ก้าวไกลเสียอะไรไปแล้วบ้าง – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ก็ตามนั้นแหละครับ…

กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดถัดไปมันจะถูกได้อย่างไรกัน

เป็นไปตามที่คาดครับว่า กรณี “รองอ๋อง หมู่กระทะ” มันจะลุกลาม แยกย่อยไปอีกหลายประเด็น สุดท้ายพรรคก้าวไกลเอาไม่อยู่

จะเสียหายมากกว่าที่คิด

เมื่อ “รองอ๋อง” ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ ๒ สิ่งที่้ต้องเจอแน่ๆ แล้วคือ ฝั่งรัฐบาลจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิฉัยว่ามติพรรคก้าวไกลขับ “รองอ๋อง” ออกพรรคนั้นขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

และยังมีประเด็นขัดข้อบังคับพรรคก้าวไกลอีกด้วย

รัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๑ สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อ

(๙) พ้นจากการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกตามมติของพรรคการเมืองนั้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารของพรรคการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น ในกรณีเช่นนี้ ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นมิได้เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พรรคการเมืองมีมติ ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่พ้นสามสิบวันดังกล่าว

ไปดูข้อบังคับพรรคก้าวไกลกันอีกครั้ง ข้อ ๖๔ สมาชิกภาพของสมาชิกพรรคสิ้นสุดลง เมื่อ

(๑) ตาย

(๒) ลาออก

(๓) ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๖๒ เว้นแต่เป็นกรณีมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙๖ (๑) ของรัฐธรรมนูญ และเป็นการบวชตามประเพณีนิยม แต่ในระหว่างมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวจะใช้สิทธิในฐานะสมาชิกพรรคมิได้

(๔) ไม่ชําระค่าบํารุงพรรคเป็นเวลาสองปีติดต่อกัน

(๕)พรรคการเมืองมีมติให้ออกเพราะกระทําผิดวินัยหรือจรรยาบรรณอย่างร้ายแรงหรือมีเหตุร้ายแรงอื่น

(๖) พรรคสิ้นสภาพความเป็นพรรค หรือยุบพรรคการเมืองการลาออกของสมาชิกพรรคตามวรรคหนึ่ง (๒) ให้ถือว่าสมบูรณ์เมื่อได้ยื่นใบลาออกต่อนายทะเบียนสมาชิกพรรคหรือนายทะเบียนพรรคการเมือง

การสิ้นสุดของสมาชิกภาพตามวรรคหนึ่ง (๕) หากสมาชิกผู้นั้นดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมติของพรรคต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรค

กรณี “รองอ๋อง” พรรคก้าวไกลอ้าง (๕) ในการขับ

แต่…เหตุผลในการขับ ไม่เข้าข่าย (๕) แม้นิดเดียว

ก็อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้วหละครับว่าจะวินิจฉัยเช่นไร

แต่เฉพาะหน้านี้ที่เป็นปัญหาสำหรับพรรคก้าวไกลคือโควตาประธานกรรมาธิการ

การที่พรรคก้าวไกลขับ “รองอ๋อง” ออกจากพรรค ทำให้สัดส่วนส.ส.ที่ใช้คำนวณเก้าอี้ประธานกรรมาธิการสภาผู้แทนฯเปลี่ยนไปด้วย

จากเดิมที่ได้ ๑๑ คณะ จะเหลือ ๑๐ คณะ

ได้ ๑๑ คณะส.ส.ในพรรคก้าวไกลยังฟัดกันเองจมเขี้ยว

หากต้องลดลงมาเหลือ ๑๐ คณะ คงเลือดโชกไปตามๆ กัน

ฟังที่ “อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” สส.ราชบุรี จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) โอกาสที่พรรคก้าวไกลจะเสียเก้าอี้ประธานกรรมาธิการไป ๑ คณะมีสูงมากทีเดียว

“…ที่ผ่านมาการจัดสรรโควตาประธานกรรมาธิการ พรรคก้าวไกลขอให้รอผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ระยองก่อน

เมื่อผลเลือกตั้งพบว่าเขาชนะ ได้ส.ส. ๑ คน ทำให้ได้โควตาประธานกรรมาธิการฯ เพิ่มอีก ๑ คณะ จากที่คำนวณแล้วได้ ๑๐ คณะ

