็นต้องมีทรัพย์สินเป็น Backed ไม่ใช่เป็นตัวลอยๆ เหมือน Bitcoin นี่ลอยไปหน่อย ยกตัวอย่าง จีนทำ CryptoMoney ของตัวเอง โดยใช้เงินหยวน back ไม่ใช่เป็น CryptoMoney ลอยๆ

เพราะฉะนั้นโลกกำลังก้าวเข้าไปสู่ยุคที่เรียกว่า cashless คือใช้เงินสดน้อยลงเรื่อยๆ

คนจีนวันนี้ไปซื้อกับข้าว ๑๐ บาท ๒๐ บาท จ่ายทางออนไลน์หมด ยกเว้นบางที่ๆ เครื่องไม้เครื่องมือยังไม่พอ เช่นเรื่องทางด่วนบางแห่งยังต้องใช้เงินอยู่ เงินสดในจีนใช้น้อยลงเรื่อยๆ แล้วจีนก็เลยจะทำ CryptoMoney รัสเซียคิดจะทำ CryptoMoney โดยอิงจากทอง

เพราะฉะนั้นโลกกำลังจะเปลี่ยนอย่างรวดเร็วในระยะต่อไปเพราะว่า blockchain มาแรง หรือที่เราเรียกว่าเป็น internet of value แล้วก็ความปลอดภัยมันสูงมาก เพราะฉะนั้นก็จะทำให้คนหันมาใช้ blockchain สร้าง CryptoMoney หรือ การปล่อยกู้แบบ Peer-to-peer…”

ก็ไม่ผิดหรอกครับ blockchain , เงินดิจิตัล คือวิวัฒนาการทางการเงินที่เกิดขึ้นจริง

แต่มีความจำเป็นหรือไม่ที่รัฐบาลจะนำมาเป็นทางผ่านของเงินงบประมาณ ๕.๖ แสนล้าน ที่ถูกมองว่าไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง

หนำซ้ำยังสร้างปัญหาการเงินการคลังให้กับประเทศในอนาคต

แล้ว นักโทษชายมอง นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตอย่างไร

๒๓ สิงหาคม ที่ผ่านมา มาในนาม Tony Woodsome มองนโยบาย Digital Wallet ของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นทางออกของเศรษฐกิจ

คาดว่า GDP จะเติบโต ๗% ภายในปี ๒๕๖๗

“…กระเป๋าเงินดิจิทัลนั้นล้ำหน้ากว่าแอปเป๋าตังอยู่มาก เพราะนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ เพราะระบบต่างๆ จะทำงานอย่างอัตโนมัติด้วยสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)

กระเป๋าเงินดิจิทัลของเพื่อไทย เริ่มมีการนำมาใช้ในต่างประเทศบ้างแล้ว อีกทั้งยังมีความปลอดภัยจากการโจรกรรมต่างๆ

แนวคิดของนโยบายนี้คือแนวคิดที่ภาครัฐกับเอกชนพึ่งพากัน เพื่อพัฒนาคน สร้างงาน และเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน การอัดฉีดเงินจะทำให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้มากขึ้น

นโยบายนี้คือการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในท้องถิ่นและมีการกระจายพื้นที่การจำจ่ายใช้สอยได้ดี เพราะมีการเขียน Smart Contract ไว้เรื่องข้อจำกัดของพื้นที่และระยะเวลาที่จะให้ใช้ได้ เช่น กำหนดว่าใช้จ่ายได้แค่ในพื้นที่ ๔ กิโลเมตร และต้องใช้ภายในเวลา ๔ เดือนเท่านั้น

วิธีการเช่นนี้เป็นการอุ้มคนรากหญ้า เพื่อให้มีอำนาจในการบริโภคมากขึ้น ซึ่งพวกเขาเป็นประชากรส่วนใหญ่ภายในประเทศ หากการดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปอย่างรวดเร็ว ค่า GDP การเติบโตของประเทศอาจแตะ ๗% ภายในปี ๒๕๖๗…”

ก็ไม่รู้ครับว่า นักโทษชายทักษิณ เอาตัวเลขมาจากไหน

โอกาสที่ GDP ไทยจะแตะ ๗% ไม่ง่าย

เงิน ๕.๖ แสนล้านไปทำแลนด์บริจ โอกาสที่ GDP พุ่งยังมีมากกว่า เพราะ สร้างเงิน สร้างงาน กระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมได้จริง

สรุป นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลนั้น “นักโทษชายทักษิณ” มีส่วนร่วมอยู่มาก

กระสันอยากนำเทคโนโลยีมาใช้ก็ไม่ว่าอะไรครับ

แต่การเอาเม็ดเงินงบประมาณแผ่นดิน ๕.๖ แสนล้านมาเป็นหนูลองยา ฝันจะเห็น GDP ไทยจะแตะ ๗% ผลลัพธ์ที่ออกมามันจะฉิบหายยิ่งกว่าจำนำข้าวหลายเท่า

คนที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าใคร ควรจะเป็น นักโทษชายทักษิณ

ในฐานะผู้บงการทุกมิติ

Written By
More from pp
รมช.ธรรมนัส ลงศึกษาดูงานต้นแบบเกษตรกรรมยั่งยืน 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ฟื้นฟูภาคการเกษตรจากผลกระทบไวรัลโควิด – 19
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมและศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบเกษตรกรรมยั่งยืน ณ ศูนย์เรียนรู้จิตอาสาและเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดําริ โรงเรียนนายร้อยตํารวจ อําเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
Read More
0 replies on “หุ่นเชิด ‘นช.ทักษิณ’ – ผักกาดหอม”