PMT The Hour Glass เฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 15 ปีแห่งความร่วมมือทางธุรกิจ โดยจัดงานขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรม Waldorf Astoria กรุงเทพมหานคร พร้อมนิทรรศการพิเศษที่บอกเล่าไมล์สโตนและความสำเร็จของบริษัทมาตั้งแต่ปี 2551 นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวนาฬิการุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นแบบเอ็กซ์คลูซีฟจากพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญภายในงานอีกด้วย
• เริ่มต้นจากบูติก 2 แห่งในปี 2551 ปัจจุบัน PMT The Hour Glass มีบูติกมากกว่า 15 แห่งที่เปิดให้บริการใน 4 หัวเมืองใหญ่ทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม รวมถึงจุดจำหน่ายเรือนเวลาของพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญอย่าง Rolex, Patek Philippe, Hublot และ Tudor โดยวางเป้าหมายในการขยายบูติกเพิ่มขึ้นเป็น 20 แห่งภายในสิ้นปี 2566
• เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองที่สำคัญนี้จึงได้เปิดตัวนาฬิการุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นจาก Hublot, Ulysse Nardin, Girard-Perregaux, MB&F และ URWERK
ความร่วมมือทางธุรกิจจากความหลงใหลที่มีร่วมกัน
PMT The Hour Glass เริ่มต้นจากการจับมือระหว่าง คุณณรัณ ธรรมาวรานุคุปต์ และ คุณไมเคิล เทย์ ที่พบกันในปี 2550 โดยทั้งสองต่างมาจากครอบครัวที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับนาฬิกาจึงทำให้พวกเขาสร้างความสัมพันธ์ขึ้นจากความหลงใหลที่มีต่อเรือนเวลาเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าคุณณรัณและคุณไมเคิลต่างบริหารกิจการนำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกาของครอบครัว หากยังต้องใช้เวลานานกว่า 12 เดือนเพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกันก่อนจะตัดสินใจลงทุนก่อตั้งธุรกิจร่วมกันในที่สุด หลังจากนั้นธุรกิจร่วมค้า (joint-venture) PMT The Hour Glass ได้ถือกำเนิดขึ้นใน วันที่ 1 เมษายน 2551 นับเป็นจุดเริ่มต้นบทใหม่สำหรับสองนักธุรกิจหนุ่มซึ่งเป็นผู้นำตลาดเรือนบอกเวลาในประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นับจากนั้นเป็นต้นมา PMT The Hour Glass ได้เป็นต้นแบบในการเผยแพร่ความหลงใหลในนาฬิกา ด้วยการจัดงานอีเว้นต์ที่น่าสนใจหลายงานด้วยกัน โดยในปี 2554 ได้จัดงาน Tempus on Tour ยึดครองพื้นที่ Hall of Mirrors ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งเป็นงานจัดแสดงศาสตร์แห่งเครื่องบอกเวลาชั้นสูงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดขึ้นในประเทศไทย
ภายในปีเดียวกันนั้นงานประมูล The Only Watch ได้แวะมาเปิดตัวในเมืองไทย พร้อมนาฬิกาผลงานชิ้นโดดเด่นโดยแบรนด์ชั้นนำ และแบรนด์นาฬิกา artisanal และในปี 2562 คอลเลกชั่นนาฬิกาที่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศในงานอันทรงเกียรติ Grand Prix d’Horlogerie de Genève ได้ถูกนำมาจัดแสดงให้เหล่าคนรักนาฬิกาในประเทศไทยได้ชม
ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้น ณ PMT The Hour Glass บูติก สาขาสยามพารากอน งานจัดแสดงนาฬิกาในรูปแบบดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่มีความสนใจในนาฬิกาในประเทศไทยได้เข้าถึงสุดยอดแห่งศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิการ่วมสมัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในขณะเดียวกันก็ได้สร้างความเข้าใจอันลึกซึ้งยิ่งขึ้นในเรื่องประวัติศาสตร์ งานช่างฝีมือ และเทคโนโลยีเบื้องหลังศาสตร์แห่งการประดิษฐ์นาฬิกา
