สันต์ สะตอแมน
เริ่มต้นสัปดาห์นี้..
จันทร์..เผาศพคุณชัยวัฒน์ ทวีวงศ์แสงทอง อดีต (รักษาการ) ประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ
อังคาร..เผาศพคุณพนม นพพร อดีตนักร้องเจ้าของเสียงเพลง “ลาสาวแม่กลอง” อดีตผู้อำนวยการสร้าง-ผู้กำกับฯ และอดีตนายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย
ก็..นับเป็นวาระ-โอกาสดีที่ได้พบปะเจอหน้าคนเก่า-คนแก่ ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือทั้งในวงการภาพยนตร์ ทั้งวงการเพลงลูกทุ่ง หลังจากที่ว่างเว้นไม่ได้สรวลเสเฮฮากันมาเสียนาน
คุยกับคุณยอดธง บุญธูป คนแต่งเพลง “ครูประชาบาล” ให้ยอดรัก สลักใจร้องแค่ท่านเดียว ก็พลอยได้รู้เรื่องราวข่าวสารของใครต่อใครไปทั่วแทบทั้งงาน
คุณยอดธงในวัย 80 ศิษย์เอกของ “ป๋าต๊อก” ไม่ได้นินทาใครให้ฟังหรอก หากแต่ได้ย้อนรำลึกความหลังของคนนั้น-คนนี้ เสมือนหนึ่งจะให้ผมบันทึกเก็บไว้เป็นข้อมูลยามต้องการใช้
อย่างประวัติของ คุณพนม นพพร ที่นอนอยู่บนเชิงตะกอน คุณยอดธงก็ได้เล่าเป็นเกร็ดความรู้เสียยืดยาว จนผมต้องเอ่ยปากด้วยความเคารพ..
“หยุดก่อนพี่ เขาจะเข้าพิธีการแล้ว”!
ก่อนที่คุณแสนรัก เมืองโคราช ตำนานโฆษกวงดนตรีสายัณห์ สัญญา จะได้ทำหน้าที่โฆษก..อ่านประวัติผู้วายชนม์ด้วยน้ำเสียงลีลาที่เป็นเอกลักษณ์-มีเสน่ห์เฉพาะตัว..
โดยที่แขกเหรื่อ คนแวดวงเพลงลูกทุ่งต่างนั่งฟังด้วยความสงบและตั้งใจ!
จบแล้ว..คุณยอดธงสะกิดผมพลางกระซิบค่อยๆ.. “แสนรักมันน่าจะยึดโฆษกอ่านประวัติคนตายเป็นอาชีพนะ เพราะหลังๆ นี้ไม่ว่าตลก-ลูกทุ่งใครตาย เขาจะเชิญมันไปอ่านประวัติแทบทุกงาน”
“งานพี่ล่ะ จองไว้รึยัง”? ผมแกล้งแซว.. “เออ ว่าจะลองคุยกับมันดู ไม่รู้มันคิดค่าอัฐ-ค่าตัวเท่าไหร่ แต่คงอีกนานวะ ตอนนี้ 80 แค่ไอเล็กน้อย พอ 90 ก็คงป่วยนิดๆ หน่อยๆ ก็ 100โน่นแหละ”
“ครับ..ขึ้นไปเผาศพเถอะ” ผมตัดบท แล้วพากันเดินขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์..อธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณคุณพนม นพพร สู่สุคติ ณสัมปรายภพนู้นเทอญ!
พูดเรื่องคนตาย..วันนี้ทราบข่าว มีอีกศพแถวๆ สัปปายะสภาสถาน เห็นว่าญาติโกโหติกาพากันโกรธและไม่พอใจ บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก..
บางคนร้องไห้เป็นลมล้มพับกับที่ต้องปฐมพยาบาลกันยกใหญ่!
และนี่..จะเป็นข่าวเดียวกับที่ไทยโพสต์ ออนไลน์รายงานหรือไม่ก็ให้พิจารณากันดู..
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล
สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน 42,000 หุ้น
และสั่งให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
นายสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดเสื้อแดง และการ์ดกลุ่มสามนิ้ว โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวว่า
“ทั้งด้อม ทั้งติ่ง ก็เลิกคลั่ง เลิกปั่น มันเป็นเกม ที่มีกฎระเบียบ ที่ทุกพรรคยินยอมเข้ามาเล่นด้วยความสมัครใจ
ทุกอย่าง ที่เกิดขึ้น ต้องย้อนไปดูว่า ผลที่มันเกิดขึ้น เหตุมันเกิดจากการกระทำ ว่าเราทำอะไรไว้ ทำไมผลถึงออกมาแบบนี้ ที่นี่ประเทศไทย มันคือเกม”
ครับ..ก็ขอแสดงความเสียใจ ส่วนใครจะร้องไห้ ฟูมฟายก็ร้องไปไม่ต้องเสียดายน้ำตา เพราะเข้าใจล่ะว่า..
การพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นทุกข์..อนิจจัง!
