ผักกาดหอม
สงสัยกลัวทัวร์ลงจนฝันร้าย….
“อ้วน-ภูมิธรรม” บอกว่า
“….สำหรับพรรคก้าวไกล เราได้ติดต่อประสานงาน และอยากจะใช้เวทีนี้ในการพูดคุยกันว่าวาระสำคัญของประเทศเป็นแบบนี้ หรืออยากจะทำให้ความต้องการของประชาชนบรรลุ
เราอยากให้เขาร่วมในการแสดงเจตจำนงในการโหวตครั้งนี้ด้วย ไม่ว่าอะไรที่เคยเป็นปัญหาที่อาจจะมีส่วนกับพรรคเพื่อไทยหรือกับผม เรายินดีที่จะไป ขอโทษ ขอขมา และยินดีที่จะไปแสดงความต้องการความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับทางออกวิกฤตของประเทศชาติ หรือจะให้ไปที่พรรคก้าวไกลเราก็ยินดี
วันนี้เรายินดีไปทุกพรรคถ้าคิดว่าคือทางออกของประเทศ ฉะนั้น พรรคก้าวไกลที่เรากำลังจะไปพบก็กำลังหาวันอยู่ว่าจะไปวันไหน…”
เล่นเอาสถานการณ์การเมืองร้อนฉ่าทีเดียว
เพราะก่อนหน้านี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า พรรคเพื่อไทยอาจเล่นเกมโหวตนายกฯ เมื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว อาจถีบภูมิใจไทยทิ้ง กลับไปจับมือกับก้าวไกลอีกครั้ง
ที่ “เสี่ยอ้วน” พูดออกมา เป๊ะตามนั้นเลย
กำลังจะกลับไปขอคืนดีก้าวไกล
เอาแล้วสิครับ แบบนี้คดีพลิกอีกรอบ
ไม่ทันขาดคำ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” นำทีมแกนนำเพื่อไทย มีทั้ง ชลน่าน ศรีแก้ว, ภูมิธรรม เวชยชัย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง เดินข้ามไป อาคารไทยซัมมิท ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เพื่อพูดคุยกับแกนนำก้าวไกล
แบบนี้ “เสี่ยหนู” สะดุ้งสิครับ!
เพื่อไทยกำลังจะทำอะไร?
ครับ…ดูเหมือนเพื่อไทยจะตกอยู่ในความหวาดผวาจากทัวร์ที่กระหน่ำลงไม่เว้นวัน
มวลชนเผาเสื้อแดงทิ้ง
ปฏิทิน รูป ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ กลายเป็นขี้เถ้า
หากไม่ทำอะไรสักอย่าง จะกลายเป็นไฟลามทุ่ง
นี่น่าจะเป็นเหตุผลหลัก ที่เพื่อไทยพยายามสกัดความไม่พอใจ และเรียกศรัทธากลับมาใหม่ ด้วยการลบภาพ ทรยศ หักหลัง พรรคก้าวไกล ให้เหลือน้อยที่สุด
แต่ไม่น่าจะส่งผลอะไรนัก เว้นเสียว่าเพื่อไทยกลับไปเซ็นเอ็มโอยูตั้งรัฐบาลกับก้าวไกลอีกรอบ นั่นจึงจะทำให้ความไม่พอใจของมวลชนเบาบางลงได้
เรื่องนี้โทษใครไม่ได้ครับ เพื่อไทย ต้องโทษตัวเองเต็มๆ
การเมืองที่แบ่งข้างในช่วง ๔ ปีที่ผ่านมา เพื่อไทย โหมกระหน่ำโจมตีการเมืองขั้วรัฐบาลว่า เป็นเผด็จการสืบทอดอำนาจ ทำให้ประเทศล่มจม
กรณี “บุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม” ที่ด่ากราดหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนว่า คือผลิตผลของการเมืองที่โจมตีกันโดยไร้ข้อเท็จจริง
ไม่ว่าจะเป็นการเหน็บแนมวัคซีนพระราชทาน วัคซีนจีน วัคซีนปลอม คนตายเป็นเบือเพราะโควิด เศรษฐกิจล่มสลาย
คำพูดทั้งหมดของ “บุ้ง” ก็คือคำพูดของนักการเมืองที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยเคยพูด
เด็กๆ พวกนี้ลอกเลียนแบบมา
แล้วสรุปว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ฆ่าคนตายไปเป็นหมื่นๆ
ถ้าเอาตามนี้ รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ฆ่าคนอเมริกันตายเป็นล้าน
รัฐบาลแถบยุโรปก็ฆ่าพลเมืองตัวเองตายเป็นแสนๆ
วันนี้ปีศาจที่พรรคเพื่อไทยสร้างขึ้น กำลังตามหลอกหลอนพรรคเพื่อไทยเอง