ความร่วมมือทางธุรกิจจากความหลงใหลที่มีร่วมกัน
ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของธุรกิจร่วมค้า PMT The Hour Glass ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการส่งเสริมวัฒนธรรมการสะสมนาฬิกาซึ่งมีพื้นฐานมาจากความหลงใหลที่มีต่อเรือนเวลา การผลิตนาฬิกา และอุตสาหกรรมนาฬิกา จากความหลงใหลนี้เองได้ต่อยอดให้บริษัทมุ่งหน้าสู่ความเป็นเลิศด้านการดำเนินงานเชิงธุรกิจและบริการ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์พันธมิตรหลักและยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
PMT The Hour Glass มีความภาคภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้บริหารบูติกแฟล็กชิปของ Patek Philippe ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร ซึ่งเปิดให้บริการในปี 2561 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นผู้แทนจัดจำหน่ายแบรนด์ Rolex ในประเทศไทยที่ดูแลบูติก Rolex ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี และโชว์รูมอีก 4 แห่งในกรุงเทพมหานครและภูเก็ต
และในฐานะเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์ของแบรนด์ Hublot ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บูติก Hublot ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนและเซ็นทรัลเอ็มบาสซีในกรุงเทพมหานครยังติดอันดับหนึ่งใน 10 บูติกนาฬิกาที่มียอดขายสูงที่สุดในโลกของปี 2565 นอกจากนี้ในฐานะพันธมิตรสำคัญของแบรนด์ Tudor ในประเทศไทย PMT The Hour Glass ยังได้รับความไว้วางใจให้เปิดบูติก Tudor แห่งแรกในประเทศไทยภายใต้คอนเซ็ปต์ล่าสุดของแบรนด์ ทั้งนี้แผนการเปิดบูติก Tudor แห่งที่สองภายในสิ้นปีนี้ยังคงดำเนินการไปตามแผน
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกา PMT The Hour Glass ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการตอบสนองต่อความปรารถนาของผู้มีใจรักในนาฬิกา และด้วยความหลงใหลที่มีร่วมกันยังส่งผลให้ PMT The Hour Glass เข้าใจในความต้องการของแบรนด์นาฬิการ่วมสมัยอีกด้วย ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้แทนนำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์นาฬิกาช่างฝีมืออย่าง MB&F, URWERK และ De Bethune ในประเทศไทยมาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ซึ่งช่วยสร้างสายสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์พันธมิตรและลูกค้าของเรานับตั้งแต่นั้นมา
นอกจากนี้หลังจากที่ทาง PMT The Hour Glass ได้ศึกษาตลาดนาฬิกาในประเทศเพื่อนบ้านมานานกว่า 5 ปี ทำให้ทางบริษัทมีความมั่นใจที่ไปขยายธุรกิจที่ประเทศเวียดนาม โดยปัจจุบันได้มีการบริหารบูติกทั้งที่ กรุงฮานอยและกรุงโฮจิมินห์
การแสวงหาวิธีการเผยแพร่วัฒนธรรมนาฬิกา
“การเดินทางของ PMT The Hour Glass เริ่มต้นขึ้นในปี 2551 พร้อมกับความปรารถนาในการเติมเต็มความหลงใหลในชีวิตของผู้คนด้วยการเผยแพร่วัฒนธรรมนาฬิกาในประเทศไทย บริษัทมุ่งเน้นให้บุคลากรในองค์กรส่งมอบประสบการณ์นาฬิกาแบบร่วมสมัยที่ดีที่สุดให้กับนักสะสมและคนรักนาฬิกาในเมืองไทย
ซึ่งเป็นตลาดนาฬิกาลักซ์ชูรีที่มีศักยภาพสูงมากอยู่แล้ว และด้วยการเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปีครั้งนี้ เรารู้สึกว่านี่คือโอกาสที่จะได้มองสะท้อนภาพความสำเร็จและแบ่งปันความทรงจำอันมีค่าเหล่านี้กับเหล่าพาร์ทเนอร์และลูกค้าของเรา” ณรัณ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท PMT The Hour Glass กล่าว
