คลิกฟังบทความ…⬇️
เปลว สีเงิน
วันนี้ ขอเป็น “ศิราณี” ซักวัน
คือมีแฟนท่านหนึ่งคอมเมนท์ถามผ่านท้ายคลิปไทยโพสต์ในยูทูป เมื่อวาน ว่า
…………………………….
พงศ์ธัช เกิดทับทิม
สวัสดี มีความสุขครับ คุณเปลว สีเงิน อ่านบทความ และบทวิเคราะห์แล้ว ประเทศไทยจะเดินหน้าไปในทิศทางไหนกันล่ะครับ?
เพราะ สองพรรค + กันแบบนี้..หันไปขวา..หันไปซ้าย..ต่างก้อพยักหน้าจับมือกันแน่น..ซะ..ขนาดนี้..ประเทศ..คง..หมดเกลี้ยง..แน่นอน ใช่มั้ย ครับ?
……………………………..
ก็ขอตอบคุณพงศ์ธัช ว่า….
ประเทศเกลี้ยงช่างมัน เหลือ “ศิริกัญญา” ไว้คนเดียว เดี๋ยวก็ฟื้น เธอ-นอกจากสวยชนิดเฉือนพรรณิการ์ขาดไปแค่คางแล้ว
ยังฉลาดเหนือมนุษย์และสัตว์
เพราะอย่างนั้น ธนาธร-ผู้มีอำนาจเหนือก้าวไกล ถึงได้ส่งเธอลงมาเป็น “ว่าที่รัฐมนตรีคลัง” ไงล่ะ
ต่อให้ “อดัม สมิธ+จอห์น เมนาร์ด เคนส์” ก็ยังไม่เท่า ๑ ศิริกัญญา เจ้าของทฤษฎี “๑ สูง ๑ ต่ำ”
-๑ สูง คือ ให้ค่าแรงขั้นต่ำสูงๆ สตาร์ท ที่ ๔๕๐ บาท
ด้วยค่าแรงสูงนั้น
จะทำให้หนี้สินครัวเรือนลดลง และสร้างกำลังซื้อ ทำให้เกิดสภาพคล่องในระบบธุรกิจการค้า
-๑ ต่ำ คือ ให้เปิดแบงก์มากๆ
ด้วยแบงก์มากๆ นั้น ก็จะทำให้แบงก์แข่งกันปล่อยกู้ ด้วยระบบแข่งขัน จะทำให้ดอกเบี้ยต่ำลง
ด้วยดอกเบี้ยที่ต่ำ ประชาชนก็จะเข้าถึงแหล่งเงินทั้งง่าย-ทั้งมากขึ้น การกู้เอาไปกิน-ไปใช้นั้น จะเป็นแรงฉุดเครื่องจักรเศรษฐกิจให้หมุนในอัตราเร่ง
ศิริกัญญา…เธอช่างหัวแหลมยิ่งกว่าหัวลิง คิดสูตรนี้ออกมาได้ไง มันครอบคลุมทั้งเศรษฐศาสตร์จุลภาค-มหภาคเลยรู้มั้ย!
ทำให้หมดห่วงไปเลย เรื่องที่ว่า รัฐจะหาเงินที่ไหน มาแจกจ่ายเป็นสวัสดิการตามนโยบายก้าวไกล
เช่นคนชราเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท ค่าแปลงเพศ-ค่าผ้าอนามัย “รัฐจ่าย” นั่นน่ะ
ในเมื่อรัฐบาลไกล นำไอเดีย เปิดแบงก์มากๆ แข่งกู้ แล้วดอกเบี้ยจะลด นั้น ไปประยุกต์ใช้กับนโยบายอื่นๆ เช่น…
-“สุราเสรี”
การส่งเสริมการแข่งผลิตให้มากๆ ส่งเสริมแหล่งบริการให้มีมากๆ สนับสนุนการดื่มสุราให้มากๆ จะได้เก็บภาษีมากๆ
-“เซ็กซ์เสรี-กะหรี่ก้าวหน้า”
ตามทฤษฎี “เศรษฐศาสตร์การซ่อง” ของก้าวไกล นั้น
จะช่วยเร่งส่งเสริม “การขายตัว” ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนจะเก็บภาษีเป็น “รายประตู”
หรือคิด “ราคาประเมิน” เป็นเดือน ตรงนี้ ผมจนปัญญา
ต้องให้ว่าที่รัฐมนตรีคลังก้าวไกลผู้รอบรู้และเชี่ยวชาญ เจียระไนไอเดีย ให้สรรพากรและสรรพสามิตไปดำเนินการ
แต่ถึงขั้นต้องแต่งตั้ง “คณะกรรมาธิการตรวจสอบประตูเซ็กซ์เสรี” จากสมาชิกสภา ไปทำหน้าที่นายตรวจหรือไม่?