แม้กระทั่งวาทกรรม “ฝ่ายประชาธิปไตย” ที่มโนขึ้นมา ก็สำแดงให้เห็นแล้วว่า กลับมามัดแข้งมัดขาพรรคเพื่อไทย ให้เดินหน้าตั้งรัฐบาลอย่างยากลำบาก
สรุปได้ว่าขณะนี้เพื่อไทยติดกับดักตัวเอง เหมือนที่ ก้าวไกล เคยติดกับดัก ม.๑๑๒
ต้องแก้เองครับ ถ้าแก้ไม่ได้ก็หลบไป
สิ่งที่เพื่อไทยสร้างขึ้น กับ ความจริงที่เกิดขึ้น ต่างกันราวหน้ามือกับหลังตีน ลองหันไปดูรอบๆ สิครับว่า ประเทศไทยขณะนี้เป็นอย่างไร
การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็วไม่ใช่เพราะโชคช่วย
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก แซงหน้า ปารีส ลอนดอน ที่คนไทยอยากไปนักหนา ไม่ใช่เพราะฟลุก
แต่เพราะมีการวางแผนเปิดประเทศอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ รัฐบาลประยุทธ์ เปิด “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว
วันนั้นเพื่อไทยและก้าวไกล โจมตีอย่างหนัก ว่ารัฐบาลนำเข้าโควิดจากต่างประเทศ
สส.ก้าวไกลบางคนถึงขนาดเสนอเอาศพที่เสียชีวิตจากโควิดไปวางไว้ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อประจานว่า ภูเก็ตเป็นดงโควิด ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว
แล้วเป็นไงครับ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ยันประเทศแถบยุโรป ลาตินอเมริกา พากันลอกการบ้าน “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”
มาถึงเดือนตุลาคม รัฐบาลประกาศเปิดประเทศ ท่ามกลางเสียงเย้ยหยัน เหน็บแนม ว่าจะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางของโควิดโลก
ฉะนั้นที่ยิ้มออกกันในวันนี้ ประเทศเริ่มมีรายได้จำนวนมหาศาลจากการท่องเที่ยว ก็เพราะฝีมือรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่เคยถูกชี้หน้าด่าว่าเป็นฆาตกรฆ่าคนไทยเป็นพันๆ หมื่นๆ ในวันนั้น
กลับมาที่การตั้งรัฐบาล ในขณะที่ เพื่อไทย กำลังแก้แหอยู่
คำพูดในหลายๆ กรณีมันเริ่มประจักษ์ชัดถึงความไม่จริงใจ เป็นไม้หลักปักขี้เลน ก็ควรอยู่หรอกที่มวลชนเสื้อแดงถึงถอยห่าง
ความน่าเชื่อถือมันขึ้นกับสัจจะ
แต่นักการเมืองที่กำลังจะเป็นรัฐบาลเริ่มพูดเหมือนๆ กันหลายคนว่า ตอนปราศรัยเลือกตั้งต้องพูดเพื่อหาคะแนนเสียง
เลือกตั้งจบก็จบกัน
ถึงเวลาตั้งรัฐบาลต้องเริ่มต้นใหม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างเช่นกรณี “มีลุง ไม่มีเรา” ที่มัดขาพรรคเพื่อไทยอยู่ในขณะนี้ โทษใครไม่ได้เลย เป็นฝีมือของเพื่อไทยล้วนๆ
แล้วเป็นไงครับ “เสี่ยอ้วน” ต้องกลืนน้ำลายไปกี่ลิตร
“…ผมพูดชัดเจนแล้วว่าวันนี้ เราพูดคุยกับทุกฝ่าย เราสลาย เราไม่มีขั้ว ไม่มีลุง วันนี้อะไรก็ได้ที่ร่วมมือกัน ทางที่ดีที่สุดคือให้ตอบสนองการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาของประเทศได้…”
ไม่ใช่ มีลุง ไม่มีเรา แล้วนะครับ
ไม่มีขั้ว ไม่มีลุง แล้ว เป็นเพื่อนกันหมด
ต้องออกประกาศตามหา “ลุง” หรือเปล่าครับ
ก็เข้าใจครับ ถ้าคลายล็อกการเมืองไม่ได้ ก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้
แต่นักการเมืองพูดจาปลิ้นปล้อนเชื่อถือไม่ได้ มันไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียว
วันข้างหน้า ได้เป็นรัฐบาลแล้ว จะเชื่อถือได้หรือเปล่า
ก็ฝาก ด้อมส้ม-ด้อมแดง ช่วยกันสอดส่อง
หากยังเท็จโดยสันดาน ช่วยกันจับตัดลิ้นให้หมด