เฉลิมฉลองร่วมกับพันธมิตรของเรา
เนื่องในโอกาสพิเศษสำหรับการแสดงความขอบคุณต่อพันธมิตรทางธุรกิจ คุณณรัณ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท PMT The Hour Glass ได้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติคนสำคัญเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง อาทิ คุณชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์,
คุณกฤษณา อัมพุช รองประธานกรรมการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด, คุณชาญ ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด, คุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Fashion and Luxury Partner Management บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และคุณเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอ็มโพเรียม กรุ๊ป
นอกจากนี้ PMT The Hour Glass ยังได้เปิดตัวนาฬิการุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นแบบเอ็กซ์คลูซีฟร่วมกับพันธมิตรสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น Hublot, Girard-Perregaux, Ulysse Nardin, MB&F และ URWERK โดยจะวางจำหน่ายที่บูติกของ PMT The Hour Glass ในประเทศไทย
Hublot Spirit of Big Bang 5-Day Power Reserve Carbon Green Camo
Hublot ร่วมเฉลิมฉลอง 15 ปีแห่งพันธมิตรกับ PMT The Hour Glass ด้วยนาฬิกาตัวเรือนทรงถังเบียร์ระดับไอคอนิกของแบรนด์ที่มาในสีเขียวทหารกับ Hublot Spirit of Big Bang 5-Day Power Reserve Carbon Green Camo นำเสนอการเดินทางที่ท้าทายจากเทือกเขาสวิสสู่ป่าเขตร้อนเขียวชอุ่มของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นการตอกย้ำเอกลักษณ์ของแบรนด์ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Art of Fusion’ ให้กับหมู่นักสะสมและคนรักนาฬิกาในเมืองไทย
นาฬิการุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นเรือนนี้จึงถูกมาในสีสันใหม่แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของการออกแบบเอาไว้ด้วยคอนเซ็ปต์ศิลปะแห่งการผสมผสานได้อย่างสมบูรณ์แบบ วางจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 30 เรือน
Ulysse Nardin Freak X Enamel Blue
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 15 ปีแห่งพันมิตรกับ PMT The Hour Glass และเพื่อแสดงความเคารพต่อนักสะสมนาฬิกาชาวไทยผู้มีความหลงใหลในการผลิตนาฬิกาชั้นสูงและงานฝีมือที่หายากอย่างลึกซึ้ง Ulysse Nardin ได้เผยโฉมโมเดลพิเศษ Freak X Enamel Blue ซึ่งนับเป็นครั้งแรกสำหรับโอกาสนี้
กล่าวได้ว่านาฬิกา Freak X Enamel Blue คือการผสมผสานศิลปะงานช่างฝีมือเก่าแก่เข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยองค์ความรู้ของช่างฝีมือของแบรนด์ Ulysse Nardin โดยเฉพาะ ความโดดเด่นของนาฬิกาอยู่ที่อาวร์ดิสก์มีการสลักลวดลายกิโยเช่ที่สะท้อนถึงดีไซน์ที่ทันสมัย ตามมาด้วยเทคนิคการลงยา ซึ่งเป็นเทคนิคการตกแต่งที่สืบทอดโดยช่างมือจากรุ่นสู่รุ่นโดยจะต้องอาศัยความชำนาญอันเป็นเลิศและความละเอียดประณีตเท่านั้น
และในฐานะผู้พิทักษ์เทคนิคการลงยาอันเชี่ยวชาญ Ulysse Nardin ไม่เพียงแต่เคารพองค์ความรู้จากอดีต แต่ยังคงสืบทอดมาสู่ปัจจุบันและดำเนินต่อไปในอนาคตแห่งโลกนาฬิกาชั้นสูง ความเชี่ยวชาญอันเป็นเลิศในศิลปะงานฝีมือโบราณอย่างเทคนิคการลงยา ได้ผสมผสานอยู่การออกแบบอันเปี่ยมด้วยนวัตกรรมของนาฬิกา Freak รุ่นใหม่นี้ วางจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือน
Girard-Perregaux Laureato Chronograph ขนาด 42 มม.
