18 พฤษภาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำเตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าของรัฐ โทรศัพท์สอบถามข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลสำคัญอื่นๆ ยืนยันหน่วยราชการไม่มีนโยบายโทรศัพท์สอบถามข้อมูลจากประชาชน ถึงแม้จะมีการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนจากส่วนราชการให้ระมัดระวังมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อกลโกงมิจฉาชีพ
นางสาวรัชดา กล่าวว่า ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อและอย่าสนทนาหากมีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกหรือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งจังหวัด โทรสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล ทะเบียนรถ เพื่อเป็นการตรวจสถานะความเป็นเจ้าของทะเบียนรถ แล้วให้โหลดแอปพลิเคชันหรือให้เข้าไปกดลิงค์ยืนยัน หากไม่เข้าไปยืนยันข้อมูล จะทำให้ข้อมูลของเจ้าของรถถูกลบและไม่สามารถเรียกคืนได้
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้ยืนยันว่า ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรตรวจสอบความเป็นเจ้าของทะเบียนรถและให้โหลดแอปพลิเคชันหรือให้เข้าลิงค์เพื่อเข้าไปยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด
สำหรับการแอบอ้างของมิจฉาชีพที่นำข้อมูลส่วนบุคคลไปทำให้เกิดความเสียหายและสูญเสีย ทรัพย์สิน ดังนี้
1.การแจ้งชื่อ นามสกุล ทะเบียนรถ
2.การแจ้งให้โหลดแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถของตัวเอง
3.การให้เข้าลิงก์ที่ทางผู้แอบอ้างส่งมาให้ เพื่อยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความดูแลของกรมการขนส่งทางบก เช่น เจ้าของรถมีรถกี่คัน,เลขทะเบียน
4.การอ้างว่าหากไม่เข้าไปยืนยันข้อมูลดังกล่าว จะทำให้ข้อมูลของเจ้าของรถถูกลบและไม่สามารถเรียกคืนได้
“มิจฉาชีพหรือผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อหลอกลวงประชาชน เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น มีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 140,000 บาท
หากประชาชนพบผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก สามารถแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วนกรมการขนส่งทางบก โทร.1584 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นางสาวรัชดา ย้ำ