คลิกฟังบทความ…?
เปลว สีเงิน
แสดงความยินดีกับ “พรรคก้าวไกล” เป็นทางการครับ
ที่ชนะเลือกตั้ง เป็นที่ ๑
ทั้งระบบพรรคและระบบเขต รวมได้สส. ๑๕๒ คน
และยินดีล้วงหน้ากับ “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์”
ที่ประกาศพร้อมเป็น “นายกรัฐมนตรี” คนที่ ๓๐
และประกาศเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล ๖ พรรค ประกอบด้วย
ก้าวไกล ๑๕๒ เสียง, เพื่อไทย ๑๔๑ เสียง, ประชาชาติ ๙ เสียง, ไทยสร้างไทย ๖ เสียง, เสรีรวมไทย ๑ เสียง และพรรคเป็นธรรม ๑ เสียง รวม ๓๑๐ เสียง
สาธุ ขอให้สำเร็จ..ขอให้สำเร็จ!
พูดกันตรงๆ เมื่อก้าวไกลกับเพื่อไทย ๒ พรรค มีสส.รวมกันร่วม ๓๐๐ เสียงเช่นนี้
ตัดประเด็นเรื่องใครคิดจะตั้ง “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ไปได้เลย เพราะไม่มีทางเกิดขึ้นได้
ฉะนั้น เราจะคุยกันบนฐาน “เคารพเจตนารมณ์” ประชาชนส่วนใหญ่ ที่ต้องการให้ก้าวไกลหรือเพื่อไทยเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ โดยไม่มีนัยอื่นซ่อนเร้นในแต่ละซอกอักษร
เข้าใจตรงกันตามนี้นะ!
ผมอยากบอกนายพิธาและแฟนๆ ก้าวไกลว่า ดีใจได้ ที่พรรคชนะที่ ๑ แต่อย่าเพิ่งรีบดีใจ กับตำแหน่งนายกฯ
ผมเข้าใจ “โลกสวย” ของพิธา……
แต่ฟังที่พิธาแถลง ว่าโทรไปเชิญพรรคนั้น-พรรคนี้ มาร่วมเป็นรัฐบาลแล้ว นั้น มันเลื่อนลอย
พรรคอื่นๆ ๔ พรรค เขาอาจโอเค.ก็ได้
แต่ผมไม่แน่ใจ “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งมีสส.เป็นอันดับ ๒ เขาโอเค.ด้วยหรือยัง
ระวังนะ จะเป็นเพียงพิธา “ทึกทัก” ฝ่ายเดียว!?
พิธานั้น จะว่าไป เหมือนพระบวชใหม่ในโบสถ์การเมือง ยังไม่แตกฉานบาลี จนรู้วิธีเลี่ยงอาบัติ ในการฉันมาม่าตอนเย็น
ผิดกับเพื่อไทย แก่พรรษาถึงขั้น “แตกลายงา”
อย่าว่าแต่มาม่าเลย ซุปรังนกเขาก็ยังรู้วิธีพลิกแพลงฉัน จากอาหารให้เป็นโอสถ!
ฉะนั้น ก่อนพรรคจะฉลองตำแหน่ง “นายกฯ พิธา” อยากให้เอาแถลงการณ์ของเพื่อไทยมานั่งแกะภาษา “บาลีการเมือง” ให้ชัดใน “กลเกมภาษา” ก่อน
อุ๊งอิ๊ง เศรษฐา ชลน่าน ประเสริฐ ภูมิธรรม นั่งเป็นแผง หลังพิธาแถลง แล้วชลน่านอ่านแถลงการณ์ตอนหนึ่งว่า
“……….พรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดี และยอมรับที่พรรคก้าวไกลเสนอตัวเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
และเห็นด้วย ที่พรรคก้าวไกล จะเชิญพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลตามที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้แถลงไว้
พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า
ไม่มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล
พรรคเพื่อไทยเห็นว่า
ในการจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นในการหารือ และกระบวนการต่างๆ ให้เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายดำเนินการ จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน”
ไหน….
มีคำไหน วรรคไหน ที่เพื่อไทยเขาบอก “ยินดีร่วมตั้งรัฐบาลที่ก้าวไกลเป็นแกนนำ?