Girard-Perregaux ภูมิใจนำเสนอนาฬิการุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น Laureato Chronograph เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 15 ปีแห่งพันธมิตรอันแน่นแฟ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกับ PMT The Hour Glass โดยโมเดลรุ่นใหม่นี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบของรุ่น Laureato ระดับตำนานที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1975 เอาไว้ โดยมีหน้าปัดเป็นสีเขียวซันเรย์ที่ถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ ตัวเรือนขนาด 42 มม. รังสรรค์จากพิงค์โกลด์ 18 กะรัต ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือน
MB&F Legacy Machine FlyingT
นาฬิการุ่น Legacy Machine FlyingT เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 เป็นเรือนเวลาแห่งศิลปะสามมิติเรือนแรกของ MB&F ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุภาพสตรี และล่าสุดในปี 2023 Legacy Machine FlyingT ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่กับ ‘Coeur de Rubis’ ซึ่งได้รับการตั้งชื่อจากหน้าปัดโทนสีชมพูชวนหลงใหลที่รังสรรค์ขึ้นจากอัญมณีจากแทนซาเนียที่เรียกว่าเอนิโอไลต์ (Anyolite) หรือที่เรียกว่า ‘Coeur de Rubis’ ในภาษาฝรั่งเศสนั่นเอง
นาฬิการุ่นพิเศษนี้ผลิตมาในจำนวนจำกัดเพียง 5 เรือนสำหรับ PMT The Hour Glass ในกรุงเทพมหานครเท่านั้น เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 15 ปีและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับ MB&F
URWERK UR-100V – 3 Pieces Unique
นับจากแรกเริ่ม คอลเลกชั่น 100 ได้ถูกคิดค้นขึ้นด้วยความเรียบง่ายและความมินิมัลเป็นที่ตั้ง แม้ว่า ‘ความเรียบง่าย’ จะเป็นคำที่อธิบายได้ง่ายดาย แต่กระนั้นก็ไม่อาจสะท้อนถึงหัวใจอันเป็นแก่นแท้ของภาษาการออกแบบเชิงศิลป์อันงดงามของ Martin Frei และความสามารถทางเทคนิคแห่งเครื่องบอกเวลาของ Felix Baumgartner ได้ทั้งหมด โดยผลงานรุ่นก่อนมีการแสดงชั่วโมงและนาทีแบบโคจรแบบไร้เข็มชี้ที่มีพื้นฐานมาจากการโคจรของแซทเทิลไลต์
กล่าวได้ว่า UR-100V มีความเป็น URWERK ที่ชัดเจนมากกว่าครีเอชั่นอื่นๆ ที่เคยมีมาเพราะแสดงให้เห็นถึงแนวคิดในการพัฒนาเรือนเวลาที่มีความเชื่อมโยงกับอวกาศ การบรรจุช่องเปิดขนาดยาวสองช่องบนด้านข้างของตัวนำแซทเทิลไลต์คือการวัดและแสดงระยะทางกิโลเมตรที่โลกเดินทางไปตามแกนของตนเองใน 20 นาที นั่นคือระยะทาง 555 กิโลเมตร ขณะที่อีกตัวนำหนึ่งยังคงเป็นการนับกิโลเมตร แต่เป็นผลลัพธ์จากการเดินทางของโลกรอบดวงอาทิตย์ในระหว่างช่วงระยะเวลาเดียวกัน
เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์พิเศษที่มีกับ PMT The Hour Glass ทาง URWERK จึงได้รังสรรค์นาฬิกาที่มีเอกลักษณ์พิเศษ 3 เรือน ได้แก่ เวอร์ชั่นสีเขียวประดับเพชรและมรกต, เวอร์ชั่นสีแดงประดับเพชรและทับทิม และเวอร์ชั่นสีน้ำเงินประดับเพชรและแซปไฟร์สีน้ำเงินโดยทั้งสามเรือนมาพร้อมตัวเรือนและขอบตัวเรือนที่ทำจากสตีลและไทเทเนียม ประดับอัญมณี 482 เม็ด รวมทั้งหมด 2 กะรัต
