เอ็มโอยู ม.๑๑๒-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

โฉมหน้าแรกของรัฐบาลถัดไปกำลังปรากฏ

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แถลงข่าวในนาม “ว่าที่นายกรัฐมนตรีประเทศไทย”

“ผมได้โทรศัพท์ไปหาแกนนำ ๕ พรรค ได้โทรศัพท์ไปหาคุณแพทองธาร แสดงความยินที่มีความมุ่งมั่นหาเสียง พร้อมเชิญชวนร่วมตั้งรัฐบาลพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ ๕ พรรคที่พูดถึงมีพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย รวมกัน ๓๐๘ เสียง และกำลังติดต่อไปยังพรรคเป็นธรรม ที่เราเห็นความตั้งใจทำงานเรื่องความสันติภาพใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมแล้วเป็น ๓๐๙ เสียง เพียงพอตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ปิดประตูตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

๕ พรรคพร้อมพูดคุยในรายละเอียด ทั้งเรื่องคน นโยบาย แผนการทำงาน และจำเป็นต้องทำเอ็มโอยูเหมือนกับสากล ให้ประชาชนเห็นได้ว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ๑๐๐ วันและ ๑ ปีจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง”

หากดีลนี้จบ เท่ากับ “ทักษิณ” หมอบ!

ประเด็นที่ต้องพูดคุยกันต่อคือ การเลือกนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งต้องใช้เสียงถึง ๓๗๖ เสียง ขึ้นไป

หมายความว่า “พิธา” ยังต้องพึ่งเสียง ส.ว. ๖๗ เสียง

ถือว่าไม่มาก เพราะวุฒิสภามีสมาชิกทั้งสิ้น ๒๕๐ เสียง

หาก “พิธา” เดินหน้าจับมือขั้วฝ่ายค้านเดิมเข้าสภา เล่นเกมวัดใจ ส.ว. โดยมีฉันทามติจากประชาชน ที่เลือกส.ส. ๓๐๙ เสียง เป็นเกราะกำบัง จะเป็นเกมที่บีบหัวใจสำหรับ ส.ว.ทั้ง ๒๕๐ คน

ส.ว.ชุดนี้อยู่มาเกือบจะครบวาระ เท่าที่สดับตรับฟังความรู้สึกเป็นคนของคณะรัฐประหารค่อนข้างเจือจางไปแล้ว

การโหวตหรือไม่โหวตชื่อ “พิธา” เป็นนายกฯ ไม่ใช่เรื่องเป็นคนของ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” อีกต่อไป

ประเด็นหลักอยู่ที่ นโยบายแก้ไข ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล

นี่คือเงื่อนไขสำคัญในการตัดสินใจของ ส.ว.

ก้าวไกลบ่มเพาะการแก้ ม.๑๑๒ มานานนับปี หาก “พิธา” ได้เป็นนายกฯ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องนำประเด็นนี้เข้าสภาในทันที

ในช่วงการเป็นฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกล ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากที่สุดประเด็นหนึ่ง

จุดยืนนี้ยังปรากฏในเว็บไซต์พรรคก้าวไกล

…ม.๑๑๒ มีปัญหาในทุกมิติ ทั้งตัวบทกฎหมายและการบังคับใช้ พรรคก้าวไกลจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแก้ไข ม.๑๑๒ โดยข้อเสนอแก้ไข ม.๑๑๒ ของเราเป็นข้อเสนอที่พอจะพูดคุยกันกับทุกฝ่ายด้วยเหตุและผลได้

ทั้งนี้ เราต้องยอมรับความจริงว่าหากสภาผู้แทนราษฎรไม่ร่วมมือกันอย่างแข็งขันเพื่อช่วยกันแก้ไขให้กฎหมายนี้เป็นธรรมขึ้นได้ สังคมก็จะเหลือเพียงตัวเลือกสุดท้าย คือ การยกเลิก ม.๑๑๒ ไปอย่างถาวรตามข้อเรียกร้องของประชาชนนอกสภา

หลังจากที่ร่างแก้ไข ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกลถูกสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดองไว้เป็นเวลากว่า ๙ เดือน (ยื่นเข้าสู่สภา มาตั้งแต่วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔) มาวันนี้ สถานการณ์มีความหนักหนาสาหัส เร่งด่วนขึ้นจนถึงจุดวิกฤต ประชาชนถูกจับกุมคุมขัง เยาวชนถูกจับเข้าคุก ไม่ได้สิทธิประกันตัวนับร้อยคนด้วยข้อหา ๑๑๒ พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องขอให้ประธานสภาบรรจุวาระพิจารณาร่างแก้ไข ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกลเข้าสู่สภาเพื่อเริ่มการพิจารณาโดยทันที…

