สันต์ สะตอแมน
17.57 น. เทวดาเพลง “ชลธี ธารทอง” จากพวกเราแล้วนะ
นี่..เป็นข้อความที่ “ครูปุ้ม” คุณศศิวิมล รัตนอำพันธุ์ ได้โพสต์เมื่อเย็นค่ำวันศุกร์ที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งก็หมายความว่าครูชลธี ธารทอง ศิลปินแห่งชาติ เจ้าของฉายา “เทวดาเพลง” ที่อดีตคนข่าวบันเทิงดัง คุณยิ่งยง สะเด็ดยาด ตั้งให้ ได้ลาลับจากโลกนี้ไปแล้วชั่วนิรันดร์
ก็..ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัว โดยเฉพาะครูปุ้มในฐานะภรรยาคู่ทุกข์-คู่ยาก ที่แม้จะได้ทำใจอยู่บ้างหลังครูชลธีถูกส่งตัวแอดมิทเป็นการด่วนตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
แต่อย่างว่า ไม่เกิดกับตัวก็ไม่รู้-ไม่เข้าใจหรอกว่า การพลัดพรากจากคนที่รักนั้น มันทุกข์โศกเศร้าแค่ไหน อย่างไร?
ไม่ต้องดูอื่นไกล แค่คนที่รัก คนที่ชื่นชอบ ต้องจากไป-ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ร้องไห้ฟูมฟายชักดิ้นชักงอ เสมือนเป็นญาติโกโหติกา!
ครูชลธีนั้น ถ้าจะเอาประวัติมาเขียนเล่าก็คงยาว 3 วัน 3 คืนไม่จบ และผมก็เชื่อว่าผู้อ่านน่าจะรับรู้เรื่องราวชีวิตเทวดาเพลงท่านนี้อยู่บ้าง อย่างน้อยก็ต้องรู้ล่ะว่า..
ท่านแต่งเพลงดังๆไว้นับพัน และเป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับนักร้องลูกทุ่งหลายคนทั้งชาย-หญิง!
แต่เรื่องหนึ่งที่อาจจะรู้บ้าง-ไม่รู้ (จริง) บ้าง ก็เบื้องหลังความเป็นมาของเพลง “พอหรือยัง” ที่ขึ้นต้น.. “พอที นะคุณ การุณย์ ผู้ชายเถิดหนา อย่าคิดเอาความโสภา พร่าหัวใจ ผู้ชาย..
คุณสวย คุณเด่น ใครเห็น เป็นต้องงมงาย อดรัก คุณนั้นไม่ได้ ยอมตาย แทบเบื้องบาทคุณ” ที่ร้องโดย “ศรคีรี ศรีประจวบ” นั่นแหละ!
ครูชลธีได้เล่าให้ผมฟังว่า สมัยอยู่วงดนตรีรวมดาว ได้แอบรักหางเครื่องสาวสวยนางหนึ่ง จะว่าแอบรักข้างเดียวก็ไม่เชิงนัก ด้วยสาวเจ้าก็พอจะมีใจให้อยู่บ้าง..
แต่จะว่าฝ่ายหญิงได้มอบใจให้ครูหมดก็ไม่น่าใช่ ต้องพูดว่า “สวยเลือกได้” อะไรประมาณนั้น เพราะเธอมีหนุ่มๆ ในวงหลายคนหมายปอง ตามจีบ และเธอก็เหมือนจะมีใจให้กับทุกคน
วันหนึ่ง ขณะหลบตัวไปนั่งละห้อยสร้อยเศร้านึกเห็นแต่ใบหน้าหางเครื่องสาวอยู่ริมบ่อน้ำ ความในใจก็ได้พรั่งพรูออกมา ประโยคแรกเลย.. “พอที นะคุณ การุณย์ผู้ชายเถิดหนา”
จากนั้น ก็นั่งคิดนั่งครวญ นั่งเขียนเนื้อร้องไปจนท่อนท้าย.. “คุณคิด แจกจ่าย หัวใจ ไม่รู้จักพอ ผลกรรม ที่คุณนั้นก่อ สักวันเถิดหนอ คุณจะร้องไห้” ครูชลธีคุยใช้เวลาแต่แค่ประเดี๋ยวประด๋าวเอง
วันก่อน ผมเห็นในเฟซบุ๊กส์คุณไพวรินทร์ ขาวงาม ศิลปินแห่งชาติ ได้โพสต์.. ‘เพื่อให้หนูๆ คิดหันมาแต่งเพลงกัน ถ้ามีฝันอยู่นะ ถ้าใครไม่มีฝัน ไม่มีอุดมการณ์ อย่าคิด
เพราะการแต่งเพลงต้องทุ่มเททั้งจิตวิญญาณ และต้นทุนในการแต่งเพลงนั้น ข้อสำคัญที่สุด ภาษาไทยต้องแข็งแรง เดี๋ยวนี้ภาษาไทยเราอ่อนแอมาก ออกเสียงก็ไม่ชัดเลย
ซ้ำเพลงบางกลุ่มบางจำพวก ออกเสียงภาษาไทยก็ไม่ชัด ออกเหมือนภาษาอังกฤษ บางทีร้องจบเพลงแล้วยังไม่รู้เลยว่าพูดอะไร
ต้นทุนของการเขียนเพลง ต้องเป็นคนที่มีภาษาไทยแข็งแรง อักษรไทย ๔๔ ตัว เมื่อมาเขียนร้อยกรอง ออกมาเป็นบทเพลง เขียนได้เป็นพันๆ หมื่นๆ เพลง
หนูๆ ทั้งหลายต้องสนใจ เราเป็นคนไทย เราภูมิใจในภาษาของเรา คนที่ภาษาไทยแข็งแรง มีประโยชน์มาก เอาไปเขียนเป็นนิยายก็ได้
อยากฝากลูกหลานทุกคน ช่วยกันรักษาภาษาไทย ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง แล้วจะเป็นนักแต่งเพลงที่ดีได้…” ► ชลธี ธารทอง
[ บรรยายค่ายลายลักษณ์วรรณศิลป์ ครั้งที่ ๒ หออัครศิลปิน ปทุมธานี ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙ บันทึกภาพและถอดคำ โดย ไพวรินทร์ ขาวงาม ]
ครับ..ก็คงจะเป็นการบรรยายครั้งสุดท้ายของครู ส่วนที่ครูชลธีฝากให้หนูๆ ลูกๆหลานๆ “ช่วยกันรักษาภาษาไทย” นั้น จะใช่ช่วยกันรักษารึเปล่าไม่รู้..
ที่รู้-ที่เห็น ลูกโทรด่าแม่ลั่นบนรถตู้ หลังโมโหไม่ให้เงินซื้อรถ..
ไม่อยากมีชีวิต “ขี้ครอก”..ว่างั้น!