ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบเฝ้าระวังมลพิษจากเหตุโกดังเก็บพลุระเบิด จ.นราธิวาส ในรัศมี 500 เมตรจากจุดเกิดเหตุ
พบไม่มีปัญหาคุณภาพอากาศ แต่คุณภาพน้ำยังไม่เหมาะอุปโภคบริโภค ให้ใช้แหล่งน้ำจากภายนอกก่อน ส่วนการประเมินจิตใจผู้รับผลกระทบ 3 กลุ่ม มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต 62 ราย ให้การดูแลทุกรายแล้ว
1 สิงหาคม 2566 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟระเบิด ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ว่า
เหตุระเบิดดังกล่าวเป็นการเผาไหม้ของดินปืน อาจทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ รวมถึงปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะในแหล่งน้ำได้
ล่าสุด นพ.ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ได้รายงานความคืบหน้าการตรวจเฝ้าระวังผลกระทบมลพิษในสิ่งแวดล้อม โดยคณะกรรมประสานงานสาธารณสุขระดับอำเภอ (คปสอ.) ทั้ง 13 อำเภอใน จ.นราธิวาส ศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา
ได้ลงพื้นที่ร่วมคัดกรองผลกระทบด้านสุขภาพ เก็บตัวอย่างน้ำเพื่อวิเคราะห์คุณภาพทางกายภาพ เคมี และแบคทีเรีย รวมถึงตรวจวัดคุณภาพอากาศ คุณภาพแหล่งน้ำใช้ โดยเครื่องมือวัดภาคสนาม ณ จุดเกิดเหตุและรัศมี 500 เมตรโดยรอบ
พบว่าไม่มีปัญหาด้านคุณภาพอากาศ ส่วนคุณภาพน้ำยังไม่เหมาะสมทั้งการอุปโภคและบริโภค จึงเสนอให้ใช้แหล่งนำจากพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ประปา อบต. และน้ำบาดาลโรงเรียนมูโนะ เป็นต้น
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ ทีม MCATT จากศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ และ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ 3 กลุ่ม ได้แก่
1.ผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวในโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก 10 ราย เป็นผู้ใหญ่ 8 ราย มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต 7 ราย และเด็ก 2 ราย มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตทั้ง 2 ราย
2.ครอบครัวผู้เสียชีวิต 1 ครอบครัว ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ประเมินบุตรของผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตทั้ง 2 ราย และ
3.ผู้ได้รับผลกระทบในหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 5 จำนวน 241 ราย เป็นผู้ใหญ่ 209 ราย มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต 43 ราย เด็ก 32 ราย มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต 8 ราย
วมผู้มีความเสี่ยงทางสุขภาพจิตทั้งหมด 62 ราย ซึ่งทุกรายทีม MCATT ได้ให้การปฐมพยาบาลจิตใจเบื้องต้นแล้ว สำหรับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ยังได้รับการดูแลเพิ่มเติมด้วย Crisis intervention หรือการช่วยให้วางแผนรับมือความเครียดรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น แ
ละในรายที่พบความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต จะส่งต่อให้ทีม MCATT ในพื้นที่ประเมินตามมาตรฐานการดูแลเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยพิบัติ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือต่อไป