ชาวปัตตานีแห่รับ “ลุงตู่” อ้อน ขอให้เลือกกลับมาทำงานเพื่อความสุขของคนไทยอีกครั้ง เพราะยังอยากทำงานเพื่อชาติต่อ ย้ำอย่าให้ใครมายุยงโดยเฉพาะเยาวชนจะต้องรักพ่อแม่ รู้สึกโมโหทุกครั้งที่ได้ยินคนพูดทำให้สังคมแตกแยก พร้อมปล่อยคำหวาน รู้ว่าคนใต้รักใครรักจริง ดังนั้น “รักจริงอย่าทิ้งตู่นะ อย่าทิ้งผม”
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อม นายอนุชา บูรพชัยศรี รองหัวหน้าพรรค เดินทางถึง จ.ปัตตานี
โดยได้เข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ และ ศาลหลักเมือง จ.ปัตตานี ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มารอต้อนรับพร้อมขอถ่ายภาพ และส่งเสียงเชียร์ “ลุงตู่ สู้ๆ” กระหึ่ม โดยต่างพากันขอเข้าไปใกล้ชิด “พล.อ.ประยุทธ์” จนทำให้ลานหน้าศาลหลักเมือง จ.ปัตตานีแคบไปทันที
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ขึ้นรถแห่ไปรอบเมือง โดยมี ทีมผู้สมัคร ส.ส.ปัตตานี ทั้ง 5 เขต ได้แก่ เขต 1 นายไฟซอล อีสเฮาะ เบอร์ 7,เขต 2 นายศิรวัชโชติ รัตนมาลา เบอร์ 8,เขต 3 นายซาตา อาแวกือจิ เบอร์ 5,เขต 4 นายอริญชัย ซูสารอ เบอร์ 5 และ เขต 5 นายยุซรี ซูสารอ เบอร์ 5 ขึ้นขบวนรถแห่หาเสียง ไปยังจุดสำคัญต่างๆ ใน จ.ปัตตานี โดยมีประชาชนชาว ปัตตานี รอต้อนรับตลอดสองข้างทางจนกระทั่งถึงวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี เพื่อกล่าวปราศรัยบนเวที
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองครั้งนี้ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการชี้ชะตาประเทศ เพราะประเทศเราต้องการความสงบสุข หากขัดแย้งกันก็จะทำให้โอกาสของประเทศหายไป โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศ
วันนี้มารับทราบปัญหาว่ายังมีอยู่อีกมาก รับปากว่าจะค่อยๆ แก้ไขไป เพราะบางเรื่องต้องใช้เวลาแต่จะทำให้อย่างแน่นอน ที่ จ.ปัตตานีนี้ เจอกันทีไรก็รู้สึกตื้นต้น เพราะเจอกันมานานแล้วตั้งแต่ตนเป็นทหาร ตอนนี้เป็นนายกฯ ทำงานให้กับทุกคน แต่จะได้เป็นนายกฯ อีกต่อไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับทุกคน
ขอย้ำว่าขอให้ทุกคนรักกันอย่าแตกแยก เวลาได้ยินว่าบางคนสอนเด็กว่าไม่ต้องรักพ่อแม่ เพราะแค่ทำให้เกิดขึ้น ก็รู้สึกมีอารมณ์โมโหทุกที เพราะมันทำแบบนั้นไม่ได้ จึงขอให้คนไทยให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่าทำให้ใครมายุยง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนรักทุกคน ขอให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองเป็นเมืองที่ปลอดภัย เหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต ขอให้คนรุ่นหลังรักษาสถาบันหลักของชาติ และเคารพพ่อแม่ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นสังคมที่สวยงาม ที่ผ่านมาในสังคมเราสามารถอยู่ร่วมกันได้แบบพหุวัฒนธรรม (สังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เชื้อชาติศาสนา วิถีชีวิต ความคิดและวิถีปฏิบัติของกลุ่มชนในสังคมนั้นๆ เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขสามัคคี และการเปิดรับ การไหลบ่าทางวัฒนธรรม) ทำให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดมา
อย่าลืมเลือกเบอร์ 22 พรรครวมไทยสร้างชาติ และฝาก ส.ส.เขตของพรรคด้วยให้ช่วยกันเลือก เพื่อจะให้พรรครวมไทยสร้างชาติได้มีโอกาสเข้าไปทำงานให้กับคนไทยอีกครั้ง วันนี้ตนเป็น “บังตู่” และรู้ว่าคนใต้รักใครรักจริง ดังนั้น “รักจริงอย่าทิ้งตู่นะ อย่าทิ้งผม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวปัตตานีทุกคนที่มาต้อนรับครั้งนี้ อยากขอให้ทุกคนสู้เพื่อชาติ อดทนสู้ ทำไปเพื่ออนาคตของประเทศ ตนทำงานมาแล้ว 8 ปี งานหลายอย่างยังไม่เสร็จก็อยากจะเข้ามาสานต่อ เพราะตอนนี้สถานการณ์หลายอย่างของประเทศ ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ ดีขึ้นไปมากแล้ว สัญญาว่าจะทำให้ดีขึ้นๆ ไปอีก
หากมีโอกาสได้มาเป็นรัฐบาล ทำต่อและทำเพิ่ม เพื่ออนาคตปัตตานี และประเทศไทยของพวกเราทุกคน อยู่กับตนรับรองได้ว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบก่อน เอาใครเข้ามาไม่สงบก็เท่ากับว่าทำให้บ้านเมืองถอยหลังไปอีก ดังนั้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ขอให้ทุกคนออกไปเลือกตั้ง และอย่าลืมเบอร์ของ ส.ส.เขต และเบอร์ 22 ช่วยกาให้ทั้ง 2 ใบ เพื่อให้ “ลุงตู่” ได้กลับเข้ามาทำงานเพื่อทุกคนอีกครั้ง
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางไปปราศรัยอีก 1 จุด บริเวณเวทีปราศรัย ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีคนมารอฟังนับ 1,000 คน โดยยังคงย้ำ ว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือความรักความสามัคคี ให้ไปดูในโลกใบนี้จะเห็นได้ว่าประเทศอื่น ไม่สุขสบายเท่ากับอยู่ประเทศไทย ทั้งเรื่องอากาศเรื่องเศรษฐกิจ แต่ถ้าตนเป็นรัฐบาลจะดูแลเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง เรื่องที่อยู่อาศัย ในส่วนของเรื่องปัญหาที่ดินตอนนี้ก็ได้ทำไปมากแล้ว บางคนออกมาบอกว่าจะออกโฉนดได้แต่จริงๆแล้วกฎหมายมันไม่อำนวยให้ทำได้
ดังนั้น อย่าไปเชื่อ สิ่งที่ตนทำคือจะดูว่าพื้นที่หรือที่ดินไหนที่อยู่ได้ก็จะอยู่ตรงนั้นต่อไป ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องของน้ำท่วม ของภาคใต้ก็ได้มีการแก้ไขปัญหามาตลอด ทั้งที่พยายาม แก้ไขมาแต่ก็ลำบากยังแก้ไขไม่ได้ การทำงานของรัฐบาลหลายพรรคอาจจะทำให้แก้ปัญหาได้ยาก วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือการเลือกส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติให้เข้าสภาให้มากที่สุด เพื่อให้ได้นายกที่ชื่อประยุทธ์ หรือ แบยุ ในภาษาของชาวปัตตานี
“ที่จริงผมเป็นคนสนุกสนานไม่ได้เป็นคนที่โมโห คนที่เห็นในโทรทัศน์ไม่ใช่ตัวตน ที่แท้จริงของผม แต่ที่จริงเป็นคนที่พูดจาไพเราะ มีนะจ๊ะนะจ๊ะ ตลอดเวลา ยังไงก็ตามหน้าตาเป็นเรื่องภายนอกที่สำคัญคือเรื่องจิตใจคนไทยทุกคนจะต้องรักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ส่วนตัวของผมเองต้องรักประชาชนทั้ง 70 ล้านคนคือครอบครัวของผมที่ต้องดูแลในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