เห็นมีแต่เขาเพียงบอก “เพื่อไทยจะไม่จัดตั้งรัฐบาลแข่งกับก้าวไกล” เท่านั้น
คือเปิดทางให้พรรคอันดับ ๑ ตั้งรัฐบาลก่อนตามมรรยาทไม่มีคำไหนที่บอกพร้อม เอา ๑๔๑ เสียง ไปเป็น “พระอันดับ” ให้ก้าวไกลเลย!
ต้องชมว่าคนเขียนแถลงการณ์ เขาเก่ง
อ่านเผินๆ จะเข้าใจว่าเพื่อไทยตอบรับร่วมจัดตั้งรัฐบาล
แต่จริงๆ แล้ว เขายังไม่ตอบรับหรือตอบปฎิเสธคำเชิญ เพียงใช้ศิลป์ภาษารับไมตรีลักษณะรักษาหน้ากันไว้ ในขณะเดียวกัน ก็ยังไม่ “ปิดประตูตาย” ในทางเขา
นี่คือความเก๋าการเมืองของเพื่อไทยที่ “เจ็บมาเยอะ”
ไม่ใช่มีผู้ชายมากวักมือ ก็แก้ผ้าวิ่งแรดๆ ตามเขาเข้าดงกล้วยทันที-ทันใด!
และพิธา ตีคำในแถลงการณ์ “วรรคสุดท้าย” ให้แตกนะ
ที่เขาว่า…….
“ในการจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นในการหารือ และกระบวนการต่างๆ ให้เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายดำเนินการ”
นี่คือ เพื่อไทยบอกว่า
มึงอยากตั้ง ก็ตั้งไป อยากจะเซ็น MOU ก็เซ็นไป อยากเป็นนายกฯ อยากควบกลาโหม ก็ควบไป อยากได้กระทรวงไหน ก็อยากไป
อยากแก้-อยากเลิก ม.๑๑๒ ก็แก้ไป อยากเลิกเกณฑ์หารเลย ก็เลิกไป
และอยากนิรโทษกรรม เหมาเข่ง ภาค ๒ ทั้งในประเทศ-นอกประเทศ ทั้งหมด ก็ฝันไป
คือให้ก้าวไกล “นำหน้า” ว่าไปเองตามสบาย ส่วนเพื่อไทยเขาจะนั่งดูเฉยๆ (ยัง) ไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย!
อีกอย่าง พรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่พิธาเชิญมาด้วย นั่นถามทักษิณ…เอ๊ย เพื่อไทยเขาหรือยัง ว่าโอเค.มั้ย?
หรืออย่างพรรคประชาชาติ ของอาจารย์วันนอร์ เขาเซย์ เยส หรือยัง เพราะพื้นฐาน ประชาชาติเป็น “ญาติสนิท” กับเพื่อไทยโดยตรง
ส่วนเสรีรวมไทย ของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส กับพรรคเป็นธรรม พรรคละ ๑ เสียง นั้น คงไม่เป็นปัญหา
โดยเฉพาะพรรคเป็นธรรม ของดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ นั้นเป็นพรรคเน้นการเมืองใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้
ทั้งเลขาฯ-รองเลขาฯ พรรค ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนกับยูเอ็น อยู่ในกลุ่มสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) และสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS)
เรียกว่าแนวร่วมก้าวไกล แก้ ม.๑๑๒ แล้ว นโยบายเขายัง ให้ยุบกอ.รมน., ยุบศอ.บต. ให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ และรณรงค์ให้ “ปาตานีจัดการกันเอง”
ที่พิธาเจาะจงเชิญพรรคเป็นธรรมมาร่วม ก็เช่นนี้แหละ ฉะนั้น ที่ถามกันว่าพรรคนี้คือใคร เป็นมาอย่างไร ก็ไม่ต้องถามอีกนะ
ทีนี้ มาถึงประเด็นอาจทำให้พิธาต้องหุบยิ้ม คือผมขอถามว่า ในสมการ รัฐบาล ๓๑๐ เสียง มีพิธาเป็นนายกฯ นั้น
กุญแจสำคัญ อยู่ที่ ๑๕๒ เสียง ของก้าวไกล
หรืออยู่ที่ ๑๔๑ เสียง ของเพื่อไทย?
