10 ตุลาคม 2566 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความเห็นผ่านรายการสามารถ 5 นาทีว่า
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ วันนี้ผมสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ก็จะมาสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊กสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ครับ
วันนี้ก็ต้องมาสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องคือ น่าสงสารนายกรัฐมนตรี คุณเศรษฐา ทวีสิน อย่างที่ผมพูดไปครับว่าช่วงนี้ดวงตก ก่อนถึงเมษาปีหน้านี้ คุณเศรษฐาต้องระมัดระวังคำพูด และก็ต้องระมัดระวังการออกนโยบาย
การสื่อสารกับประชาชนนั้นต้องระมัดระวัง หลายครั้งที่สื่อสารผิดพลาด เช่น เมื่อวานนี้ก็พูดเรื่องอิสราเอล คือต้องเข้าใจก่อนว่า นายกรัฐมนตรีประเทศไทยนั้น ไม่ได้อยู่บนความขัดแย้งของใคร แล้วประเทศไทยไม่ควรไปอยู่บนคู่ความขัดแย้งของใคร
เรื่องของอิสราเอลและปาเลสไตน์เขาสู้กันมานานแล้ว และก็มีชาติมหาอำนาจหนุนทั้ง 2 ประเทศครับ ปาเลสไตน์ก็มีคนหนุน อิสราเอลก็มีคนหนุน
ฉะนั้นการที่นายกรัฐมนตรีประเทศไทยจะออก ไปพูดอะไรนั้นผมคิดว่า ต้องใช้สติมากๆ การที่ออกไปปกป้องอิสราเอลหรือประณามกลุ่มฮามาสเนี่ย ผมคิดว่ามันจะเกิดผลเสียกับประเทศไทย นี่คือสิ่งที่ผมบอกเลยว่าอันตรายมากๆ
อีกเรื่องคือ วันนี้ไฟไหม้ที่เมืองทองธานี ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเนี่ย เหตุการณ์ที่ห้างพารากอนฝนตก เป็นห่าใหญ่ กรุงเทพน้ำท่วม โรงพยาบาลน้ำท่วม ไม่ต้องรวมถึงภาคอีสาน และภาคเหนือ ที่ชาวบ้านลำบาก เรือนจำไฟไหม้ อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมากถล่ม นี่คือสิ่งที่ผมบอกมันเกิดอาเพส รึเปล่า นั่นคือสิ่งที่ต้องฝากบอกพ่อแม่พี่น้องประชาชนช่วยกันครับ
แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ผมอยากจะมาบอก ก็คืออยากจะบอกท่านนายกเศรษฐา ทวีสิน ว่านโยบายเเจกเงิน 10,000 บาท ท่านอย่าดันทุรังเลย
วันนี้มีนักวิชาการออกมาพูดหลายครั้ง แล้วผมขอเปิดลิงก์เลย ขอให้ประชาชนทั้งประเทศลงชื่อได้ครับ ลิงก์ในเพจผมในเฟซบุ๊กผม เพิ่งจะร่วมทำครั้งแรก ผมเคยร่วมล่ารายชื่อในเรื่องของการแก้กฎหมายแชร์ลูกโซ่เนี่ย สี่ ห้าแสน รายชื่อมาแล้ว วันนี้ผมจะเปิดล่ารายชื่อของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับเงินดิจิทัล สิ่งที่ผมพูดว่าไม่เห็นด้วยกับเงินดิจิทัลนั้น
ช่วยลงชื่อสนับสนุนและแชร์แคมเปญนี้ ขอบคุณมากๆ ใครไม่อยากได้เงินดิจิทัล ไม่อยากให้ประเทศล่มสลาย ลงชื่อเลย ประเทศเป็นของพวกเราทุกคน https://chng.it/zbGVGPLs2s
เพราะนโยบายในการใช้เงินนั้นมันไม่ถึงประชาชนหรอกครับ มันถึงประชาชนจริงแต่ประชาชนต้องไปใช้กับร้านค้า
วันนี้ท่านบอกไม่มีเกณฑ์ให้ประชาชน กับชาวบ้านไปใช้กับร้านค้า แต่ร้านค้านั้นต้องอยู่ในระยะ 4 กม. และต้องเป็นร้านค้าที่เข้าร่วมลงทะเบียนภาษี แล้วต้องบอกต้องรอถึง 6 เดือน ถึงจะเบิกเงินได้เนี่ย ผมถามว่าถ้าวันนั้นในการจะเบิกเงินร้านค้าแต่ละร้าน ปรากฎว่าชาวบ้านมาไม่เข้าเงื่อนไข แล้วปรากฎว่าชาวบ้านรับของไปแล้วเหมือนโครงการเราชนะที่เรียกเงินคืน ใครจะรับผิดชอบ นี่ประเด็นที่ 1
ประเด็นที่ 2 ร้านค้าจะมีสักกี่ร้านค้าใน 4 กิโลเมตร ที่ยื่นทะเบียนภาษี บางคนอยู่ในป่ายาง บางคนอยู่ในสวนยางในต่างจังหวัดจะทำยังไง ใน 4 กิโลเมตร ไม่มีของที่เขาอยากได้สุดท้ายมันก็ไปเข้าไปที่ Makro Lotus 7-11 หรือเปล่า
นั่นคือที่ผมบอกสุดท้ายเงินมัน ก็เข้าสู่เจ้าสัว เงินมันไม่ได้หมุนในระบบครับ มันก็หมุนแค่รอบเดียว ฉะนั้นการเเจกเงินของท่านมันไม่ใช่ครับ
ต่อมาครับร้านค้าแต่ละร้านที่ผมบอกว่า ถึงแม้อยู่ใน 4 กิโลเมตร แต่ต้องรอ 6 เดือน ถึงจะสามารถเอาเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้นั้นเนี่ย ร้านค้าจะมีสักกี่ร้านที่มีเงินสำรองในการที่จะจ่ายของไปก่อน นั้นคือสิ่งต้องคิดครับ
ฉะนั้นผมขอบอกเลยครับนโยบายที่ท่านคิดมานั้นมันไม่เวิร์ก และสุดท้ายมันเป็นงบประมาณ 5แสน กว่าล้านเนี่ย ในการที่เอามาละลายเเม่น้ำ มันเหมือนกับว่า วันนี้ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำครับ มันไม่เกิดประโยชน์
5 แสนกว่าล้านที่ท่านจะทำ ให้ไปสร้างสนามบินสุวรรณภูมิอีกสัก 3 สนามบิน แบบสุวรรณภูมิแล้วเอารายได้จากการท่องเที่ยวเข้ามา นักท่องเที่ยวถ้าเข้ามาประเทศไทย 1 คน เขาต้องนอน เขาต้องกิน เขาต้องใช้ แบบนี้เม็ดเงินมันถึงชาวบ้านอย่างแท้จริง
เรื่องนี้ผมฝากด้วยนะครับ ว่าท่านนายกรัฐมนตรีผมก็เป็นห่วงท่าน ไม่อยากให้ท่านตกเก้าอี้ไปก่อน
ฉะนั้นช่วงนี้ท่านต้องระมัดระวัง เรื่องเงินดิจิทัลอย่าใช้เลยครับ ขอบคุณครับ