สันต์ สะตอแมน
คุณชายอดัม หรือ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล..
เป็นโอรสใน “หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล” หรือ “ท่านมุ้ย” กับหม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา จบการศึกษาด้านการสร้างภาพยนตร์จากประเทศออสเตรเลีย
ผลงานในฐานะ “ผู้กำกับ” ที่ผ่านตาก็มีภาพยนตร์เรื่อง “สารวัตรหมาบ้า” กับ “ผีห่าอโยธยา” เมื่อหลายปีก่อน ส่วนทีวี.ซีรี่ส์ก็มีเรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ทั้ง 3 ภาค
ในแวดวงภาพยนตร์ คุณชายอดัมถือเป็นผู้กำกับรุ่นใหม่ที่มากประสบการณ์และฝีมือ เรียกได้ว่าเจริญรอยตามท่านมุ้ยมาแบบลูกไม้หล่นใต้โคนเลยก็ไม่ผิด!
นอกจากการการกำกับหนังแล้ว คุณชายอดัมยังได้รับเป็นวิทยากรพิเศษบรรยายเทคนิคการสร้างภาพยนตร์ให้กับนิสิต-นักศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง
ผมนั้นได้ติดตามความคิด มุมมอง ทัศนคติ ผลงานการกำกับของคุณชายอดัมมาตลอด และหลายวันก่อนได้อ่านข้อความที่โพสต์แล้ว เห็นว่าน่าที่จะให้ผู้อ่านที่ยังไม่เห็นได้ผ่านตาบ้าง
อย่างน้อย เผื่อบางท่านอยากให้ (ฝาก) ลูกหลานได้เป็นนักแสดง-ดารา จะได้รู้-ได้เข้าใจความรู้สึกของผู้กำกับ-ผู้สร้าง เขามีความรู้สึกกันอย่างไร?
“ไม่กี่วันก่อนมีเรื่องนึงที่ติดค้างคาใจผมอยู่ คือช่วงหลังๆ มีคนมาฝากนักแสดงให้ช่วยนำไปแสดง หรือไม่ก็พวกตัวน้องๆ หลายๆ คนเอง
เวลาเจอผมก็มาคุยว่าอยากมีงานบ้าง อยากแสดงบ้าง อยากเล่นโน่นเล่นนี่ บางทีก็เป็นน้องๆ ธรรมดาที่ยังไม่มีประสบการณ์อะไร หรือไม่ก็คนที่ไม่มีงานแล้วก็อยากมีงาน
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผมก็ยินดีนะครับหากมีโอกาส แต่มันมีเงื่อนไขอยู่บ้าง เช่นถ้าคุณไม่มีทักษะอะไรเลย คุณควรจะมาฝึกเสียก่อน จะได้แสดงเป็น
เราจะได้รู้ว่าคุณเป็นคนยังไง มีแนวคิดแบบไหน ทำอะไรได้บ้าง แต่ถ้าคุณไม่อยากลำบากแล้วอยากให้คนไปอุ้มคุณเลย
ผมก็คิดว่าเราก็คงไม่อยากเอาชื่อเสียงตัวเอง กำลังกายกำลังสติปัญญาของตัวเอง และเอาชีวิตของทีมงานที่สั่งสมประสบการณ์มาเป็นสิบๆ ปีนับร้อยคนไปขึ้นกับคุณน่ะครับ
ก็คงขอสงวนไว้ให้คนที่พร้อมกว่า ดีกว่า ถ้าคุณเป็นการแสดงแล้ว หรือคิดว่าพร้อมเลยแล้ว ก็ควรมาพูดคุยกัน ฝากคนอื่นมาบอกอย่างเดียวว่าไม่มีงาน
แต่พอนัดมาคุยแล้วยุ่ง ติดเที่ยว ติดโน่นติดนี่ นัดเป็นปีไม่มา แล้วคิดว่าคนที่ไหนเค้าจะช่วยคุณน่ะครับ กลับไปงอแงกับพ่อกับแม่แทน
แล้วถ้าเป็นแล้วให้แคส แล้วไม่อยากมาแคส ไม่อยากทำการบ้าน ไม่อยากอ่านบท แต่อยากได้บทเลย ผมก็คงไม่สามารถช่วยอะไรได้จริงๆ ครับ
คุณไม่ได้มีทัศนคติในการทำงานที่ตรงกับเรา ลำพังแค่ความสวย ความหล่อ ยอดไอจี ติ๊กตอกก็ใช่ว่าจะดีสำหรับงานนะครับ
วงการบันเทิงในเวลานี้เต็มไปด้วยคนที่เกิดเบาๆ แต่ยังไม่ดังจริงๆ มองตัวเองเหมือนดาราเกาหลีคนถัดไปแต่ไม่ยอมทำอะไรเพื่อให้ได้มา
นักแสดงในวงการนี้ที่มายืนจุดสูงๆ ได้ล้วนทำงานหนักและแลกมาด้วยอะไรหลายๆ อย่างจำนวนมากครับ ดังนั้นอย่าสำคัญตัวเองผิด ยึดติดแต่กะลาแคบๆ
อยากให้เปิดโลกแล้วดูว่าคนอื่นๆ นั้นเค้าทำงานกันมากขนาดไหนเพื่อให้ยืนเป็นแถวหน้าของวงการ และเค้าต้องพร้อมขนาดไหนที่ไปยืนจุดนั้นได้ครับ
วันก่อนตัดสินงานประกวดของต่างประเทศ รู้สึกได้เลยว่าเรายังต้องพัฒนาอีกมากเมื่อเทียบกับนักแสดงในต่างชาติ เช่น อินเดีย ฟิลิปินส์ เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน อินโดนิเซีย ฯลฯ
ล้วนมีคนมีฝีมือเยอะมากๆ ในวงการ แต่บ้านเรามีคนดังเยอะมาก แต่คนเก่งและพร้อมระดับโลกยังมีน้อยเกินไป
ซึ่งเราทำได้ แต่ต้องเอาทัศนคติเห็นแก่ได้ของพวกเด็กๆ จำนวนมากออกไปก่อนครับ
ตามนั้นครับ เป็นเรื่องที่ติดใจมาหลายวันละครับ ครั้งหน้าอย่าพยายามขอให้ผมช่วยคนที่ไม่ยอมช่วยตัวเองนะครับ”
ครับ..ผมเองเคยรับฝากอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เชื่อไหม ไม่ได้เป็นดาราสักคน!
รู้แล้ว..ยังคิดจะฝาก (ผม) อยู่อีกมั้ย?