นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า หมูเถื่อน เป็นเนื้อสุกรลักลอบนำเข้า ที่ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัย ผู้บริโภคจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อน นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการนำโรคระบาดเข้ามาในประเทศไทย โดยโรคระบาดที่สำคัญ อาทิ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever : ASF) และโรคปากเท้าเปื่อย (Foot and Mouth Disease : FMD) ที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรไทย และเสี่ยงต่อความปลอดภัยในอาหารของผู้บริโภค
“สำหรับผู้บริโภค แนะนำให้เลือกซื้อเนื้อสุกรจากสถานที่หรือแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ และมั่นใจได้ว่าไม่มีการนำเนื้อหมูเถื่อนมาจำหน่าย ในส่วนของกรมปศุสัตว์ มีโครงการที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค คือ “โครงการปศุสัตว์ OK” ที่ กรมปศุสัตว์ ให้การรับรองว่าเนื้อสุกรหรือเนื้อสัตว์ที่จำหน่ายมีความปลอดภัยได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ว่ามาจากฟาร์มเลี้ยงที่ได้มาตรฐาน และมาจากโรงชำแหละที่ถูกสุขอนามัย
โดยให้สังเกตตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” ที่ช่วยตอกย้ำความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่าได้บริโภคเนื้อหมูของไทยที่ผลิตได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยในอาหารอย่างแน่นอน”นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าว
ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง โดยอยู่ในระหว่างสอบสวนสืบสวนติดตามว่ามีการลักลอบนำ “หมูเถื่อน” ส่งขายตามร้านค้า แหล่งจำหน่าย หรือสถานที่ตัดแต่งใด โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าติดตามไปจนถึงสถานที่ดังกล่าว
หากตรวจสอบพบว่า เนื้อสุกรเหล่านั้นไม่มีแหล่งที่มา หรือมาจากการลักลอบนำเข้า จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ฉะนั้นจึงขอเตือนผู้ที่ลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน หรือผู้ที่สนับสนุนโดยการซื้อและนำมาจำหน่ายให้ผู้บริโภค ขอให้หยุดการกระทำในทันที
ด้าน ธุรกิจบริการอาหาร หรือ Food Service ขอให้ตรวจสอบว่าเนื้อสุกรเหล่านั้น มาจากแหล่งผลิตในประเทศหรือเป็นเนื้อสุกรที่มาจากการลักลอบนำเข้า หากมีเบาะแสว่าเนื้อสุกรที่ซื้อมาใช้สำหรับนำไปตัดแต่ง หรือนำไปแปรรูปเพื่อให้ประชาชนบริโภค อาจไม่ใช่เนื้อสุกรในประเทศ
ขอให้แจ้งผ่านช่องทางของกรมปศุสัตว์ ที่สายด่วนแจ้งโรคระบาดกรมปศุสัตว์ call center 06-3225-6888 หรือแอปพลิเคชัน DLD4.0 “แจ้งการเกิดโรคระบาด” ที่มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรายงานผลให้ผู้ร้องเรียน ทราบว่าได้รับการแก้ไขหรือไม่
“ขอฝากไปถึงผู้ประกอบการ หากดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและนำสินค้าเนื้อหมูที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน มาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค ย่อมทำให้ผู้บริโภคปลอดภัย และเกษตรกรผู้เลี้ยงมีกำลังใจในการผลิตสุกรที่มีคุณภาพ ส่งต่อไปยังให้ผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง” อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวทิ้งท้าย