คงต้องนำเรื่องเข้าครม.๘ พรรคชี้ขาด!
ด้วยนโยบาย “การเงิน-การคลัง” นี้
แม้ประเทศถึงขั้น “หมดเกลี้ยง” แต่รับรองไม่ถึงขั้น “หมดตูด” แน่นอน
เพราะนโยบาย “สุราเสรี-โสเภณีก้าวหน้า” ของก้าวไกล
อย่างน้อยๆ ถ้าซวยจริงๆ….
ก็ยังเหลือร่างโทรมและซากซ่องและเครื่องต้มกลั่นฝากไว้ในแผ่นดิน เป็นมรดกอนาคตของคนรุ่นใหม่ ด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
ว่าชาติไทย ยุค “แยกชาติ-ล้มสถาบัน” ของคนรุ่นใหม่ โดยรัฐบาล ๓ นิ้ว
เคยรุ่งเรืองขีดสุด…..
ด้วยอุตสาหกรรมต้มเหล้าเสรี และอาชีพโสเภณี คือเสรีภาพในร่างกายของกู
“เหล้าเสรี-โสภณีก้าวหน้า” นั้น
เป็นทฤษฎีเศรษฐศาสตร์คิดค้นใหม่ของรัฐบาลคนรุ่นใหม่ ด้วยหลักการ
เพื่อให้ประชาชน “เข้าถึง” และ “จับต้องได้” ในราคาดื่มและเสพสม ที่เป็นธรรม ทั้งสุราที่ดื่ม ทั้งโสเภณีที่บริการ
ดังนั้น รัฐบาลก้าวไกล จึงส่งเสริมการผลิต ให้ผลิตสุราเสรีมากๆ เปิดสถานบริการ-สถานมั่วสุมมากๆ ชนิด ๒๔ ชั่วโมง
เพราะด้วยระบบเสรี ภาษีปากประตู ตัดคนกลางและค่าคุ้มครองจากตำรวจออกไป เหลือแต่ค่ามาเฟียการเมือง
ซ่องและร้านเหล้าก็จะพรึ่บเสรีทุกหัวระแหง
ไม่เว้นตามซอกข้างศาสนสถาน-ข้างโรงเรียน-ในมหา’ลัย ก็จะทำให้เกิดการแข่งขันในระบบ “ตลาดเสรี” ทั้งตลาดล่างและตลาดบน
ด้วยทฤษฎี “เศรษฐศาสตร์การสุราและการซ่อง” นี้
ก็จะทำให้ทั้งประชาชน ทุกชนชั้น…..
ทั้งนักเรียน-นักศึกษา เข้าถึงสุราและโสเภณี ในที่ราคาถูกลง!
ฉะนั้น คุณพงศ์ธัช สบายใจได้ ยังไงๆ ก็ยังเหลือซาก
ทีนี้ ถึงประเด็นที่ ๒ ที่คุณพงศ์ธัช ถามว่า ประเทศไทยจะเดินไปทิศทางไหน ในเมื่อ ๒ พรรคจับมือกันแน่น
๒ พรรคที่ว่านั้น คงหมายถึง “ก้าวไกลกับเพื่อไทย” ใช่มั้ยครับ?
ถ้าใช่ ก็ ม.ห.คือ “หมดห่วง” ได้เลย คุณพงศ์ธัช
เพราะผมดูการเดินแต้มในกระดานของเพื่อไทยแล้ว แค่แหย่เม็ด, ทิ่มเบี้ยหน้าขุน ให้ก้าวไกล “หลงกิน” เพื่อเปิดช่องขยับโคนกรุยทางขุนเท่านั้น
ได้ยินอาจารย์วันนอร์ “ประธานสภา” ให้สัมภาษณ์นักข่าวเมื่อวาน ว่า พฤหัสที่ ๑๓ กรกฎา.จะประชุมรัฐสภา โหวตเลือกนายกฯ
ถามว่า แล้วเพื่อไทยจะยังโหวตให้พิธา-ก้าวไกล เป็นนายกฯมั้ย?
