ปลอบใจไปพร้อมความหวัง-สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

“โน่นแน่ะนกเขาคู จุ๊ก จุ๊กกรู นกมันเฝ้าดูหาชู้มัน”..

เนี่ย..ได้เห็นภาพขณะนายกฯ ลุงตู่ พานายกฯ ลุงนิดเดินชมทำเนียบรัฐบาล พลางชี้นิ้วดูนั่น-ดูโน่นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อวันก่อนนู้น..

ก็ทำให้นึกถึงเนื้อเพลง “นกเขาคูรัก” ท่อนนี้ขึ้นมา ซึ่งเข้ากับบรรยากาศ น่ารักนะ..ว่ามั้ย?

อ้อ..แต่คุณจตุพร พรหมพันธุ์ กลับมองอีกแบบแฮะ แกว่า.. “วันที่นายเศรษฐา ไปพบและไหว้นอบน้อม พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล แล้วได้รับการต้อนรับด้วยอารมณ์สดใส เป็นกันเอง

พล.อ.ประยุทธ์ ยิ้มเบิกบาน พาเดินโชว์ดูทำเนียบ ชี้ชวนแนบชิดให้ชมต้นไม้ แม้อารมณ์แบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่บดขยี้จิตใจของกองเชียร์เพื่อไทยให้แหลกยับเยิน

ยิ่งย้อนถึงคำพูดฮึกเหิมไม่จับมือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ร่วมรัฐบาล 2 ป. และต้องการปิดสวิตซ์ 3 ป. ดังนั้น ภาพลักษณ์การแสดงออกของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงสะท้อนถึงความเขี้ยวทางการเมืองอย่างยิ่ง”

แหมๆ..พี่ตู่(จตุพร)ก็นะ พยายามเหลือเกินที่จะสุมไฟให้คนเสื้อแดงรุ่มร้อนเคียดแค้น แบบไม่ยอมให้ผ่อนคลายอารมณ์กันเลยเชียว?

เพลาๆกันได้แล้วนา มันมาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องทำใจ ยอมรับ ให้เวลารัฐบาลชุดใหม่ได้ทำงานไปด้วยความราบรื่นเถอะ..

อย่าได้ทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง จนเป็นอุปสรรคในการบริหารประเทศชาติเลย!

เพียงเฝ้าดู-เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อย่าให้ออกนอกลู่นอกทางที่จะเกิดความหายนะ-ฉิบหายกับประเทศชาติก็น่าจะเพียงพอ

ไม่ต้องนั่งคอยคิด-คาด-เดา รัฐบาลจะอยู่ได้เท่านั้น-เท่านี้ เพราะที่ผ่านมาทั้งสื่อ ทั้งหมอดู หมอเดา กูรู-กูรั่ว ล้วนหน้าแหก-แตกยับกันมาแล้วทั้งเพ!

ฉะนั้น..รัฐบาลลุงนิดจะอยู่ได้แค่ไหนก็แค่นั้น..เชื่อกันเถิดว่า ทุกอย่างได้ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ไม่งั้นนายกรัฐมนตรีจะชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” รึ?

ครับ..มาคุยกันเรื่องข่าวเศร้าหน่อยดีกว่า ไม่เกี่ยวกับความตายของใครที่ไหนหรอก แต่เป็นความในใจของคุณพิง ลำพระเพลิง ผู้กำกับ มือเขียนบทหนัง-ละครแถวหน้า ผ่านเฟซบุ๊กน่ะ..

#ข่าวเศร้าวงการละครไทย..เขียนบทหากินมาร่วมสามสิบปี ได้เงินสถานีมีกินมีใช้ เลี้ยงแม่ เลี้ยงลูกได้จนเรียนจบ

เสาหลักบากหญ้าหน้าด่านโดนเทคโนโลยีตีแตกแล้ว รวมไปถึงนโยบายเลิกซื้อ นวนิยายบทประพันธ์ หลังข่าวเสาร์-อาทิตย์จากนี้คือ ถ่ายทอดมวย

อีกช่องรีรันละครเก่า เด็กจบใหม่คงยากที่จะมีซีรี่ย์ออนแอร์ให้เขียนบท ทางรอดที่เห็น มือเก๋าปรับตัวย้ายไปช่องสตรีมมิ่ง

#โลกหมุนแรงเร่งมากกว่าแรงดึงดูด ใครเหม่อเผลอโดนเหวี่ยงหลุดวงโคจรไม่ทันรู้ตัว”

ผู้อ่านบางท่านอาจจะงงๆ อยู่บ้าง แต่กับคนในวงการโทรทัศน์ เขาต่างรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงมาสักพักใหญ่แล้ว

ซึ่งก็ต้องบอกว่า ตั้งแต่เกิดเทคโนโลยีล้ำยุคได้ส่งผลกระทบกับผู้คนในแวดวงบันเทิงหลากสาขาไปทั่วจริงๆด้วยล่ะ

เพราะเมื่อโทรทัศน์ได้รับความนิยมน้อยลง ผู้ชมหันไปดูทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Line TV , Youtube , Mello รวมถึง Netflix มากขึ้น

เรตติ้งก็ตกเป็นธรรมดา และเมื่อเรตติ้งไม่ดี สปอนเซอร์-สินค้าก็ตั้งแง่ จากอดีตที่ช่อง-สถานีมีอำนาจ “กำหนดค่าโฆษณา” ได้ ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายเอเจนซีที่มีอำนาจต่อ-รองกดราคา!

เหตุนี้ สถานีต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดทางทางธุรกิจด้วยการ “ลดต้นทุน” ผลกระทบตามมา ผู้ผลิต-ผู้จัดฯ ก็จำเป็นต้องปรับลดงบโปรดักชั่นลงตาม

โปรดิวเซอร์-ผู้กำกับ-ผู้เขียนบทจากที่เคยรับค่าตัว-ค่าเขียน 7 แสน 8 แสน ก็ต้องถูกตัดงบ 20-30%เป็นอย่างน้อย จะพูดว่าเป็นงูกินหางก็เห็นจะไม่ผิด!

จะโทษสถานีเห็นแก่ตัว-เอาเปรียบก็ไม่ถูก เพราะต่างก็ต้องเอาตัวรอด..ยามนี้ก็ได้แต่ปลอบใจกัน พร้อมๆ ไปกับความหวัง..

รัฐบาลใหม่จะไม่โกงกิน..ทักษิณต้องรับโทษอยู่ในคุกไปอีกปีสองปี!

Written By
More from pp
“สกลธี-นฤมล” เล็งทำระบบเชื่อมต่อ “ล้อ ราง เรือ” แก้รถติด-มลพิษ ย่านบางกะปิ
10 พฤษภาคม 2566 นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคฯ ได้ลงพื้นที่ตลาดเช้าซอยลาดพร้าว 87 ร่วมกับนางนฤมล...
Read More
0 replies on “ปลอบใจไปพร้อมความหวัง-สันต์ สะตอแมน”