การแถลงข่าววานนี้ (๑๕ พฤษภาคม) “ว่าที่นายกรัฐมนตรีประเทศไทย” ยังคงยืนยันประเด็น ม.๑๑๒ และพ่วงนิรโทษกรรมเข้ามาด้วย

“…จุดยืนเรื่องการแก้ไขมาตรา ๑๑๒ นั้น ขณะนี้ทุกเรื่องยังไม่คุยในรายละเอียดกับแต่ละพรรค แต่เรื่องการแก้ไขมาตรา ๑๑๒ สามารถทำได้ในสภา ตอนนี้พรรคก้าวไกลมี ๑๕๑ เสียง ถือว่าเกินที่สามารถเสนอได้ โดยใช้สภาเป็นตัวแก้ไข พูดคุยอย่างมีวุฒิภาวะและละเมียดละไม

แต่ที่มากกว่าการแก้ไขคือ ทบทวนผู้ได้รับผลกระทบจากคดีการเมืองทั้งหมด และโอกาสนิรโทษกรรม เพราะเป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่กับสถาบัน ถ้าไม่รีบพูดคุย อาจเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ของการเมืองไทยที่ผมไม่อยากเห็น…”

แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น “พิธา” ยังต้องเรียนรู้ว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น จะมีการต่อรองอย่างโหดร้ายที่สุด

ไม่มีใครได้อะไร ๑๐๐%

คนอย่าง “ลุงตู่” ตอนตั้งรัฐบาลก็หนีไม่พ้นเรื่องนี้

การตั้งรัฐบาลต้องเฝ้ามองอย่างใจเย็นครับ

นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น

แถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่อ่านโดย “ชลน่าน ศรีแก้ว” นั้น หาก “พิธา” อ่านเกมออก คงต้องกุมขมับครับ

เรื่องแสดงความยินดี เป็นเรื่องมารยาททางการเมือง

พรรคเพื่อไทยยอมรับให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล ก็เป็นเรื่องมารยาททางการเมือง

พรรคเพื่อไทย เห็นด้วยที่พรรคก้าวไกลจะเชิญพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลตามที่แถลงไว้ แต่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ยืนยันว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลด้วย

สิ่งที่พรรคเพื่อไทยยืนยันคือ ไม่มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล

และทิ้งท้ายว่า ในการจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นในการหารือ และกระบวนการต่างๆ ให้เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายดำเนินการ จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ในทางการเมือง เพื่อไทยขอดูก้าวไกลตั้งรัฐบาล ว่าตั้งได้หรือเปล่า

และเงื่อนตายคือ “เอ็มโอยู” ที่ “พิธา” ต้องการมัดพรรคร่วมรัฐบาลไว้ด้วยกัน

หากเอ็มโอยู มีประเด็น แก้ ม.๑๑๒ ของก้าวไกล ที่มีเนื้อหาแทบไม่ต่างยกเลิกนั้น เพื่อไทยจะยอมเซ็นและปฏิบัติตามหรือไม่

ฉะนั้นสถานการณ์ในขณะนี้ของ “พิธา” ที่ประกาศว่าตัวเองเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้มั่นคงนัก หากรวมเสียงไม่ได้ พรรคอื่นจะขยับแทน

สูตรตั้งรัฐบาลอีกสูตร ที่น่าจับตามอง

เพื่อไทย ๑๔๑

ภูมิใจไทย ๗๑

พลังประชารัฐ ๔๐

ชาติไทยพัฒนา ๑๐

ประชาชาติ ๙

ไทยสร้างไทย ๖

จะเป็นรัฐบาล ๒๗๗ เสียง

หมดปัญหาประเด็น ม.๑๑๒ การขอเสียงจาก ส.ส.ไม่ยากลำบากนัก

การตั้งรัฐบาลขณะนี้เพิ่งจะนับหนึ่ง

เฝ้าดูครับว่า ก้าวไกล จะหลุดจากกับดักตัวเองหรือไม่

Written By
More from pp
โรงแรม 3 แห่งในเครือ เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ จังหวัดระยอง ได้รับประกาศนียบัตรรับรอง จากกรมอนามัย ผ่านมาตรฐาน โรงแรม/ที่พัก สะอาดปลอดภัย ป้องกันโรค Covid-19
อัษณา จันเทพา ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส โรงแรมคลาสสิค คามิโอ ระยอง, พลับพลึง ยิ้มเมือง  ผู้จัดการ โรงแรม คามิโอ แกรนด์ ระยอง และ กิตติเดช...
Read More
0 replies on “เอ็มโอยู ม.๑๑๒-ผักกาดหอม”