1 สิงหาคม 2566 อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ชี้ การเลือกตั้งผ่านมาแล้ว 3 เดือน แต่ยังไม่มีนายกรัฐมนตรีมาแก้ไขวิกฤตปัญหาให้ประชาชน
ดังนั้นในการประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติเลือกบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐนตรี จะต้องยึดผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ สำหรับสว. ที่เรียกร้องให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ย้ำจุดยืนที่ชัดเจนกรณีการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น
ที่ผ่านมาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ยืนยันชัดเจนโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปต้องคิดให้ดี ต้องเจรจาให้เหมาะสม และส่วนตัว ยอมรับการแก้มาตรา 112 ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ ซึ่ง สส. และ สว. ควรใช้โอกาสนี้นำพาประเทศออกจากวิกฤต
ขณะนี้ประเทศไทย ผ่านวันเลือกตั้งมาแล้ว 3 เดือน แต่ยังไม่มีนายกรัฐมนตรีมาแก้ไขปัญหาวิกฤตให้ประเทศ การโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปจึงควรยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อให้ประเทศได้ไปต่อ ไม่ควรมีการสร้างเงื่อนไขใดๆ ที่จะทำให้ประเทศชาติเสียโอกาสอีก
ผลสำรวจ ‘100 ซีอีโอ’ ระบุชัดว่า อยากให้มีรัฐบาลใหม่โดยเร็วเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจวิกฤต อย่ามั่วเล่นแต่การเมือง เพราะนักลงทุนอยากเห็นความชัดเจน และรัฐบาลใหม่จะต้องเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เน้นนโยบายที่จับต้องได้ มีความโปร่งใส ลดคอร์รัปชัน และนึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติ
อนุสรณ์ ย้ำว่า ครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ สว. สส. และพรรคการเมืองทุกพรรค จะได้ร่วมกันแสดงความจริงใจในการพาประเทศออกจากวิฤตไปด้วยกัน
สำหรับ สว. ที่อ้างว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ควรย้ำจุดยืนชัดเจนเรื่องการแก้ไขหรือไม่แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น
‘เศรษฐา ทวีสิน’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ยืนยันอย่างชัดเจนว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปต้องคิดให้ดี ต้องเจรจาให้เหมาะสม และส่วนตัวยอมรับการแก้มาตรา 112 ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ
พรรคที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีในครั้งต่อไป จะต้องไม่มีเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก สว. และจากหลายๆ พรรค ซึ่งประชาชนเห็นจุดยืนของ เศรษฐา ทวีสิน และพรรคเพื่อไทย ที่จะไม่ยกเลิก ไม่แก้ไขมาตรา 112 ชัดเจน