๓๑๐ เสียงนั้น ถ้าเพื่อไทยไม่เอา ๑๔๑ เสียงมาผสม ก็จะเหลือ ๑๖๙ เสียง!!!!
วิมานที่ฝัน “พังทลาย” ในพริบตา
แล้วจะไปเชิญพรรคไหนมาเป็นแท่นรองตีนให้ล่ะ พลังประชารัฐก็เผด็จการ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ก็เคยร่วมเผด็จการ
สรุปแล้ว ก้าวไกล “ขาดเพื่อไทย” เพียงพรรคเดียว เท่ากับขาดใจ หา “พรรคอะไหล่” ที่ไหนมาทำให้เป็น “เสียงข้างมาก” ไม่ได้เลย!
แล้วทำไงทีนี้ นอกจากยอมยกเก้าอี้นายกฯ ให้อุ๊งอิ๊งหรือเศรษฐา และให้เศรษฐาเลือกกระทรวงดีๆ ไปก่อน แบบนี้ยอมมั้ย?
ไม่ยอมก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ สุดท้าย ก็ต้องให้พรรคอันดับ ๒ คือเพื่อไทยเขาจัดตั้ง
เพื่อไทย ๑๔๑ เสียง ส่งเทียบเชิญ ภูมิใจไทย ๗๐ เสียง, พลังประชารัฐ ๔๐ เสียง, ประชาธิปัตย์ ๒๕ เสียง ชาติไทยพัฒนา ๑๐ เสียง
และเป็นไปได้สูง ที่จะเอาพรรคประชาชาติ ของอาจารย์วันนอร์มาอีก ๙ รวม รวมเบ็ดเสร็จเป็น ๒๙๕ เสียง
เห็นมั้ย….
ความเป็นไปได้ ที่เพื่อไทยจะตั้งรัฐบาล “เสียงข้างมาก” มีมากกว่าก้าวไกลหลายขุม
ยิ่งได้ลุงป้อม-พลังประชารัฐ มาด้วย
ในความเป็น “ตาอิน-ตานา” เพื่อตัดปัญหาก็ยกเก้าอี้นายกฯ ให้ “ตาอยู่” คือลุงป้อมเป็นซักพรรษา-สองพรรษา
การันตีเลย “โหวตนายกฯ” จะมากกว่า ๓๗๖ เสียง!
แล้วให้ “ก้าวไกล” กับ “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นฝ่ายค้าน!!!
เห็นมั้ย….
ผมถึงบอก ตราบใดที่พิธายังไม่ถือพานธูปเทียนแพไปกราบอุ๊งอิ๊งให้ประทับทรงถามคุณพ่อเขาก่อน
ว่าพ่อเขาเอายังไง?
ถ้าตกลงกันได้ พิธากับอุ๊งอิ๊ง “๒ พรรค” มานั่งแถลงร่วมกันเป็นแกนตั้งรัฐบาล แบบนั้นถึงจะเชื่อได้
ส่วนใคร-ฝ่ายไหนเป็นนายกฯ ก็ว่ากันไป
เร็วเข้า…อย่าช้านะ
เพราะคุณพ่อสหรัฐฯ โดย “โกเดค” ท่านทูตสหรัฐฯ ประจำไทย เร่งยิกๆ อยู่ เพราะบ้านเคยอยู่ อู่ตะเภา…เอ๊ย ไม่ใช่ อู่เคยนอน เขาก็อยากจะเข้ามานอนไวๆ
การเมือง เป็นเรื่องของ “นักการเมือง” เขา
ส่วน “ประเทศชาติบ้านเมือง” เป็นเรื่องของเรา
มาตรา ๕๐ ตามรัฐธรรมนูญ ระบุไว้ว่า……….
บุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ไม่รู้ผูกพันกับ “ทุกองค์กร” หรือเปล่า?
เพราะเห็น “ทุกองค์กร” จะอุเบกขากันแทบทั้งนั้น!
เปลว สีเงิน
๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