ผักกาดหอม
ก้าวสู่นรกจริงๆ
เห็นคลิปหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยวานซืนแล้วรู้สึกหดหู่ใจ อนาคตของชาติทำไมถึงได้ก้าวร้าวผิดมนุษย์อย่างนั้น
มันเป็นผลิตผลจากอะไร ใครเป็นคนสร้างมา
คงต้องพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจังเสียทีแล้วครับ
การแสดงออกของคนรุ่นใหม่ ที่อ้างว่าทำเพื่อสิทธิเสรีภาพ และประชาธิปไตย มันช่างย้อนแย้งกันเหลือเกิน แต่พฤติกรรมเช่นนี้ มิได้เพิ่งเกิดที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย
มันเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหลายสถานที่หลายกรณี ตลอดช่วงปลายรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กลุ่มทะลุวัง กลุ่มม็อบอันธพาลกลุ่มนี้ หน้าตาคุ้นๆ หน้ากันหลายคน สร้างกรรมเอาไว้เยอะ
ที่น่าตกใจคือ คิดว่ากรรมที่ตัวเองสร้างคือกรรมดี ทำเพื่อชาติประชาชน เพื่อประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ประจักษ์ต่อสายตาสาธารณชนคือ กรรมชั่ว!
เลวร้ายขนาดไหน?
ก็ขนาดที่ “สุนัย ผาสุก” ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอตซ์ ประเทศไทย ยังทนเห็นไม่ได้
ทวิตเตอร์ Sunai @sunaibkk โพสต์ไว้แบบนี้ครับ…
“… ควรขอโทษ และรับปากว่าจะไม่ทำอีก … พฤติกรรมรุนแรงของ ทะลุวัง ที่ไปประท้วงการจับมือระหว่าง เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย ล้ำเส้นการแสดงออกอย่างสันติ
ไม่ใช่แค่ทำให้เสียแนวร่วม และการยอมรับจากสังคมในประเทศ
แต่ยังเสียความคุ้มครองภายใต้กติกาสากลที่เคยได้รับในฐานะนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นปัจจัยสำคัญช่วยคุ้มครองเวลาถูกรัฐเล่นงานด้วยมาตรการต่างๆ…”
ปกติ ฮิวแมนไรต์วอตซ์ สนับสนุนการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล ไม่เฉพาะที่ไทย เป็นแบบนี้ทั่วโลก ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ เพราะฮิวแมนไรต์วอตซ์ ไม่ยืนข้างรัฐบาลทั่วโลกอยู่แล้ว
แต่ครั้งนี้คงเหลืออด ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ ที่ ฮิวแมนไรต์วอตซ์ ออกมาตำหนิมวลชนที่ตัวเองก็เคยสนับสนุนทั้งการเคลื่อนไหวและแนวคิด
แสดงว่า “ทะลุวัง” มีพฤติกรรมก้าวร้าวมาก จนเลยเพดานที่สากลจะรับได้
ทั้งพฤติกรรม ทั้งภาษาที่ใช้ ถ่อยสถุล จนแทบไม่น่าเชื่อว่า คนรุ่นใหม่กลุ่มนี้คือคนที่ได้รับการศึกษาจากโรงเรียน จากมหาวิทยาลัย ที่มีคุณภาพของประเทศ
แต่จะโทษสถาบันการศึกษาคงไม่แฟร์
เพราะพฤติกรรมถ่อยสถุลนี้ ไม่ได้ถูกอบรมบ่มสอนจากสถาบันการศึกษา แต่เป็นเพราะสังคมนอกรั้วโรงเรียน มหาวิทยาลัย ต่างหาก ที่ทำให้ม็อบทะลุวัง เลยเส้นความเป็นคน
เอาแค่ชื่อ “ทะลุวัง” ก็สื่อให้เห็นแล้วครับว่ากลุ่มนี้มีเป้าหมายอะไร
ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์!
มีการตั้งข้อสังเกตว่า เบื้องลึก เบื้องหลังของเด็กกลุ่มนี้คือใคร
แน่นอนครับการ เคลื่อนไหวทางการเมือง ถึงไม่มากมายอะไร มันก็ต้องใช้เงิน
กับเด็กบางส่วนที่ยังไม่มีงานทำ ยังแบมือขอเงินพ่อแม่ มันก็เกิดคำถามว่าเอาเงินมาจากไหน
ยกตัวอย่างการไปทำลายข้าวของที่กระทรวงวัฒนธรรม การสาดสี หรือที่หน้าพรรคเพื่อไทย มีทั้งชุดพีพีอี ถังแอลกอฮอล์ พลุ ข้าวของพวกนี้ต้องใช้เงินซื้อมาทั้งนั้น
ไหนจะค่าเดินทาง ค่ากิน อีก ออกกันเองไหวหรือ
ช่วงนี้ไหนต้องจุดม็อบถี่ๆเอาเงินมาจากไหน
แต่ละคนคุ้นๆทั้งนั้นครับ
บุ้ง -เนติพร เสน่ห์สังคม
ตะวัน -ทานตะวัน ตัวตุลานนท์
หยก- ธนลภย์
สมาชิกกลุ่มทะลวังหลายคนเป็นผู้ต้องหาคดี ม.๑๑๒ บางคนได้ส.ส.พรรคก้าวไกล ประกันตัว
ส่วนที่ไม่ได้ประกันตัว ส.ส.ก้าวไกลก็ไปชูป้ายในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้ปล่อยตัว
เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำ จนผู้แคลงใจว่า ใช่พรรคก้าวไกลหรือไม่ที่อยู่เบื้องหลังม็อบทะลุวัง
นั่นเป็นคำถามครับ
แต่ที่พรรคก้าวไกลไม่ต้องตอบคือ พรรคก้าวไกลไม่เคยห้ามปรามพฤติกรรมเช่นนี้ของม็อบตระกูลทะลุทั้งหลาย
ไม่ว่าจะเป็นทะลุวัง ทะลุฟ้า ทะลุแก๊ส เมื่อตกเป็นผู้ต้องหา ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็ผลัดกันไปประกันตัว โดยใช้ตำแหน่ง ส.ส.