โหวตให้ ๑,๐๐๐%
แบบนี้ หมายความว่า เพื่อไทยก็ยังจับมือแน่นกับก้าวไกล เพื่อเป็นรัฐบาลด้วยกันน่ะซี?
ก็บอกแล้ว แค่ขยับโคน “พิทักษ์ขุน” และขุนนั้น ไม่ใช่พิธา-ขุนของก้าวไกล หากแต่เป็น “ขุน” ของเพื่อไทยเองตะหาก
ประธานวันนอร์บอก……
ถ้ารอบแรกไม่ผ่าน ก็จะเสนออีกซัก ๒-๓ รอบ ต่อจากนั้น ถ้าพิธายังไม่ผ่าน คือได้เสียงโหวตให้เป็นนายกฯ ไม่ถึง ๓๗๖ เสียง ขึ้นไป
ถึงตอนนั้น ค่อยมาว่ากันอีกที จะเอาไงต่อ!?
นั่นก็คือ พิธารู้ อุ๊งอิ๊งรู้ ธนาธรรู้ ทักษิณรู้ คือ ทุกคนรู้หมด ว่าพิธา-พ่อของส้ม “ล่มปากอ่าว” ๑,๐๐๐%
ดังนั้น เพื่อไทยจะทำลายภาพลักษณ์ “พรรคอันดับ ๒” โดยทำตัวเป็นพรรคไม่อยู่กับร่องกับรอยให้เสียหมาไปทำไม?
มิสู้ทำยึดมั่นใน MOU ไปจนถึงวินาทีสุดท้าย
เมื่อพิธาหงายท้อง มรดกที่ได้ มันจะตกไปซะที่ไหนล่ะ?
ในเมื่อ ๓ รอบ ๑๐ รอบ พิธาก็ไม่ผ่านด่านสว.
เพื่อประเทศชาติต้องเดินหน้า เพื่อไทย พรรคอันดับ ๒ ก็จำต้องเสียสละเพื่อชาติ รับเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลแทนก้าวไกล
แล้วเพื่อไทย จะเอาพรรคก้าวไกลร่วมด้วยมั้ย?
ทักษิณเป็นแค่หัวหน้าคอกหมา ไม่ใช่คอกควาย
ฉะนั้น ทักษิณจะบอกก้าวไกลเหมือนที่เคยบอกคนเสื้อแดง ว่า….
“ผมขึ้นฝั่งแล้ว อย่าแบกเรือตามผมมา กลับไปเถอะ” ประมาณนั้น
เพราะทักษิณอ่านขาด ถ้ายังเอาก้าวไกลผู้มีนโยบายยกเลิกมาตรา ๑๑๒ ร่วมเป็นเรือพ่วง
เพื่อไทย+ก้าวไกล ไม่ว่าจะเสนออุ๊งอิ๊ง, เศรษฐา หรือใครก็ตาม เป็นนายกฯ
๑๐ รอบ ๑๐๐ รอบ ก็ไม่ผ่านด่านสว.!
ดังนั้น ที่เห็นเขาจับมือกันแน่นนั้น ก็แค่ตอนนี้ อีกไม่กี่วันเองก็ถึง ๑๓ กรกฎา.ก็จะเห็น หมากตาเรือสกัดตาเดินก้าวไกล
ส่วนเพื่อไทยจะขยับม้า “รุกฆาต” กินทั้งโคน-ทั้งขุนก้าวไกลตอนไหน?
ไม่รู้ เดือนกรกฎา.ทั้งเดือน จะถึงตอนนั้นหรือไม่ ก็ต้องดูไปทีละตาก่อน
เอาเท่านี้ คุณพงศ์ธัช น่าจะสบายใจขึ้นนะ
คือ ใครเป็นนายกฯ ตอนนี้ ยังเป็นลูกเต๋า “หมุนติ้วๆ” อยู่ในถ้วย
ที่ค่อนข้างชัวร์ ก้าวไกลกับเพื่อไทย จะร่วมเป็นรัฐบาลด้วยกัน มีโอกาสแค่ ๐.๐๐๑%
แต่โอกาสเพื่อไทย “แยกขั้ว” จากก้าวไกล ไปจับ “ขั้วใหม่” ตั้งรัฐบาล มีโอกาส ๙๙.๙๙%
ถ้าผิดจากนี้ ให้ถือว่า “ผมไม่ได้พูด” นะ!
เปลว สีเงิน
๖ กรกฎาคม ๒๕๖๖