จากเพลงถึงดนตรี (ไทย) – สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

เงียบปากเถอะ..นาย!

ก็..บอกเสียตรงๆ อย่างนี้แหละ เพราะเท่าที่สดับตรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในสังคมมา 2-3 วัน พร้อมๆ ไปกับการฟังเพลง “ถ้าไม่รักจะปล้ำ”..

คนร้อง.. “นาย เดอะคอมเมเดี้ยน” อย่าได้ต่อความยาวสาวความยืดให้ว้าวุ่นไปกันใหญ่เลยจะดีกว่า โดยเฉพาะคำว่า.. “คืออะไรครับเนี่ย”?

ด้วยเนื้อหาเพลงท่อน.. “ขอเบอร์ ขอเฟซฯ ขอไลน์ได้ไหม ถ้าเกิดไม่ได้ก็ไม่เป็นไรถ้าน้องไม่ให้เดี๋ยวพี่จะปล้ำ..

พี่พูดจริงนะน้องไม่ได้อำ ถ้าเกิดไม่รักกันก็ไม่เป็นไร แต่ระวังตัวไว้เดี๋ยวน้องจะโดนปล้ำ”

มัน..ลูกทุ่งใสๆ ซื่อๆ แบบทื่อๆ ตรงไป-ตรงมาก็จริง แต่มันก็จริงอย่างที่ชาวเน็ตเค้าว่า.. “ทำไมไม่คิดว่ายุคนี้แล้ว จะไปเอาตรรกะตลกคาเฟ่ 50 ปีก่อนมาเล่นทำไม ในเมื่อสังคมเปลี่ยนแปลงไปแล้ว”

“ยุค 10-20 ปีก่อน คงตลกขำๆ กันได้ แต่เมื่อยุคสมัยมันเปลี่ยน ขนาดมุขตลกคุกคามทางเพศยังเล่นน้อยลง”

และแรงไปกว่านั้น.. “ทำไมถึงเอาประเด็นนี้มาทำเป็นสิ่งบันเทิงเหรอ? มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง และคนโดนเขาเจ็บปวดมาก ถึงขนาดต้องพบหมอบำบัดเลยนะ,

ลองนึกว่าคุณมีลูกสาว แล้วเด็กวัยรุ่นแถวบ้านมาชอบลูกคุณ แต่ลูกคุณไม่เล่นด้วย แล้วเขาเลยส่งเพลงนี้มาให้อ่ะ คุณคิดว่าเขาสื่อถึงอะไรล่ะ?”

ผมน่ะ เข้าใจ “นาย” แหละ ว่าคิดแค่ความสนุกสนานตามประสาตลก ซึ่งเพลง-ดนตรีก็สนุกดีอยู่ และคนแต่ง “ป๋าเพรซ” อะไรนั้นก็คงไม่ได้คิดไปถึงเรื่องการคุกคามทางเพศ

แต่เมื่อมีคนเขาติง ศิลปินที่ถ่อมตนก็ควรจะน้อมรับฟัง แล้วกล่าวคำขอโทษด้วยความจริงใจ พร้อมกับจะระมัดระวังกับผลงานต่อๆ ไป จะไม่ทำให้ต้องมาว้าวุ่น-ไม่สบายใจอีกแล้ว..จบ!

นี่..ยังดีนะคนแต่งและนาย เอาเพียงประโยคของตัวโกงลิเกโบราณมาใช้.. “ถ้าไม่รักฉันจะปล้ำให้หนำใจ”..

ถ้าไปเอาวลีอมตะของ “พิภพ ภู่ภิญโญ” อดีตดาวร้าย (หัวโล้น) หนังไทยยุคสมบัติ เมทะนี..“กูจะยัดเยียดความเป็นผัวให้มึง” มาใส่ในเนื้อเพลงล่ะก็..

ต้องโดนถล่มด่าถึงบุพการีอย่างไม่ต้องสงสัย!

เออ..พูดเรื่องเพลง-เรื่องดนตรี วันก่อนได้อ่านข้อความของคุณวรเชษฐ์ เอมเปีย หรือ “เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล” นักดนตรีคนดังที่ได้หันไปใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ เรือกสวนไร่นามาพักใหญ่ๆ

ซึ่งคุณเชษฐ์โพสต์ว่า.. “แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเพื่อการเตรียมพร้อมของผู้ปกครองและเด็กๆ นะครับ..ที่ศูนย์เรียนรู้ ใกล้เปิดอีกครั้งแล้วนะครับ..

ตอนนี้พ่อผม เขาก็สอนลูกศิษย์โตๆ อยู่ที่บ้านเขา วันเสาร์ อาทิตย์..พอดีเขาเอ่ยถามว่า แล้วบ้านผมจะเปิดเมื่อไร..ผมก็เลยต้องเตรียมตัวให้พร้อมอีกสักหน่อยครับ

1.เรียนฟรี ดนตรีไทยช่วยบำบัดเด็กสมาธิสั้น เด็กติดเกมส์ 2.เรียนดนตรีไทยช่วยให้สมองดี ไม่หลงลืม 3.เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย

**ครั้งนี้ จะเปิดให้เรียน ไม่วันเสาร์ ก็เป็นวันอาทิตย์ เรียนครั้งละแค่สองชั่วโมง 9.00น.-11.00น. เรียนเสร็จแยกย้ายกันกลับบ้านทันที เพราะผมมีภารกิจมากมายในแต่ละวันครับ

และอีกอย่าง ทุกคนจะได้ตั้งใจเรียนจริงๆ จังๆ ไม่งั้นเปิดทั้งวัน ก็มาเล่นดื้อกัน **คนโตก็มาเรียนได้นะครับ ** แล้วจะแจ้งวันเปิดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ไม่นานนี้นะครับ.”

ครับ..ถ้าเผื่ออยู่ละแวกบ้านใกล้เรือนเคียงกับคุณเชษฐ์ และท่านผู้อ่านสนใจ จะให้ลูก-หลานเรียนดนตรีไทย ก็ขอเชิญ แต่คุณเชษฐ์ก็นะ ประหยัดคำเสียเหลือเกิน

เลยไม่รู้ “ศูนย์เรียนรู้” ที่ว่านี้อยู่ที่ไหน เบอร์โทรอะไร หรือรู้-รับ (เรียน) กันเป็นการภายใน ถ้ายังไง ช่วยให้ความกระจ่างด้วย..

เด็ก (คน) โตอย่างผมอยากไปเรียน!

Written By
More from pp
ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์ ว่าด้วยรื่อง เกาะกระแสเลือกตั้งอเมริกา (2)
วันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เป็นวันที่ทั่วโลกจะจับจ้องมองไปในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเมื่อวานนี้ผมได้นำเสนอโพลส่วนตัวที่ผมทำขึ้นเอง วันนี้ขอต่อจากเมื่อวานนี้
Read More
0 replies on “จากเพลงถึงดนตรี (ไทย) – สันต์ สะตอแมน”