ตั้งแต่คดีเผา ทำลายทรัพย์สินาราชการ ยัน ม.๑๑๒ ล้วนเป็นธุระหลักที่ส.ส.ก้าวไกลต้องดำเนินการ ราวกับถุูกกำชับมาว่าจะว่างเว้นมิได้
ฉะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพรรคก้าวไกลกับม็อบตระกูลทะลุทั้งหลายจึงแน่นแฟ้น จนไม่อาจแยกออกจากกันได้
จึงไม่มีอะไรให้แปลกใจ ทันทีที่พรรคเพื่อไทยแถลงข่าวจับมือพรรคภูิใจไทยเป็นสารตั้งต้นในการตั้งรัฐบาล ม็อบทะลุวังถึงเป็นเดือดเป็นแค้น เผยให้เห็นถึงสันดานอันถ่อยสถุลจนยากจะรับได้
เหมือนหมาบ้าครับ
จะกัดทั่วไปหมด ไม่สนใจว่าใครเป็นใคร
เหตุหการณ์หน้าพรรคเพื่อไทย คงได้เห็นกันแล้ว นอกจาก ถ่อย หยาบคาย คุกคาม นักการเมืองรุ่นพ่อรุ่นปู่แล้ว ยังท้าตบท้ายต่อยนักข่าวอีกต่างหาก
ทำไมถึงได้สำคัญตัวว่ายิ่งใหญ่ขนาดนั้น
การชุมนุมที่ไม่สันติ ไม่ได้เพิ่งจะเกิดครับ
มันมีมาต่อเนื่อง และครั้งหลังสุดนี้มันเกิดจากความย่ามใจ เกิดจากความเชื่อที่ว่า ประชาธิปไตยจะทำอะไรก็ได้ เพราะศาสดาไม่เคยห้าม
แถมยังยุส่งอีก
คนที่สร้างปีศาจเหล่านี้ขึ้นมาคงรู้ตัวดี แต่จะยังใช้เด็กๆเหล่านี้ทำงานต่อไป
ย้ำนะครับเป้าหมายคนกลุ่มนี้คือล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยอ้างว่าเปลี่ยนประเทศ
และมันจะยังไม่จบเพียงแค่นี้แน่นอน
ไปดูข่าวดีกันบ้าง…
นาทีนี้ ไม่มีใครไม่ปลื้ม “ลูกสาวแห่งชาติ” ทีมวอลเลย์บอลหญิง U19 ชิงแชมป์โลก ชุดนี้อีกแล้ว
เด็กๆกลุ่มช่วยกันสร้างความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศ
คืนวันจันทร์ที่ ๗ สิงหาคม ตบกับทีมวอลเลย์บอลหญิง U19 ของจีน ชนะไปอย่างสุดมัน ที่สนามพิค อารีนา เมืองเซเกด ประเทศฮังการี
ถูกนำไปก่อน ๒ เซต แต่ใช่ว่าจีนจะชนะขาด โดยเฉพาะเซตแรกเป็นหนังยาว ไปจบที่จีนชนะ ๓๑-๓๓
แต่ฟอร์มโดยรวมสู้ได้ นั่นทำให้ ลูกสาวแห่งชาติของเรา ตบจีนกระเจิง ไล่กวด ๓ เซตรวด
ไทยชนะยักษ์ใหญ่อย่างจีนไป ๓ ต่อ ๒ เซต
ชนะรอบ ๘ ทีมสุดท้าย
จำชื่อนี้ไว้ให้ดีนะครับ “กาญจนา ศรีใสแก้ว” ทำคะแนนสูงสุดถึง ๓๐ คะแนน
ก็…เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลก บรรดาสูกสาวของเราไม่ได้สูงใหญ่อะไรครับ เทียบกับจีนไม่ได้เลย แต่เราคล่องตัวกว่า เหนียวกว่า เล่นเป็นทีมได้ดีกว่า เราจึงชนะ
โลกวอลเลย์บอลจึงไม่อาจประมาทนักกีฬาตัวเล็กอีกต่อไป
นัดหน้าคือคืนวันนี้ (๙ สิงหาคม) เจอกับ ญี่ปุ่น ที่เราเคยแพ้มาก่อน
แต่คราวนี้ตบกันเต็มเหนี่ยวแน่
เชียร์ลูกสาวแห่งชาติกันครับ