ดังนั้น เมื่อตอนนี้ ส.ส.ก้าวไกล ลดลง ๑ คน สัดส่วนต้องลดลง และพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องได้ประธานกรรมาธิการฯ ๓ คณะ โดยไม่มีการแบ่งครึ่งวาระดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการ…”

ความฉิบหายมาเยือนสิครับ

งานนี้พรรคก้าวไกลจะเอาแต่ได้ ไม่ได้แน่นอน จะยกเอาเหตุผลอะไรมาอธิบายเพื่อให้ตัวเองได้โควตาประธานกรรมาธิการฯ ๑๑ ที่นั่ง

กลุ้มใจแทนจริงๆ!

พรรคก้าวไกล เสียมากี่ตำแหน่งแล้ว

เริ่มจากประธานสภาผู้แทนราษฎร เสียให้กับพรรคประชาชาติที่มีเพียง ๙ เสียง

จากนั้นเสียตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้พรรคเพื่อไทย

ตามด้วยเสียตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ ๒ ซึ่งยังไม่รู้ว่า “รองอ๋อง” จะไปสังกัดพรรคการเมืองใด

หรือต้องจบเห่เพราะคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ หรืออาจเป็นศาลฎีกา

แทนที่จะฝากเลี้ยง “รองอ๋อง” ไว้กับพรรคพันธมิตรในฝ่ายค้าน กลับกลายเป็นว่า ต้องเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ ๑ ใหม่ และตกเป็นของพรรคร่วมรัฐบาลในที่สุด

วันนี้กำลังจะเสียตำแหน่งประธานกรรมาธิการไปอีก ๑ เก้าอี้

เมื่อทวนความดูแล้ว พรรคก้าวไกลอ่อนหัดทางการเมืองอย่างมาก จนสร้างความเสียหายให้พรรคอย่างใหญ่หลวง

เสียหายอย่างต่อเนื่อง

พรรคก้าวไกลอ่านอนาคตไม่ออก มีพลังอยู่ในมือ มีเก้าอี้ส.ส.มากที่สุด แต่กลับใช้ประโยชน์เพื่อความได้เปรียบทางการเมืองไม่เป็น

ไม่ต่างจากลิงได้แหวน

เห็นการแถลงข่าวของ รองโฆษกพรรคก้าวไกล “ภคมน หนุนอนันต์” แล้ว ก็ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า พรรคก้าวไกลเล่นกับกระแสจนเพลิน ไม่สนใจแม้กระทั่งข้อบังคับพรรคที่ตัวเองเขียนไว้

“…คุณศรีสุวรรณได้อ้างว่าจะมีการผิดข้อบังคับของพรรค ก็อยากจะบอกว่าคุณศรีสุวรรณก็อาจจะไม่ใช่สมาชิกของพรรคก้าวไกล อาจจะไม่ได้รู้ข้อบังคับที่ดีพอ การขับหมออ๋องออกจากสมาชิกภาพพรรค เราพูดชัดเจน หมออ๋องพูดชัดเจน เรื่องนี้ไม่มีการละคร ไม่มีการตระบัดสัตย์ ไม่มีการทรยศประชาชนใดๆ ทั้งสิ้น นี่คือการกระทำที่โปร่งใสตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว…”

นี่แหละครับผลของการไม่ทำการบ้าน ไม่อ่านข้อบังคับพรรคตัวเอง

นี่ถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ได้บริหารประเทศ มันจะไม่ฉิบหายหรือครับ

Written By
More from pp
ซีพีแรม ผนึก กรมประมง และ จ.สุราษฎร์ธานี เดินหน้าสานต่อโครงการ“ปูม้า ยั่งยืน คู่ทะเลไทย”
นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด   พร้อมด้วย ดร.สุทธินี ลิ้มธรรมมหิศร ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง กรมประมง และนายเจริญศักดิ์ วงศ์สุวรรณ นายอำเภอไชยา กับนายสราวุธ คาน รองนายกเทศบาลตำบลพุมเรียง
Read More
0 replies on “ก้าวไกลเสียอะไรไปแล้วบ้าง – ผักกาดหอม”